"ถ้าอยากมีเสรีภาพในโลกใบนี้ ต้องทำให้คนเกรงกลัว": มาครงของฝรั่งเศสเรียกร้องเพิ่มงบกลาโหม

15-7-2025

   ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ประกาศเพิ่มงบประมาณกลาโหมอย่างมีนัยสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า พร้อมเตือนถึงภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามาต่อความมั่นคงของฝรั่งเศสและยุโรปโดยรวม

“นับตั้งแต่ปี 1945 เสรีภาพไม่เคยถูกคุกคามอย่างรุนแรงและจริงจังเช่นนี้มาก่อน” มาครงกล่าวต่อผู้นำกองทัพในวันอาทิตย์ ก่อนวันชาติฝรั่งเศส (วันบาสตีย์)

“ในโลกนี้ หากต้องการมีเสรีภาพ คุณต้องเป็นที่เกรงกลัว และหากต้องการเป็นที่เกรงกลัว คุณต้องมีพลังอำนาจ” เขากล่าว โดยมีการเผยแพร่คำปราศรัยผ่านทำเนียบเอลิเซ่

   มาครงชี้ถึงภัยคุกคามต่าง ๆ เช่น รัสเซีย สงครามในยูเครน อาชญากรรมไซเบอร์ และการก่อการร้าย ว่าเป็นภัยต่อเสรีภาพของชาติและของยุโรป เขาเสนอเพิ่มงบประมาณกลาโหม 3.5 พันล้านยูโร (ประมาณ 4.09 พันล้านดอลลาร์) ในปีหน้า และอีก 3 พันล้านยูโรในปี 2027 ซึ่งจะทำให้ยอดรวมงบประมาณความมั่นคงในปีนั้นแตะระดับ 64 พันล้านยูโร – เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากงบประมาณเมื่อปี 2017 ซึ่งเป็นปีที่มาครงเริ่มดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

  ทั้งนี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาฝรั่งเศสก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้ โดยรัฐสภาฝรั่งเศส (สภาแห่งชาติ) เพิ่งผ่านการอภิปรายอย่างดุเดือดเกี่ยวกับงบประมาณแห่งชาติปี 2025 และมาตรการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลก่อนหน้านี้เมื่อปลายปีที่แล้ว

  ฝรั่งเศสพยายามควบคุมการขาดดุลงบประมาณที่พุ่งสูงขึ้น โดยในปี 2024 ตัวเลขขาดดุลแตะระดับ 5.8% ขณะที่หนี้สาธารณะอยู่ที่ 113% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)

  ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ระบุว่าจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมโดยนายกรัฐมนตรีฟร็องซัวส์ บาอายรู (François Bayrou) ในวันอังคาร ระหว่างการแถลงอัปเดตงบประมาณประจำปี 2026 ซึ่งอาจมีการเปิดเผยมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติม — หรือการขึ้นภาษี ซึ่งจะไม่เป็นที่นิยมในฝั่งขวาทางการเมือง

   เมื่อวันอาทิตย์ มาครงได้เรียกร้องให้ประชาชนชาวฝรั่งเศสร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ของชาติ

“ประเทศชาติต้องการพวกคุณ” มาครงกล่าว พร้อมเสริมว่า

“ชายและหญิงชาวฝรั่งเศสทุกคนต้องตระหนักถึงภัยคุกคามรอบตัวเรา”

“พวกเราทุกคนต้องเสียสละ — เสรีภาพมีราคาที่ต้องจ่าย”

   ราคานั้นอาจสูงเกินกว่าที่สมาชิกสภานิติบัญญัติจะยอมรับได้ โดยเฉพาะกลุ่มฝ่ายซ้ายที่กำลังต่อต้านการตัดงบประมาณอย่างรุนแรง รัฐบาลตั้งเป้าลดการขาดดุลลงเหลือ 5.4% ในปีนี้ และ 4.6% ภายในปี 2026

   การบรรลุเป้าหมายในปี 2026 หมายความว่าต้องหามาตรการประหยัดให้ได้ถึง 40,000 ล้านยูโร (ประมาณ 46,000 ล้านดอลลาร์) ภายในปีนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เอริก ลอมบาร์ด (Eric Lombard) กล่าวเมื่อเดือนเมษายน

“ผมยังคงยึดเป้าหมายที่ 4.6% สำหรับปี 2026 ซึ่งจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพิ่มเติม คิดเป็นมูลค่า 40,000 ล้านยูโร” ลอมบาร์ดกล่าวกับช่อง BFM TV ตามรายงานของรอยเตอร์

“เราอยู่ในภาวะฉุกเฉินทางการคลัง” เขากล่าวเสริม

ที่มา CNBC