ภาษีสหรัฐฯ 30% ดันแอฟริกาใต้หันหาจีน

ภาษีสหรัฐฯ 30% ดันแอฟริกาใต้หันหาจีน คณะผู้แทนระดับสูงบินปักกิ่งหาช่องทางลงทุน-ขยายส่งออก
21-7-2025
SCMP รายงานว่า รัฐบาลแอฟริกาใต้เดินหน้าเร่งเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศจีนอย่างจริงจัง หลังสหรัฐอเมริกาเตรียมปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเป็น 30% ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีนและลดแรงกระแทกจากสงครามการค้า พร้อมแก้ไขปัญหาขาดดุลการค้าขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ในทิศทางที่เอื้อประโยชน์ต่อจีนมากกว่าฝ่ายเดียว
ในโอกาสครั้งนี้ คณะผู้แทนระดับสูงที่นำโดยรองประธานาธิบดีพอล มาชาตีเล (Paul Mashatile) ได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อเสนอแผนการขยายกลุ่มสินค้าส่งออกจากวัตถุดิบขั้นต้นไปสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม เช่น ยา เวชภัณฑ์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียน รวมถึงแสวงหาโอกาสด้านการลงทุนเพื่อเสริมศักยภาพทางการผลิตของประเทศ ในการกล่าวสุนทรพจน์ ณ งาน South Africa China Investment Forum ซึ่งจัดขึ้นข้างเคียงกับงานแสดงสินค้า China International Supply Chain Expo (CISCE) ที่กรุงปักกิ่ง มาชาตีเลระบุว่า แอฟริกาใต้ประสบปัญหาขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากระดับไม่ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีในช่วงระหว่างปี 1988 ถึง 2000 เพิ่มเป็น 9.71 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023
เขาเน้นย้ำว่าการลดความเหลื่อมล้ำทางการค้าจำเป็นต้องอาศัยการขยายพอร์ตสินค้า การส่งออกสินค้าที่ผ่านการแปรรูป และการสร้างความสมดุลในเชิงโครงสร้างผ่านความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับจีน พร้อมระบุว่าแอฟริกาใต้จำเป็นต้องเจรจาเพื่อให้สินค้าใหม่เข้าถึงตลาดจีนได้มากขึ้น รวมถึงต้องรับมือกับกำแพงภาษี มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี ความห่างไกลทางภูมิศาสตร์ และการแข่งขันจากประเทศอื่นในตลาดเดียวกัน
แม้จีนจะได้รับการมองว่าเป็น "ตลาดเป้าหมายที่สำคัญ" สำหรับการปรับโครงสร้างการส่งออกในช่วงเวลาที่เผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า จีนไม่ควรถูกมองว่าเป็นคู่ค้าที่ย้ายเข้ามาแทนสหรัฐฯ แบบหนึ่งต่อหนึ่ง คาร์ลอส โลเปส (Carlos Lopes) ศาสตราจารย์จากคณะบริหารโยบายสาธารณะ เนลสัน แมนเดลา แห่งมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ ระบุว่า การพึ่งพาจีนมากเกินไปอาจก่อเกิดความเสี่ยงเชิงโครงสร้างในระยะยาว ประกอบกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และปัญหาโอเวอร์ซัพพลายในหลายอุตสาหกรรม อาจยิ่งส่งผลต่อความเปราะบางในห่วงโซ่การลงทุน
ข้อมูลจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่า แอฟริกาใต้ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 14.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 เพิ่มขึ้น 4.9% จากปี 2023 ขณะที่มูลค่าการส่งออกทั้งหมดจากแอฟริกาใต้ไปยังจีนในปีเดียวกันอยู่ที่ 30.64 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของศุลกากรจีน อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาลูกค้าหลักเพียงรายเดียวอาจเป็นความเสี่ยงโดยเฉพาะหากมีแรงกระแทกจากภายนอก
ขณะเดียวกัน เรื่องที่น่ากังวลคือการลดลงของกระแสเงินลงทุนโดยตรงจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น กรณีบริษัท Ford ซึ่งมีแผนการลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ในแอฟริกาใต้ อาจถูกชะลอหรือทบทวนใหม่เพราะแรงกดดันทางการเมืองจากวอชิงตัน
ความพยายามของแอฟริกาใต้ในการดึงดูดตลาดจีนจึงเน้นไปที่การใช้โอกาสจากการเข้าร่วมข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับจีน ซึ่งครอบคลุม 53 ประเทศในแอฟริกา ยกเว้น eSwatini ที่ยังคงรับรองไต้หวัน โดยผู้ส่งออกจากแอฟริกาใต้สามารถใช้สิทธิเข้าถึงตลาดจีนโดยปลอดอากรการนำเข้า แต่การแข่งขันในตลาดยังคงเข้มข้นจากผู้ส่งออกรายอื่นทั่วโลก
มานดิรา บักวานดีน (Mandira Bagwandeen) อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย Stellenbosch ระบุว่า ความได้เปรียบด้านภาษีถือเป็นโอกาสเชิงยุทธศาสตร์ แต่แอฟริกาใต้ยังต้องพัฒนา “ความสามารถทางการแข่งขัน” ทั้งด้านคุณภาพ ราคา และการทำตลาดสินค้า เพื่อเข้าสู่ตลาดกลางระดับผู้บริโภคของจีนที่กำลังเติบโต
บักวานดีนย้ำว่า ปัจจุบันการส่งออกหลักของแอฟริกาใต้ไปจีนยังคงเป็นวัตถุดิบดิบ เช่น แร่ธาตุ และเชื้อเพลิง แต่การเปลี่ยนไปสู่การส่งออกสินค้าที่ผ่านกระบวนการแปรรูป เช่น เครื่องจักร ชิ้นส่วนยานยนต์ หรือสินค้าเกษตรแปรรูป ควรเป็นจุดมุ่งหมายหลักในอนาคต ทั้งนี้จึงจำเป็นต้องลงทุนในระบบอุตสาหกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระดับประเทศอย่างต่อเนื่อง
ผู้เชี่ยวชาญเตือนไม่ควรพึ่งพาตลาดจีนเป็นหลักในระยะยาว โดยชี้ว่าแม้จีนจะเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ แต่ความหลากหลายในตลาดคือสิ่งจำเป็นในการป้องกันผลกระทบจากความไม่แน่นอนในปัจจัยภายนอก
---
IMCT NEWS / Photo: China Out
ที่มา https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3318751/south-africa-pushes-increase-trade-exports-china-amid-us-30-cent-tariff-hike?module=top_story&pgtype=homepage