.

UN เตือน ‘ความช่วยเหลือที่เริ่มเข้ากาซา’ เป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ ยังถือว่าห่างไกลจากคำว่าเพียงพอ
23-5-2025
หลังจากถูกตัดขาดจากความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมานานกว่า 11 สัปดาห์ รถบรรทุกบรรเทาทุกข์จำนวนหนึ่งได้เริ่มส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นเข้าสู่ฉนวนกาซาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (22 พ.ค.) ซึ่งนับเป็นการส่งความช่วยเหลือครั้งแรกตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ทว่าทางองค์การสหประชาชาติเตือนว่า ความช่วยเหลือเหล่านี้ “ยังไม่เพียงพออย่างยิ่ง” และประชาชนจำนวนมากยังตกอยู่ในภาวะวิกฤต
หน่วยงานเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของยูเอ็น (OCHA) ระบุว่า ขณะนี้มีรถบรรทุกมากกว่า 90 คันลำเลียงแป้ง อาหารเสริมสำหรับเด็ก และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ เข้าสู่กาซาตอนใต้ โดยบางส่วนถูกส่งต่อไปยังโรงอบขนมปังในพื้นที่ เพื่อให้สามารถกลับมาให้บริการได้ทันที อย่างไรก็ตาม ความสิ้นหวังของประชาชนทำให้เกิดเหตุปล้นรถบรรทุก 2 คันเมื่อวันพุธ
ทางด้านกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) แสดงความวิตกว่าความช่วยเหลือที่เข้ามานั้นยังไม่สามารถเข้าถึงประชาชนที่ต้องการอย่างเร่งด่วน และในหลายพื้นที่ภายในกาซากำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนขั้นวิกฤต
สเตฟาน ดูจาริก โฆษกเลขาธิการยูเอ็น เผยว่าการเจรจากับอิสราเอลเกี่ยวกับเส้นทางลำเลียงภายในกาซายังมีอุปสรรค โดยหลายเส้นทางที่ถูกอนุญาตให้ใช้นั้น “แออัด ไม่ปลอดภัย และมีความเสี่ยงสูงต่อการปล้นเนื่องจากประชาชนอดอยากมาเป็นเวลานาน”
นอกจากนี้ ยูเอ็นยังระบุว่า ไอเท็มที่สำคัญอย่างผลิตภัณฑ์สุขอนามัยและเชื้อเพลิงยังไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้า ขณะที่โรงพยาบาลในหลายพื้นที่ เช่น โรงพยาบาลอินโดนีเซียและโรงพยาบาลคามาล อัดวัน ต้องปิดให้บริการ ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 400,000 คนในพื้นที่ภาคเหนือของกาซา ขณะเดียวกัน การโจมตีทางทหารของอิสราเอลยังคงดำเนินต่อเนื่อง และมีการบังคับโยกย้ายประชาชนออกจากพื้นที่อย่างกว้างขวาง ทำให้ขณะนี้กว่า 80% ของประชาชนในกาซาต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีคำสั่งอพยพหรืออยู่ในโซนควบคุมทางทหารของอิสราเอล
คณะกรรมการกาชาดสากล (ICRC) เปิดเผยว่า ได้รับรถบรรทุกเวชภัณฑ์เพียงคันเดียวสำหรับโรงพยาบาลสนามในราฟาห์ และยังต้องใช้เวลาฟื้นฟูคลังเวชภัณฑ์จากการขาดแคลนตลอด 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา
“อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาชี้ชะตา” คณะกรรมการกาชาดสากล (ICRC) กล่าว พร้อมเตือนว่าวิกฤตด้านน้ำในกาซากำลังรุนแรงขึ้นอย่างน่าวิตก โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทางใต้ เช่น อัล-มาวาซี ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่ประชาชนอพยพไปอาศัยอยู่ตามคำแนะนำของอิสราเอล ทว่าพื้นที่ดังกล่าวกลับไม่มีระบบประปารองรับ ต้องพึ่งพาการส่งน้ำผ่านรถบรรทุกเป็นหลัก
ในกาซาซิตี้ โฆษกรัฐบาลท้องถิ่น นายอาเซ็ม อัลนาบิห์ ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า ขณะนี้พื้นที่กำลังเผชิญกับ “วิกฤตน้ำอย่างรุนแรง” เนื่องจากเชื้อเพลิงที่ใช้เดินระบบสูบน้ำและโรงกรองน้ำขาดแคลนอย่างหนัก ขณะที่โรงผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของกาซาก็ตั้งอยู่ในเขตที่ประชาชนถูกสั่งให้อพยพออกไป ส่งผลให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างแรงกดดันมหาศาลต่อทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด และทำให้การดำรงชีวิตของประชาชนในกาซายิ่งยากลำบากขึ้นไปอีกขั้น
IMCT News
ที่มา: https://edition.cnn.com/2025/05/22/middleeast/gaza-aid-trickles-un-not-enough-intl