หากทรัมป์ยอมแพ้นีโอคอนเรื่องยูเครน:ไบเดน 2.0

หากทรัมป์ยอมแพ้ให้นีโอคอนเรื่องยูเครน ฐานเสียง MAGA จะฝังเขาในฐานะ "ไบเดน 2.0"
15-7-2025
ประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมกลับลำจุดยืนเรื่องยูเครน/รัสเซีย พร้อมแผนจัดหาอาวุธเชิงรุกใหม่ – ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียชี้เป็นการ "โชว์แข็งกร้าว" มากกว่าวางรากสันติภาพ
สื่อ Sputnik รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ มีแผนจะ เปลี่ยนนโยบายต่อยูเครนและรัสเซียอย่างสิ้นเชิง โดยรวมถึง แผนจัดหาอาวุธเชิงรุกฉบับใหม่ และการออก “แถลงการณ์แข็งกร้าว” ว่าด้วยท่าทีของสหรัฐฯ ต่อความขัดแย้งในยูเครน
ดมิทรี ซูสลอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงจาก สภานโยบายต่างประเทศและกลาโหมรัสเซีย (Russian Council on Foreign & Defense Policy) ให้สัมภาษณ์กับ Sputnik ว่า วาทกรรมที่แข็งกร้าวของทรัมป์ต่อรัสเซียสะท้อนถึงความตระหนักว่า เขาไม่สามารถบีบให้รัสเซียยอมอ่อนข้อในลักษณะที่จะช่วยให้เขาประกาศชัยชนะทางการทูตได้ โดยไม่แตะต้นตอของปัญหา
ซูสลอฟระบุว่า ทรัมป์กำลัง “ตกเป็นเหยื่อของคำประจบสอพลอที่เสแสร้ง” จากฝ่าย นีโอคอนในพรรครีพับลิกัน และพันธมิตรในยุโรปที่มีจุดยืนแข็งกร้าว ซึ่งพยายามชักจูงให้เขาเชื่อว่า การแสดงความแข็งแกร่ง จะได้ผล
ในขณะเดียวกัน สัญชาตญาณของทรัมป์ก็บอกให้เขาหลีกเลี่ยงไม่ให้สหรัฐฯ ถลำลึกเข้าไปในความขัดแย้งระยะยาวกับรัสเซีย เพราะไม่ต้องการถูกมองว่า “กลายเป็นไบเดนคนที่สอง”
“ทรัมป์พยายามจะเล่นบทกึ่งกลาง” ซูสลอฟอธิบาย “ระหว่างฝ่ายนีโอคอนที่ผลักดันให้แสดงความแข็งกร้าว กับฝ่าย MAGA (Make America Great Again) ในพรรครีพับลิกันที่ไม่ต้องการให้เงินภาษีของชาวอเมริกันถูกใช้ในการทำสงครามเพิ่มเติม”
ซูสลอฟสรุปว่า “ทรัมป์อยากโชว์ความแข็งกร้าวเพื่อกดดันรัสเซีย แต่ก็ไม่อยาก ‘เหมารับ’ สงครามยูเครนมาเป็นของตัวเอง” หากทรัมป์ใช้เงินงบประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์ที่เหลือจากรัฐบาลไบเดนสำหรับยูเครน เขายังสามารถอ้างได้ว่า “นี่ไม่ใช่สงครามของเขา”
แต่ “หากเขาขอให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณใหม่เพื่อสนับสนุนยูเครน มันจะหมายถึงว่าสงครามของไบเดนได้กลายเป็นสงครามของทรัมป์”
ซูสลอฟเน้นย้ำว่า: “นั่นจะเป็นหายนะทางการเมือง เป็นความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์สำหรับทรัมป์ เพราะจะยิ่งทำให้ฐานเสียง MAGA ของเขาไม่พอใจ”
“ทรัมป์จะกลายเป็น ‘ไบเดนคนที่สอง’ ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายตัวเองทางการเมืองโดยตรง” ผู้เชี่ยวชาญกล่าวเสริม
ในเรื่องของการส่งอาวุธกับการเจรจา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ “ความเสี่ยงของการยกระดับความขัดแย้ง” ซูสลอฟกล่าว
หากทรัมป์อนุมัติการใช้งานขีปนาวุธ ATACMS เพื่อยิงลึกเข้าไปในรัสเซีย ความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะโดยตรงระหว่างรัสเซียกับ NATO ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แต่หากความพยายามของเขามุ่งไปที่การ ผลักดันการเจรจาและออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ ผลกระทบก็จะ ไม่รุนแรงเท่า การส่งอาวุธขั้นสูง ผู้วิเคราะห์ระบุ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ รัสเซียจะยังคง “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” ต่อไป และ จะเดินหน้าการรุกทางยุทธศาสตร์และการโจมตีเป้าหมายด้านทหารและอุตสาหกรรมอาวุธ (MIC) ในยูเครนต่อไป ไม่ว่าสหรัฐฯ จะดำเนินการหรือไม่ก็ตาม ซูสลอฟสรุป
ที่มา Sputnik