ความสัมพันธ์ยุโรป-รัสเซียตึงเครียด โปแลนด์สั่งปิดสถานกงสุลรัสเซีย อ้างพบหลักฐานมอสโกอยู่เบื้องหลังวางเพลิง

13-5-2025

   โปแลนด์สั่งปิดสถานกงสุลรัสเซีย หลังพบหลักฐานมอสโกอยู่เบื้องหลังวางเพลิงศูนย์การค้า โปแลนด์ประกาศสั่งปิดสถานกงสุลรัสเซียในเมืองคราคูฟทางตอนใต้ของประเทศ หลังจากพบหลักฐานชัดเจนว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังเหตุวางเพลิงศูนย์การค้าในกรุงวอร์ซอเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้รัสเซียเหลือสถานกงสุลในโปแลนด์เพียงแห่งเดียว ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ตึงเครียดมากขึ้น

    ราโดสลาฟ ซิคอร์สกี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า เขาได้สั่งให้ปิดสถานกงสุลรัสเซียในเมืองคราคูฟภายใน 30 วัน หลังจากทางการโปแลนด์พบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ารัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุวางเพลิงที่ทำลายศูนย์การค้าในกรุงวอร์ซอเกือบทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ ทางการโปแลนด์ยังได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

"นี่เป็นเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าครั้งใหญ่ในกรุงวอร์ซอ ซึ่งโชคดีมากที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง" ซิคอร์สกี้กล่าวระหว่างการเยือนสหราชอาณาจักร "ดังนั้นสถานกงสุลรัสเซียจะต้องออกไป และหากการโจมตีเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไป เราจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม"

   การตัดสินใจนี้ส่งผลให้ปัจจุบันรัสเซียเหลือสถานกงสุลในโปแลนด์เพียงแห่งเดียวที่เมืองกดัญสก์ หลังจากสถานกงสุลในเมืองโปซนานถูกสั่งปิดไปก่อนหน้านี้เพื่อตอบโต้การก่อวินาศกรรมครั้งอื่นๆ ที่สงสัยว่าได้รับการสนับสนุนจากมอสโก

   การประกาศของซิคอร์สกี้มีขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ได้เปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X (เดิมคือ Twitter) ว่า "ทางการโปแลนด์ได้ทราบเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ที่แมรีวิลสกาเป็นผลมาจากการวางเพลิงที่สั่งการโดยหน่วยงานข่าวกรองของรัสเซีย"

"การปฏิบัติการครั้งนี้ถูกประสานงานโดยบุคคลที่อาศัยอยู่ในรัสเซีย ผู้ก่อเหตุบางรายถูกจับกุมควบคุมตัวแล้ว ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการที่เหลือได้รับการระบุตัวตนแล้วและอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม" ทัสก์กล่าว พร้อมเน้นย้ำว่า "เราจะจับให้ได้ทั้งหมด!"

   ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ออกมาแถลงว่าจะมี "การตอบโต้อย่างเหมาะสม" ต่อการปิดสถานกงสุลดังกล่าว มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวผ่านสำนักข่าว Interfax ว่า "วอร์ซอกำลังทำลายความสัมพันธ์ระหว่างโปแลนด์และรัสเซียอย่างจงใจ และกระทำการที่ขัดต่อผลประโยชน์ของพลเมืองตนเอง"

    เหตุเพลิงไหม้ที่ถูกกล่าวถึงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2567 ที่ศูนย์การค้า Marywilska 44 ในเขตทางตอนเหนือของกรุงวอร์ซอ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีร้านค้าและจุดบริการกว่า 1,400 แห่ง โดยส่วนใหญ่ดำเนินการโดยผู้ค้าชาวเวียดนาม แม้จะเกิดความเสียหายอย่างมาก แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

   สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศในยุโรปหลายประเทศกำลังกล่าวโทษรัสเซียว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อวินาศกรรม ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสงครามผสมควบคู่ไปกับการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบของเครมลิน โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม ลิทัวเนียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านก็ได้กล่าวหารัสเซียว่าเป็นผู้ลงมือวางเพลิงห้างสรรพสินค้าอิเกียในกรุงวิลนีอุส เมืองหลวงของประเทศเมื่อปีที่แล้วเช่นกัน ซึ่งน่าสังเกตว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 3 วันก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ศูนย์การค้าในโปแลนด์

   ความสัมพันธ์ระหว่างวอร์ซอและมอสโกซึ่งตึงเครียดมาโดยตลอดได้เลวร้ายลงอย่างมากนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกโจมตียูเครนเมื่อต้นปี 2565 โดยโปแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขันที่สุดในยุโรป

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.dw.com/en/poland-to-shut-russian-consulate-as-russia-blamed-for-arson/a-72515900