อิหร่านตอบโต้มติIAEA ประกาศสร้างยูเรเนียมแห่งใหม่

อิหร่าน ตอบโต้ มติ IAEA 'ประกาศสร้างโรงเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแห่งใหม่' พร้อมขู่ถอนตัวจากสนธิสัญญา NPT หากถูกคว่ำบาตร
13-6-2025
Al Jazeera รายงานว่า คณะกรรมการผู้ว่าการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศลงมติประณามอิหร่านไม่ปฏิบัติตามพันธกรณี ด้านเตหะรานตอบโต้ประกาศสร้างโรงเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแห่งใหม่ คณะกรรมการผู้ว่าการของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ ได้อนุมัติมติประณามอิหร่านว่าไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีด้านการป้องกันนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ แหล่งข่าวทางการทูตเปิดเผยกับสำนักข่าวอัลจาซีรา ซึ่งส่งผลให้เตหะรานตอบโต้อย่างรวดเร็ว
มติดังกล่าวผ่านการลงคะแนนเมื่อวันพฤหัสบดี (6 มิถุนายน 2568) ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 19 เสียง คัดค้าน 3 เสียง และงดออกเสียง 11 เสียง จากคณะกรรมการผู้ว่าการที่มีทั้งหมด 35 ประเทศ
ประเด็นสำคัญที่ระบุในมติคือ ความล้มเหลวของอิหร่านในการให้คำอธิบายที่น่าเชื่อถือแก่ IAEA เกี่ยวกับร่องรอยยูเรเนียมที่ตรวจพบในสถานที่ที่ไม่ได้แจ้งไว้ในอิหร่าน แม้ทบวงการฯ จะสอบสวนประเด็นนี้มาหลายปีแล้วก็ตาม
เนื้อหาของมติที่สำนักข่าวรอยเตอร์เข้าถึงได้ระบุว่า "ความล้มเหลวหลายครั้งของอิหร่านในการปฏิบัติตามพันธกรณีนับตั้งแต่ปี 2562" ในการให้ "ความร่วมมืออย่างเต็มที่และทันท่วงทีกับ IAEA เกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์และกิจกรรมที่ไม่ได้แจ้งไว้ในหลายพื้นที่ที่ไม่ได้ประกาศ ถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามพันธกรณี" ภายใต้ข้อตกลงกับหน่วยงานของสหประชาชาติ
ในการตอบโต้ กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านและองค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมประกาศว่า ประเทศจะสร้างโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแห่งใหม่ "ในสถานที่ที่มีความปลอดภัย" และเสริมว่า "มาตรการอื่นๆ จะมีการประกาศในภายหลัง"
ในแถลงการณ์แยกที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์ม X องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านยังประกาศว่าจะเปลี่ยนเครื่องเหวี่ยงแยกไอโซโทปรุ่นแรกที่สถานีนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ด้วยเครื่องเหวี่ยง "รุ่นที่หกขั้นสูง" ซึ่งบ่งชี้ว่าอิหร่านจะดำเนินการเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ต่อไป
สำนักข่าว Press TV ของอิหร่านยังอ้างคำกล่าวของกระทรวงการต่างประเทศว่า มติของคณะกรรมการ "ไม่มีพื้นฐานทางเทคนิคและกฎหมาย"
ฮาเช็ม อาเฮลบาร์รา ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีรา รายงานจากกรุงเวียนนาว่า รัสเซีย จีน และบูร์กินาฟาโซ เป็นประเทศในคณะกรรมการที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านมติดังกล่าว อาเฮลบาร์รา อธิบายว่าการผ่านมตินี้ถือเป็น "พัฒนาการทางการทูตที่สำคัญ" โดยระบุว่าเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปีที่ IAEA กล่าวหาว่าอิหร่านละเมิดพันธกรณีด้านการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ "อิหร่านมีช่องทางเวลาที่จำกัดมากในการตอบสนองต่อมตินี้ มิฉะนั้น จะต้องเผชิญกับผลกระทบอย่างใหญ่หลวง รวมถึงความเสี่ยงที่จะถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นและถูกคว่ำบาตรในวงกว้าง" เขากล่าว
กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ "ตอบสนองอย่างเด็ดขาด" ต่อมติดังกล่าว ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์ม X
การลงมติของ IAEA เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่นายบาเดอร์ อัลบูไซดี รัฐมนตรีต่างประเทศโอมาน ประกาศว่า สหรัฐฯ และอิหร่านจะจัดการเจรจารอบที่ 6 เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานในวันอาทิตย์ (9 มิถุนายน 2568)
โทฮิด อาซาดี ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีรา รายงานจากกรุงเตหะรานว่า การเจรจาที่จะจัดขึ้นที่โอมานจะได้รับ "อิทธิพลอย่างมาก" จากมติของ IAEA ครั้งนี้
นอกจากนี้ เขายังรายงานว่าอิหร่านได้ส่งจดหมายถึงสหประชาชาติ โดยเตือนว่าหากมติของ IAEA นำไปสู่การคว่ำบาตร อิหร่านอาจถูกผลักดันให้ถอนตัวจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) ซึ่งจะยิ่งทำให้การเจรจากับสหรัฐฯ ซับซ้อนมากขึ้น การบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่เป็นหนึ่งในหลายประเด็นสำคัญทางการทูตที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และสตีฟ วิทคอฟฟ์ เพื่อนของเขาและทูตพิเศษประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง กำลังดำเนินการอยู่
แม้ก่อนหน้านี้ ทรัมป์จะแสดงความหวังเกี่ยวกับการเจรจา แต่ในการให้สัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (5 มิถุนายน 2568) เขากล่าวว่า "มีความมั่นใจน้อยลง" ต่อการบรรลุข้อตกลง
ทรัมป์ยังยืนยันว่าเขาจะไม่อนุญาตให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าอิสราเอลอาจโจมตีสถานีนิวเคลียร์ของอิหร่าน
สื่ออิสราเอลรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รอน เดอร์เมอร์ รัฐมนตรีกิจการยุทธศาสตร์ของอิสราเอล และเดวิด บาร์เนีย หัวหน้าหน่วยข่าวกรองมอสสาด จะเดินทางไปพบกับวิทคอฟฟ์ ก่อนการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านที่โอมาน
ในวันพุธที่ผ่านมา อิหร่านได้ออกมาขู่ว่าจะโจมตีฐานทัพของสหรัฐฯ ในภูมิภาคหากเกิดความขัดแย้ง ตามรายงาน สหรัฐฯ ได้อพยพเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีความจำเป็นออกจากหลายประเทศในตะวันออกกลาง ท่ามกลางความตึงเครียดในภูมิภาคที่ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.aljazeera.com/news/2025/6/12/un-nuclear-watchdog-says-iran-non-compliant-of-nuclear-safeguards