อินโดนีเซียชั่งใจซื้อ J-10 จากจีน

อินโดนีเซียชั่งใจซื้อ J-10 จากจีน หวั่นกระทบพันธมิตรเดิม-เสี่ยงกระทบสมดุลภูมิรัฐศาสตร์
10-7-2025
CNA รายงานว่า อินโดนีเซียกำลังตกอยู่ท่ามกลางการตัดสินใจครั้งสำคัญ เมื่อรัฐบาลปักกิ่งยื่นข้อเสนอขายเครื่องบินขับไล่ J-10 ให้จาการ์ตา ซึ่งหากดีลนี้เกิดขึ้น อินโดนีเซียจะกลายเป็นประเทศที่สามของโลกต่อจากจีนและปากีสถานที่มี J-10 ประจำการ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าข้อตกลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นกลางและความน่าเชื่อถือของอินโดนีเซียในประเด็นทะเลจีนใต้ จุดชนวนให้เกิดการแข่งขันสะสมอาวุธในภูมิภาค และสร้างความเสี่ยงต่อความพร้อมรบของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย
กระแสความสนใจใน J-10 เพิ่มขึ้นหลังมีรายงานว่าเครื่องบินรุ่นนี้ของปากีสถานสามารถยิงเครื่องบินรบอินเดียตกหลายลำ รวมถึง Rafale รุ่นใหม่จากฝรั่งเศส ส่งผลให้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซียประกาศเตรียมส่งนักบินไปฝึกและเยี่ยมชมโรงงานผลิต J-10 ที่เฉิงตู ประเทศจีน
จุดขายสำคัญของ J-10 คือราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งตะวันตกอย่างมาก โดย J-10C รุ่นล่าสุดมีราคาประมาณ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง ขณะที่ Rafale ของฝรั่งเศสซึ่งอินโดนีเซียสั่งซื้อ 42 ลำในปี 2022 มีราคาสูงถึง 120 ล้านดอลลาร์ต่อเครื่อง อินโดนีเซียจึงต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความคุ้มค่าและผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลต้องรัดเข็มขัดเพื่อสนับสนุนโครงการสวัสดิการขนาดใหญ่
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เตือนว่าการซื้อ J-10 อาจทำให้พันธมิตรทางทหารเดิมของอินโดนีเซีย เช่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และประเทศ NATO อื่น ๆ ไม่พอใจ เพราะส่วนใหญ่ยังมองว่าจีนเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพภูมิภาค อีกทั้งอุปกรณ์และระบบของ J-10 อาจไม่สามารถใช้งานร่วมกับอาวุธและระบบสื่อสารมาตรฐาน NATO ที่อินโดนีเซียใช้อยู่เดิมได้ดีนัก
ประเด็นความมั่นคงทางไซเบอร์และการสอดแนมก็เป็นข้อกังวลสำคัญ เนื่องจากหลายประเทศยังไม่ไว้วางใจเทคโนโลยีทางทหารของจีนว่าจะปลอดภัยจากการถูกแทรกแซงหรือดักฟังหรือไม่ ขณะที่ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างอินโดนีเซียกับจีนยังไม่แข็งแกร่งเท่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ การซื้อ J-10 อาจทำให้สถานะความเป็นกลางของอินโดนีเซียในประเด็นทะเลจีนใต้ถูกตั้งคำถาม เพราะจีนยังคงอ้างสิทธิ์ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของอินโดนีเซียในทะเลจีนใต้ผ่านเส้นประเก้าขีด อีกทั้งอาจกระตุ้นให้ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนเร่งจัดหาเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่เพื่อรักษาดุลอำนาจ เช่น ไทยที่เตรียมซื้อ Gripen จากสวีเดน ฟิลิปปินส์ที่เซ็นสัญญาซื้อ FA-50 จากเกาหลีใต้ และสิงคโปร์ที่กำลังรับมอบ F-35A จากสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน อินโดนีเซียยังเดินหน้ากระจายความเสี่ยงด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินรบจากหลายประเทศ ทั้ง F-16 จากสหรัฐฯ Su-27/30 จากรัสเซีย Rafale จากฝรั่งเศส และล่าสุดยังมีข้อตกลงกับตุรกีเพื่อจัดหาและร่วมผลิต KAAN เครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่นใหม่
แม้ J-10 จะราคาถูกและจีนอาจเสนอเงื่อนไขพิเศษ เช่น การซื้อสินค้าอินโดนีเซียเพิ่ม การร่วมผลิตหรือประกอบในประเทศ หรือการลงทุนในโครงการอื่น ๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจาการ์ตาต้องประเมินความเสี่ยงทั้งด้านยุทธศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความพร้อมทางเทคนิคอย่างรอบด้าน
ในที่สุด อินโดนีเซียอาจเลือกซื้อ J-10 จำนวนจำกัดเพื่อรักษาน้ำใจจีน หรืออาจปฏิเสธอย่างสุภาพและเดินหน้าตามแผนจัดซื้อเดิมจากพันธมิตรตะวันตกและตุรกี นักวิเคราะห์เห็นตรงกันว่า การตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อบทบาทของอินโดนีเซียในสมการอำนาจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระยะยาว
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.channelnewsasia.com/asia/indonesias-multi-nation-fighter-jet-fleet-may-expand-chinas-cheaper-j-10s-what-price-might-it-pay-5177581