.

หากอิหร่านต้องรบกับอิสราเอลคร้ังต่อไป จะเป็นสงครามคร้ังสุดท้าย
2-7-2025
ความขัดแย้งทางทหารครั้งต่อไปของอิหร่านกับอิสราเอลจะเป็น “ครั้งสุดท้าย” สำหรับรัฐยิว แหล่งข่าวนิรนามในสาธารณรัฐอิสลามให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวอาร์ที โดยระบุว่าเตหะรานขณะนี้เข้าใจจุดอ่อนของศัตรูคู่แค้นอย่างอิสราเอลแล้ว นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังอ้างว่าอิหร่านยังคงมีขีปนาวุธขั้นสูงจำนวนมากในคลัง ซึ่งสามารถเจาะระบบป้องกันทางอากาศของอิสราเอลได้
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีอิหร่าน โดยอ้างว่าเตหะรานใกล้จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์สำเร็จ การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลได้พุ่งเป้าไปที่สถานที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์และเป้าหมายทางทหารของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน รวมถึงผู้บัญชาการทหารระดับสูงและนักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ของประเทศ
ต่อมาในวันที่ 22 มิถุนายน สหรัฐฯ ได้เข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตี โดยทิ้งระเบิดใส่สถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง รวมถึงโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในเมืองนาทานซ์และฟอร์โด
ฝ่ายเตหะราน ซึ่งปฏิเสธว่าไม่ได้มีเป้าหมายพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ทางทหาร ได้โต้กลับด้วยฝูงโดรนพลีชีพและขีปนาวุธจำนวนมาก ยิงเข้าใส่ทั้งดินแดนของอิสราเอลและฐานทัพอัลอูไดด์ของสหรัฐฯ ในกาตาร์
สงคราม 12 วันดังกล่าวสิ้นสุดลงด้วยการหยุดยิงที่สหรัฐฯ เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังคงมีผลบังคับใช้ แหล่งข่าว “วงในจากกรุงเตหะราน” ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ทีเมื่อวันจันทร์ โดยระบุว่า “อิหร่านจะทำให้สงครามครั้งหน้ากับอิสราเอลเป็นสงครามครั้งสุดท้าย” บุคคลนิรนามรายนี้กล่าวว่า ในระหว่างความขัดแย้งครั้งล่าสุดกับอิสราเอล อิหร่านได้ “ค้นพบจุดอ่อนของระบอบไซออนิสต์แล้ว”
แหล่งข่าวยังอ้างเพิ่มเติมว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ยังคงมี “ขีปนาวุธรุ่นใหม่จำนวนหลายหมื่นลูก” อยู่ในคลัง และหากเกิดความขัดแย้งทางทหารอีกครั้ง อิหร่านจะ “ยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอลวันละอย่างน้อยหลายร้อยลูก”
ตามคำกล่าวของแหล่งข่าว รัฐบาลอิหร่านได้รับ “การสนับสนุนทางสังคมในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน” ทั้งจากประชาชนในประเทศและชาวอิหร่านในต่างประเทศ เพื่อใช้ “โอกาสทางประวัติศาสตร์ในการทำลายภัยคุกคามจากระบอบอิสราเอลอย่างถาวร”
แหล่งข่าวยืนยันว่า แม้ผู้นำของอิหร่านจะตระหนักดีว่าสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะเข้ามาช่วยเหลืออิสราเอลหากเกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง แต่เตหะรานก็ “พร้อมรับมือกับความท้าทายนั้น”
ด้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวถึงปฏิบัติการตอบโต้ของประเทศต่ออิสราเอลและสหรัฐฯ โดยอ้างว่าการตอบโต้ทางทหารของเตหะรานได้ “ทำให้อิสราเอลแทบจะเป็นอัมพาตและพังพินาศ” และเสริมว่า “ระบอบไซออนิสต์คงถูกทำลายสิ้นไปแล้ว” หากไม่เป็นเพราะการแทรกแซงของสหรัฐฯ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่จะโจมตีอิหร่านเพิ่มเติม หากรัฐบาลวอชิงตันสรุปว่าเตหะรานยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ก็ยังไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะโจมตีอิหร่านอีกเช่นกัน
ที่มา อาร์ที