พลอากาศเอก Dan Caine และคณะ เดินทางเยือนไทย

พลอากาศเอก Dan Caine ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม สหรัฐฯ และคณะ เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
26-8-2025
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 กองบัญชาการกองทัพไทยได้ให้การต้อนรับ พลอากาศเอก Dan Caine ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม สหรัฐฯ และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองบัญชาการกองทัพไทย และเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ประจำปี 2568 (Chiefs of Defense Conference 2025: CHODs 2025) ณ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ระหว่าง 25-28 สิงหาคม 2568
ซึ่งในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ให้การต้อนรับ พลอากาศเอก Dan Caine ณ กองบัญชาการกองทัพไทย โดยมีการจัดแถวกองทหารเกียรติยศ จากนั้นมีการเยี่ยมคำนับเพื่อหารือข้อราชการระหว่างกัน ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯ ได้ขอบคุณกองทัพไทยที่ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและสมเกียรติ และชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯ ที่มีมายาวนานกว่า 192 ปี (ตั้งแต่ปี 2376) เป็นความสัมพันธ์จากรุ่นสู่รุ่น (generational relationship)
ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสองกองทัพก็มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นผ่านกลไกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึก ศึกษา การพัฒนากองทัพ การแลกเปลี่ยนบทเรียนการปฏิบัติ ฯลฯโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพบปะครั้งนี้ เป็นการพบกันครั้งที่สามในรอบปีนี้ ซึ่งสองครั้งที่ผ่านมาได้พบปะกัน ในเดือนพฤษภาคม ในงาน SOF (Special Operation Forces) Week ที่เมือง Tampa รัฐฟลอริดา และการประชุม Shangri-La Dialogue ที่ ประเทศสิงคโปร์ ทำให้ได้พูดคุยด้วยความใกล้ชิดและแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาในสถานการณ์ความมั่นคงที่เกิดขึ้นทั่วโลก นอกจากนี้ การประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ประจำปี 2568 (Chiefs of Defense Conference 2025: CHODs 2025) ที่กำลังเกิดขึ้น โดยกองทัพไทยได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ นับเป็นกลไกความร่วมมือที่สำคัญ แสดงถึงความสัมพันธ์และความไว้ใจระหว่างกองทัพ ทั้งนี้ ประธานคณะเสนาธิการร่วม สหรัฐฯ ได้แสดงความเสียใจต่อกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา
ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่าการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ประจำปี 2568 (Chiefs of Defense Conference 2025: CHODs 2025) นับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้นำทางทหารแต่ละประเทศจะได้มีการหารือต่อสถานการณ์ความมั่นคงภายในภูมิภาค รวมถึงเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทย จะได้แสดงข้อเท็จจริงและความจริงใจต่อสถานการณ์ตามแนวชายแดน ให้กับผู้นำทางทหารในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกทราบ ยืนยันที่จะสานต่อและส่งเสริมความร่วมมือในการส่งเสริมให้นายทหารประทวน (Non-Commissioned Officer: NCO ) ได้เข้ารับการศึกษาในหลักสูตรต่าง ๆ ให้มากขึ้น (โดยในปีนี้จะมีนายทหารประทวนจบหลักสูตรรบพิเศษสหรัฐ Q Course ณ Fort Bragg คนแรกของประเทศไทย และมีนายทหารประทวนหญิงจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยสิงคโปร์คนแรก เช่นกัน)
ทั้งนี้ยืนยันและยินดีที่จะร่วมมือกับกองทัพสหรัฐฯ ในการพัฒนากองทัพ ให้มีความเป็นมืออาชีพ มีความทันสมัย สร้างสรรค์ให้กองทัพไทยเข้มแข็งเพื่อปกป้องประเทศจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ
ซึ่งการปฏิบัติงานฝ่ายความมั่นคงสหรัฐฯ ที่มีส่วนสำคัญยิ่งในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพไทย และกองทัพสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเดียวกัน ในการเสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสองกองทัพจะมีความร่วมมือเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพื่อประโยชน์สูงสุดของสองประเทศ
IMCTNEWS