สหรัฐฯ ส่งฝูงบิน F-16 “ซูเปอร์สควอดรอน” เข้าใกล้ชายแดนเกาหลีเหนือ หลังคำขู่สุดท้ายของคิม

5-8-2025

   สหรัฐอเมริกากำลังขยายบทบาททางทหารบนคาบสมุทรเกาหลี โดยการจัดตั้งหน่วยบินชั้นยอดอีกแห่งหนึ่งใกล้เขตปลอดทหาร (DMZ) ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการตอบโต้ต่อคำประกาศของเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ระบุว่าจะเข้าสู่การเจรจาได้ก็ต่อเมื่อสหรัฐฯ ยกเลิกข้อเรียกร้องเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์

  กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการย้ายเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 31 ลำจากฐานทัพอากาศคุนซานไปยังฐานทัพอากาศโอซาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ "รวมศูนย์กำลังทางอากาศและเพิ่มความพร้อมรบ" ในภูมิภาค

  กระทรวงกลาโหมยังระบุว่านี่เป็น “ฝูงบินพิเศษ” ชุดที่สองที่สหรัฐฯ จัดตั้งในเกาหลีใต้ ฐานทัพโอซานตั้งอยู่ทางตอนเหนือของคุนซานหลายสิบไมล์ ซึ่งอยู่ใกล้เขตปลอดทหารที่ติดกับเกาหลีเหนือมากกว่า และรัฐบาลของคิมจองอึนย่อมมองว่านี่คือการยั่วยุอย่างร้ายแรง

  พลโท เดวิด อาร์. ไอเวอร์สัน ผู้บัญชาการกองทัพอากาศที่ 7 และรองผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็น “โอกาสสำหรับเราในการดูว่าฝูงบินขนาดนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกของเราได้หรือไม่ พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการรบหากการยับยั้งล้มเหลว”

ตามรายงานของ Task & Purpose:

   ขณะนี้กองทัพอากาศกำลังเริ่มต้น "ระยะที่สอง" ของการทดสอบ โดยมีการจัดตั้ง “ฝูงบินพิเศษ” ใหม่ล่าสุดที่ฐานทัพอากาศโอซาน นอกเหนือจากเครื่องบิน 31 ลำแล้ว ยังมีทหารอากาศประมาณ 1,000 นายจากปีกบินที่ 8 ที่ฐานคุนซานย้ายมาประจำการที่โอซานเพื่อรองรับการขยายกำลังครั้งนี้ กองทัพอากาศระบุว่าระยะที่สองนี้เป็นการเปลี่ยนแปลง “ชั่วคราว” และคาดว่าฝูงบินพิเศษชุดที่สองจะพร้อมปฏิบัติการภายในเดือนตุลาคม โดยระยะที่สองจะดำเนินต่อไปจนถึงเดือนตุลาคม 2026

  ในขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือยังยืนยันว่าการเจรจาใด ๆ กับสหรัฐฯ ในอนาคตจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อวอชิงตันยอมรับสถานะของตนในฐานะประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์

  เมื่อไม่กี่วันก่อน คิม ยอจอง น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพรรคแรงงาน ได้กล่าวว่า

  “ความพยายามใด ๆ ที่จะปฏิเสธสถานะของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) ในฐานะรัฐอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งได้ถูกกำหนดไว้ควบคู่กับอำนาจยับยั้งเชิงนิวเคลียร์ที่ทรงพลัง และตราไว้ในกฎหมายสูงสุดที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชน DPRK ทั้งหมดนั้น จะถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาด”

  “DPRK เปิดกว้างต่อทุกทางเลือกในการปกป้องสถานะของชาติในปัจจุบัน” เธอกล่าวเพิ่มเติม พร้อมเน้นว่า “มันไม่มีประโยชน์อะไร” ที่สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือจะเผชิญหน้ากัน ดังนั้นฝ่ายบริหารของทรัมป์ควร “มองหาวิธีการติดต่อใหม่บนพื้นฐานของแนวคิดใหม่ด้วย”

  แม้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะเคลื่อนย้ายฝูงบินในลักษณะที่ถือเป็นการปรับกำลังเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดความตึงเครียด แต่ในฝั่งของกรุงโซล ก็กำลังดำเนินมาตรการเพื่อลดความตึงเครียดลง โดยเริ่มจากการรื้อถอนลำโพงโฆษณาชวนเชื่อตามแนวชายแดน

  ทางการเกาหลีใต้เริ่มรื้อถอนลำโพงที่ใช้เผยแพร่ข้อความต่อต้านเกาหลีเหนือตามแนวชายแดนของประเทศ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีอีแจมยองต้องการลดความตึงเครียดกับเปียงยาง

  “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กองทัพได้เริ่มดำเนินการรื้อถอนลำโพงเหล่านี้แล้ว” อีคยองโฮ โฆษกกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์

  แม้ในอดีตเปียงยางเคยตอบสนองต่อการกระทำที่แสดงความจริงใจเช่นนี้ แต่การที่มีกองกำลังสหรัฐฯ จำนวนมากประจำอยู่บนคาบสมุทรเกาหลียังคงเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เทียบท่าเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่ท่าเรือในเกาหลีใต้อยู่เป็นระยะ

ที่มา https://www.zerohedge.com/geopolitical/us-deploys-f-16-super-squadron-closer-north-korea-border-after-kims-ultimatum