.

ถ้าทรัมป์'ถามเซเลนสกี้ 'ทิ้งระเบิดมอสโกได้หรือไม่'? คำถามสุดอันตรายที่สั่นสะเทือนภูมิรัฐศาสตร์
16-7-2025
ทรัมป์ถูกตั้งคำถาม หลังมีรายงานสอบถามเซเลนสกี้ถึงความเป็นไปได้ในการ "ยิงมอสโก"
Bloomberg โดย มาร์ก แชมเปียน (Bloomberg Opinion) กล่าวว่า ข่าวที่อ้างถึงโดย Financial Times เมื่อวันอังคาร เปิดประเด็นวิพากษ์จากแวดวงการเมืองระหว่างประเทศกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อาจเคยสอบถามผู้นำยูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ (Volodymyr Zelensky) ว่า "จะสามารถใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้รัสเซีย โดยตรงที่กรุงมอสโก ได้หรือไม่"
แม้โฆษกทำเนียบขาวจะออกแถลงการณ์ว่า ข้อความดังกล่าว “เป็นเพียงคำถาม ไม่มีเจตนาให้กำลังสนับสนุนความรุนแรงเพิ่มเติม” แต่คำถามประเภทนี้ย่อมสะท้อนระดับความเสี่ยงและสำนึกผู้ใช้อำนาจระดับผู้นำสูงสุดของประเทศที่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์อันดับต้นของโลก
### ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์พูดรุนแรงถึงมอสโก
ในระหว่างการหาเสียงก่อนหน้า ทรัมป์เคยกล่าวต่อหน้าผู้สนับสนุนว่า เขาเคยขู่ว่าจะ “bomb the sh*t out of Moscow” หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) รุกรานยูเครน ระบุโดยสำนักข่าว CNN ซึ่งบันทึกวาทะดังกล่าวไว้ได้
หากคำกล่าวนี้สะท้อนท่าทีจริง ตามที่ข่าวระบุว่าเป็นการพูดระหว่างวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไม่ใช่เพียงวาทกรรมหาเสียง แต่ถูกกล่าวต่อผู้นำประเทศที่อยู่ในภาวะสงครามจริง นั่นจะหมายถึงสหรัฐฯ ในยุคของทรัมป์อาจกำลังทบทวน “เส้นแบ่งทางยุทธศาสตร์” ระหว่างการหนุนพันธมิตรกับการเปิดศึกโดยตรงกับรัสเซีย
### “พูดเล่น” หรือ “ตั้งใจ” ก็ล้วนเป็นสิ่งน่ากังวล
ในระดับทางการเมืองระหว่างประเทศ ไม่มีคำว่า “ถามเฉย ๆ” หรือ “ไม่ได้หมายความว่าจะทำจริง” โดยเฉพาะเมื่อผู้นั้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งมีอำนาจสั่งการทางทหารระดับโลก
การถามว่า “อเมริกาควรยิงมอสโกหรือไม่” แม้เพียงจากมุมการคุยส่วนตัว จึงไม่สามารถถูกมองข้ามในฐานะข้อคิดเห็นเล่น ๆ เพราะออกมาจากผู้ที่เป็นผู้นำประเทศอาวุธนิวเคลียร์หมายเลขหนึ่งของโลก
### ท่าทีขัดแย้งในตัวเองของทรัมป์
ย้อนกลับก่อนหน้าข่าวลือนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงท่าที “แข็งบนแต่อ่อนลึก” ในการจัดการสงครามยูเครน–รัสเซีย โดยประกาศว่าจะระงับการส่งอาวุธฟรีให้ยูเครน พร้อมให้พันธมิตรยุโรปรับภาระจ่ายเงินแทน และเลื่อนการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมออกไปอีกว่า “อย่างน้อย 50 วัน”
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเคยชะลอการส่งอาวุธที่ได้รับอนุมัติในช่วงรัฐบาลก่อนหน้านี้ และยังบอกว่ายูเครนจะไม่สามารถเข้าเป็นสมาชิก NATO ได้ ซึ่งเป็นการรับเงื่อนไขเดิมครึ่งหนึ่งของทางเครมลิน แม้จะยังไม่ได้เริ่มเจรจากับรัสเซียก็ตาม
### ขาดสำนึกเชิงยุทธศาสตร์?
การลดบทบาทตนเองแล้วคิดว่ารัสเซียอาจ "คืนความร่วมมือ" เป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์จำนวนมากเรียกว่า “การประเมินที่ไร้เดียงสา” ผลสุดท้ายคือยูเครนต้องสูญเสียคน ชาติ และดินแดน อย่างที่โลกได้เห็น
ทั้งฝ่ายทรัมป์และไบเดน ต่างก็ถูกวิจารณ์ว่าใช้ความลังเลเป็นเกราะป้องกันตัวจากความเสี่ยงที่ปูตินปล่อยสารขู่ว่าจะใช้ระเบิดนิวเคลียร์เมื่อใดก็ตามที่ตะวันตก “ล้ำเส้น”
แต่คำถามใหม่ที่ “มาจากทรัมป์โดยตรง” – ว่าควรยิงกรุงมอสโกหรือไม่ – อาจเป็นการล้ำเส้นเสียเอง
### ถ้าทรัมป์พูดแบบนั้นจริง—และหมายความเช่นนั้น ทุกสิ่งจะเปลี่ยนไป
เพราะมันไม่ใช่การโต้แย้งเรื่องนโยบายอย่างภายใน แต่คือการใช้วาทกรรมพาดหัวระดับระเบิดสมดุลโลก เป็นการชักนำไปสู่การตอบโต้ที่อาจข้ามเส้นรูปแบบการยับยั้งร่วมสมัย
ถ้ารัสเซียตีความว่าเป็น “ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของนครหลวง” ความเสี่ยงต่อการโต้กลับในรูปแบบใดก็เป็นไปได้ และนั่นอาจไม่สามารถควบคุมด้วยการทูตได้อีกต่อไป
### สรุป
คำถามที่ถูกหยิบยก—ยิงมอสโกหรือไม่—แม้มีเพียงในแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อ ก็สะท้อนว่า เมื่อผู้นำแห่งอภิมหาอำนาจมีแนวโน้มใช้ “กลยุทธ์สร้างขอบเขตใหม่ด้วยคำพูด” ระบบระเบียบโลกที่เราเคยรู้จัก... อาจถูกทดสอบอย่างถึงที่สุด
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.bloomberg.com/opinion/articles/2025-07-15/bomb-moscow-trump-surely-couldn-t-be-that-reckless?utm_source=website&utm_medium=share&utm_campaign=copy