ในระยะยาว ราคาทองคำจะเท่ากับ $10,000

Investing News Charlotte Macleod : Gold's Path Is Clear, Price to Hit US$10,000 Long Term
9-9-2025
ในระยะยาว ราคาทองคำจะเท่ากับ $10,000 Ken Hoffman (Sep 3, 2025)
Charlotte..........
เรามาเข้าเรื่องทองคำกันเลยดีกว่า คุณมีเป้าหมายราคาทองระยะยาวที่ประมาณ $10,000 หรือพูดอีกอย่างก็คือเป็นระดับที่คุณคิดว่าทองคำไปถึงได้แน่ งั้นคำถามคือ เราจะไปถึงตรงนั้นได้ยังไง? เพราะปีนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวแรงมาก และ $10,000 ดูเหมือนใกล้กว่าที่เคยเป็นมา ....แต่มันก็ยังฟังดูไกลอยู่ดี
Ken.........
ใช่เลย แต่จริง ๆ แล้ว ถ้ามาดูที่ตัวเลข $10,000 ...นี่อาจจะยังดูน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์นิดนึง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกยอมรับว่าสหรัฐคือประเทศมหาอำนาจ และสหรัฐก็ต้องการให้มีระบบการเงินที่อิง gold standard .....หรือใช้ทองคำหนุนค่าเงิน
สาเหตุก็ชัดเจนเลยนะ เพราะตั้งแต่ปลายศตวรรษ 19 จนถึงสงครามโลก เราเจอปัญหามากมาย ทั้งการกีดกันทางภาษีศุลกากร ..เงินเฟ้อ ..เศรษฐกิจผันผวนหนัก ซึ่งทองคำมีข้อดีคือ ค่ามันคงที่มาก การผลิตทองคำต่อปีจะเพิ่มแค่ 3-5% ของสต็อกที่มีอยู่ มันเลยไม่เปิดโอกาสให้ประเทศต่าง ๆ พิมพ์เงินใช้ฟุ่มเฟือยจนเกิดเงินเฟ้อ ระบบนี้อยู่มาได้จนถึงช่วงสงครามเวียดนาม
ตอนนั้นสหรัฐต้องใช้เงินมหาศาลเพื่อทำสงคราม ก็เลยตัดสินใจ “เลิกผูกดอลลาร์กับทอง” เพื่อเปิดเครื่องพิมพ์เงินเต็มกำลัง ผลลัพธ์ก็คือราคาทองคำจาก $35 /ออนซ์ พุ่งไปถึง $800 ในปี 1980 ภายในไม่ถึงสิบปี ราคาขึ้นเกือบ 25 เท่าเลย
แต่ที่จริง นั่นเป็นค่าของดอลลาร์ต่างหากที่หายไป 25 เท่า
แต่พอถึงปี 1980 ก็มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ประธานาธิบดีเรแกนเข้ามาแล้วขึ้นดอกเบี้ยไปกว่า 20% ซึ่งทองคำไม่มีดอกเบี้ย คนเลยย้ายเงินจากทองคำไปถือดอลลาร์แทน
นอกจากนี้ เขายังทำข้อตกลง Plaza Accord รวมค่าเงินหลักของโลกเข้าด้วยกัน ตอกย้ำบทบาทดอลลาร์ให้เป็นสกุลกลางของการค้าทั่วโลก แถมยังเปิดเสรีการค้า ทำให้สหรัฐถูกมองว่าเป็นตลาดที่น่าเชื่อถือ ถ้ามีดอลลาร์แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีทองคำก็ได้
ช่วงนั้นยืนยงยาวนานเลย ตั้งแต่ปี 1980 จนถึง 2000 ราคาทองคำแทบไปไหนไม่เป็นเลย
พอมาปี 2001 ก็มี 9/11 ตามด้วยวิกฤตการเงินโลก แล้วก็โควิด-19 ทั้งหมดนี้บังคับให้โลกต้องพิมพ์เงินมหาศาลเพื่อประคองเศรษฐกิจ สหรัฐกับประเทศอื่น ๆ ก็ลดกำแพงการค้าเพื่อดันเศรษฐกิจ
แต่ทั้งหมดนี้กลับทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มคิดใหม่ เพราะก่อนปี 2000 พวกเขาขายทองคำออกหมด เพราะมองว่ามีดอลลาร์ก็พอแล้ว แต่พอเกิดเหตุการณ์ไม่น่าไว้วางใจพวกนี้พวกนี้ ....จีนกับอีกหลายประเทศก็หันกลับมาเก็บทองคำแทน
ในปี 2000 กว่า 72% ของการค้าโลกยังใช้ดอลลาร์ แต่วันนี้เหลือไม่ถึง 50% แล้ว และตัวเลขกำลังดิ่งต่ออีก .....ถ้าไม่ต้องพึ่งดอลลาร์ ก็ซื้อทองคำแทนเลย ตอนนี้ทองคำคือสินทรัพย์อันดับ 2 ที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือมากที่สุด
Charlotte........
ในมุมมองของคุณ ทำไมตอนนี้ราคาทองคำถึงเริ่มพุ่งแรง แล้วจะพุ่งต่อไปได้ยังไง?
Ken........
ตอนนี้เราอยู่ในช่วงที่ ระบบเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คล้ายกับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่างกันตรงที่สหรัฐวันนี้ไม่ได้อยากทำการค้าเสรีอีกต่อไปแล้ว พวกเขาใส่กำแพงภาษีเพิ่มขึ้น จากแค่ 2% ไปใกล้ ๆ 20% นี่แหละที่จะทำให้การค้าลดลงหนัก
ถ้าไม่ต้องค้ากับสหรัฐมาก ก็ไม่ต้องถือดอลลาร์เยอะ คนเลยเริ่มขายดอลลาร์ออก
สำหรับนักลงทุน สิ่งที่ต้องจับตาคือ ดัชนี DXY ซึ่งเป็นตะกร้าค่าเงินเทียบดอลลาร์ ยิ่ง DXY ร่วง ราคาทองคำยิ่งขึ้น เพราะมันคือการขายดอลลาร์แล้วเอาเงินไปซื้อทองนั่นเอง ปีนี้ DXY ร่วงไปแล้ว 10% โดยทั่วไปอัตราส่วนคือ ดอลลาร์ลด 10% ราคาทองจะขึ้นประมาณ 30%
แล้วนโยบายการเงินสหรัฐเองก็หนุนด้วย อย่างทรัมป์ก็พูดชัดว่าอยากได้ดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ยต่ำก็ทำให้ไม่จำเป็นต้องถือดอลลาร์ อีกทั้งยังอยากเห็นดอลลาร์อ่อนค่า มีคนเรียกกันว่า Mar-a-Lago Accord ที่ตั้งใจจะลดค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลอื่น ๆ ทรัมป์ดูจริงจังมาก
ทั้งหมดนี้หมายความว่า ดอลลาร์น่าจะอ่อนค่าลงไประดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี หรือราว ๆ ลดลงอีก 30-35% จากปัจจุบัน ซึ่งแปลว่าราคาทองคำจะ “ดับเบิล” เลย จาก $3,400 ขึ้นไปถึงประมาณ $7,000
พอถึงตรงนั้นก็จะเกิดแรงโมเมนตัมต่อเนื่อง นักลงทุนจะเริ่มตั้งคำถามว่า ถ้าดอลลาร์ไม่ใช่สกุลหลักอีกต่อไป แล้วอะไรจะเป็น? คำตอบเดียวคือ ทองคำ
เพราะมันไม่ใช่สกุลเงินของประเทศใด ไม่มีธนาคารกลาง ไม่มีการเมือง ไม่มีคณะกรรมการ ไม่มีวาระซ่อนเร้นใด ๆ นี่แหละที่ทำให้คนหันกลับมาเลือกทองคำ
ผมเพิ่งไปเอเชียมา 2 อาทิตย์ เจอทั้งนักลงทุนรวย ๆ และ family office ตอนกลางคืนคุยกัน มีแต่คนบอกว่า เราอยากได้ทองคำ พวกเขาขายดอลลาร์แล้วเอาเงินไปลงทองกันหมด
อย่างที่สิงคโปร์นี่มีทองคำเก็บอยู่ราว ๆ 10,000 ตันในคลังแบบฟอร์ตน็อกซ์เลยนะ เพราะคนรวยกับ family office ที่นั่นกำลังเทขายดอลลาร์แล้วเปลี่ยนเป็นทองคำ
เพราะเขาเห็นทิศทางว่ามันจะไปทางไหน และรู้ว่าทองคำคือการลงทุนที่ดีมาก กระแสนี้จะยังเดินต่อไป และอย่าลืมว่าทองคำมักจะ “วิ่งเกินเป้า” เสมอ
เพราะงั้น $10,000 หรือ $12,000 หรือแม้แต่ $15,000 ต่อออนซ์ ไม่ใช่แค่ฝัน แต่มันมีเหตุผล
ที่มา https://www.facebook.com/profile.php?id=100063620406722