รัสเซียอาจโจมตียูเครนด้วย Oreshniks อีกครั้ง หลังตะวันตกส่งอาวุธพิสัยไกลให้ยูเครน ทรัมป์ส่อเค้าเพิ่มความตึงเครียด

31-5-2025

   Asia Time รายงานจากการเปิดเผยของนายฟรีดริช เมิร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีว่า ชาติตะวันตกได้ยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดเกี่ยวกับพิสัยการยิงของอาวุธที่ส่งมอบให้ยูเครน ได้สร้างความรู้สึกเหมือนกำลังเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้ที่รุนแรงจากรัสเซีย

   รัสเซียเคยเตือนชาติตะวันตกไม่ให้ดำเนินการเช่นนี้มาแล้วในอดีต แต่ช่วงเวลาแห่งความจริงก็มาถึงเมื่อชาติตะวันตกฝ่าฝืนคำเตือน ส่งผลให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินตัดสินใจยกระดับความขัดแย้งด้วยการอนุมัติให้ใช้ขีปนาวุธโอเรชนิก (Oreshnik) พิสัยกลางความเร็วเหนือเสียงที่เคยเป็นความลับสูงสุดโจมตียูเครน ประวัติศาสตร์จึงอาจกำลังจะซ้ำรอยอีกครั้ง

   นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ได้อธิบายการตัดสินใจของฝ่ายตะวันตกว่าเป็นเรื่อง "ค่อนข้างอันตราย" ขณะที่นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ประเมินว่าการตัดสินใจดังกล่าว "เกิดขึ้นมานานแล้วและถูกปิดบังเอาไว้" ซึ่งสอดคล้องกับคำชี้แจงของนายเมิร์ซในภายหลัง อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้ยังไม่ได้ส่งผลให้เกิดการโจมตีที่มีนัยสำคัญทางยุทธศาสตร์ต่อรัสเซีย และยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงพลวัตของความขัดแย้งให้เอื้อประโยชน์ต่อยูเครนแต่อย่างใด แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง รัสเซียอาจจะใช้ขีปนาวุธโอเรชนิกเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้สามารถโจมตีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ได้อย่างรุนแรงยิ่งขึ้น

   การตอบโต้ของรัสเซียอาจเกิดขึ้นได้แม้ในกรณีที่ไม่มีการยกระดับการโจมตีโดยยูเครนก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความที่ส่อเค้าไม่ดีเมื่อวันอังคารว่า "สิ่งที่วลาดิมีร์ ปูตินไม่ตระหนักคือ หากไม่ใช่เพราะผม สิ่งเลวร้ายมากมายคงเกิดขึ้นกับรัสเซียไปแล้ว และผมหมายถึงเลวร้ายมากจริงๆ! เขากำลังเล่นกับไฟ!"

   ข้อความนี้ต่อเนื่องจากโพสต์ก่อนหน้าที่ทรัมป์ระบุว่า "[ปูติน] บ้าไปแล้วอย่างสิ้นเชิง!" ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าทรัมป์อาจได้รับข้อมูลที่บิดเบือนจากที่ปรึกษาที่เขาไว้วางใจ หรืออาจกำลังสร้างข้ออ้างสำหรับการยกระดับความขัดแย้งโดยสหรัฐฯ จึงเห็นได้ชัดว่าทรัมป์กำลังเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่การเจรจาสันติภาพอาจล้มเหลวในเร็วๆ นี้ โดยก่อนหน้านั้น เขากำลังพยายามสร้างเรื่องราวเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง การที่เขาใส่ร้ายปูตินว่า "บ้า" และบอกเป็นนัยว่า "สิ่งเลวร้าย...เลวร้ายจริงๆ" อาจเกิดขึ้นกับรัสเซียในไม่ช้า แสดงให้เห็นว่าทรัมป์กำลังส่งสัญญาณเห็นชอบโดยนัยต่อการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้นจากยูเครน

   นอกเหนือจากการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์แล้ว การยกระดับความขัดแย้งอาจอยู่ในรูปแบบของปฏิบัติการลอบสังหารและก่อการร้ายทั่วประเทศ ไม่ควรลืมว่ารัสเซียเคยกล่าวหายูเครนว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ศูนย์การค้าโครคัสในฤดูใบไม้ผลิปี 2024 รวมถึงกล่าวหาว่ายูเครนวางแผนลอบสังหารปูตินระหว่างพิธีสวนสนามวันกองทัพเรือที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว และเพิ่งเปิดเผยว่าฝูงโดรนของยูเครนพยายามโจมตีเฮลิคอปเตอร์ของปูตินระหว่างการเยือนเคิร์สก์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

   ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ยังนิ่งเงียบอย่างน่าสงสัยหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนได้ขู่โดยนัยว่าจะโจมตีขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะในมอสโก จึงมีความเป็นไปได้ว่าทรัมป์อาจ "ปล่อยให้ยูเครนเป็นอิสระ" ในที่สุด แม้ว่าเขาอาจถอนตัวจากความขัดแย้งก็ตาม

ในกรณีที่ขีปนาวุธพิสัยไกลจากชาติตะวันตกของยูเครนโจมตีเป้าหมายที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ และ/หรือมีการเริ่มปฏิบัติการลอบสังหารและก่อการร้ายทั่วประเทศ โดยเฉพาะหากมีภัยคุกคามที่น่าเชื่อถือต่อประธานาธิบดีปูตินหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงอื่นๆ รัสเซียอาจตอบโต้ด้วยการใช้ขีปนาวุธโอเรชนิกเพิ่มเติม

  ในขณะนี้ รัสเซียดูเหมือนจะกำลังยับยั้งตัวเองไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้ทรัมป์ข้ามเส้นแดงด้วยวิธีการที่กล่าวมาข้างต้น แต่รัสเซียจะไม่มีเหตุผลที่ต้องยับยั้งอีกต่อไปหากทรัมป์เป็นฝ่ายริเริ่มการยกระดับความขัดแย้งก่อน

   โดยสรุปแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ อาจเสื่อมทรามลงในเร็ววันนี้ ขึ้นอยู่กับการกระทำของยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเครมลินสรุปว่าเป็นการกระทำโดยได้รับการยินยอมหรือสนับสนุนจากสหรัฐฯ ไม่มีทางที่รัสเซียจะไม่ตอบโต้หากยูเครนยกระดับความขัดแย้ง การตอบโต้ดังกล่าวอาจอยู่ในรูปแบบของการโจมตีด้วยขีปนาวุธโอเรชนิกเพิ่มเติม ซึ่งทรัมป์อาจใช้เป็นข้ออ้างในการยกระดับการมีส่วนร่วมโดยตรงของสหรัฐฯ ในความขัดแย้งนี้ ทีละขั้นตอน ทรัมป์กำลังเปลี่ยน "สงครามของโจ ไบเดนผู้ง่วงนอน" ให้กลายเป็นสงครามของเขาเอง ซึ่งตรงกันข้ามกับคำเตือนของสตีฟ แบนนอน อดีตที่ปรึกษาที่ได้เตือนเขาไม่ให้กระทำเช่นนั้น

---

IMCT NEWS

ที่มา https://asiatimes.com/2025/05/why-russia-may-soon-shoot-more-hypersonic-oreshniks-at-ukraine/