เปิดรายงาน Govini ถึงเพนตากอน กองทัพสหรัฐฯ  อาจไม่พร้อมรบใหญ่   เผยจุดอ่อนห่วงโซ่อุปทานอาวุธสหรัฐฯ  พึ่งพาจีน สูงเกินคาด ทั้งที่ถูกจัดเป็น "คู่แข่ง"

2-7-2025

   รายงานจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Govini เตือนว่า ฐานอุตสาหกรรมกลาโหมของสหรัฐฯ (US) ยังคงพึ่งพาซัพพลายเออร์จีน (China) อย่างมาก แม้จะมีความพยายามในการแยกห่วงโซ่อุปทาน (decouple) ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมในการทำสงคราม

  Govini ระบุในรายงาน National Security Scorecard ประจำปีว่า บริษัทจีน (China) ยังคงเป็นผู้รับเหมาหลัก หรือซัพพลายเออร์ระดับ Tier 1 ในโครงการกลาโหมสำคัญของสหรัฐฯ กว่า 9.3% ในเก้าภาคส่วนวิกฤตในปี 2024

"สหรัฐอเมริกา (United States) ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสงครามที่เราอาจจะต้องเผชิญ หากจีน (China) ตัดสินใจว่า 'วันนี้แหละ'" ทารา โดเฮอร์ตี (Tara Dougherty) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Govini บริษัทข้อมูลด้านการจัดซื้อจัดจ้างด้านกลาโหมซึ่งตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน (Washington) กล่าว

   นักวิจัยของบริษัทได้วิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (US Department of Defense) ในเก้าภาคส่วนหลัก ได้แก่ การบิน การเดินเรือ C4I (ระบบบัญชาการ ควบคุม การสื่อสาร คอมพิวเตอร์ และข่าวกรอง) การสนับสนุนภารกิจ นิวเคลียร์ ขีปนาวุธและกระสุนปืน ภาคพื้นดิน การป้องกันขีปนาวุธ และอวกาศ

   พวกเขาได้ข้อสรุปว่าห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ "เปราะบางอย่างไม่น่าเชื่อ" และจีน (China) ซึ่งถูกจัดประเภทว่าเป็นประเทศ "คู่แข่ง" (adversarial) เป็นที่ตั้งของซัพพลายเออร์ระดับ Tier 1 จำนวนมากที่สุด

 ภาคการป้องกันขีปนาวุธพึ่งพาจีน (China) สูงสุด ขณะซัพพลายเออร์จีน (China) ในภาคส่วนนิวเคลียร์พุ่งขึ้น

   ตามรายงาน ภาคส่วนการป้องกันขีปนาวุธมีการพึ่งพาซัพพลายเออร์จีน (China) อย่างมีนัยสำคัญที่สุด โดยมีส่วนแบ่ง 11.1% ขณะที่ภาคส่วนนิวเคลียร์มีการพึ่งพาน้อยที่สุดอยู่ที่ 7.8% โดย 45% ของซัพพลายเออร์ในภาคส่วนนี้ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา (United States)

   แต่ในบรรดาซัพพลายเออร์ต่างชาติสำหรับภาคส่วนนิวเคลียร์ จีน (China) มีจำนวนมากที่สุดถึง 534 ราย เทียบกับพันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างแคนาดา (Canada) และอังกฤษ (Britain) ที่มี 405 และ 366 รายตามลำดับ ในขณะเดียวกัน จำนวนซัพพลายเออร์จีน (China) ในภาคส่วนนี้พบว่าเพิ่มขึ้น 45.5% จากปีก่อนหน้า

   รายงานยังระบุด้วยว่าระบบอาวุธจำนวนมาก ตั้งแต่หลายร้อยระบบในภาคการบินและการเดินเรือ ไปจนถึงเพียงไม่กี่ระบบในภาคส่วนนิวเคลียร์ ล้วนต้องพึ่งพาแร่ธาตุสำคัญ (critical minerals) ซึ่งการผลิตส่วนใหญ่ถูกครอบงำโดยจีน (China)

"การที่จีน (China) สั่งห้ามการส่งออกแร่ธาตุสำคัญเมื่อเร็วๆ นี้ ตอกย้ำถึงความเปราะบางนี้" รายงานกล่าว โดยอ้างถึงมาตรการตอบโต้ของปักกิ่ง (Beijing) ในการควบคุมการส่งออกแร่หายาก (rare earth elements) และวัสดุสำคัญอื่นๆ ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีและการค้ากับวอชิงตัน (Washington)

ในรายงานเดือนเมษายน Govini ระบุว่า ชิ้นส่วนอาวุธ 80,000 ชิ้นในสหรัฐฯ ถูกผลิตโดยใช้พลวง (antimony) แกลเลียม (gallium) เจอร์เมเนียม (germanium) ทังสเตน (tungsten) หรือเทลลูเรียม (tellurium) และเนื่องจากการจัดหาแร่ธาตุสำคัญทั้งห้าชนิดนี้ถูกครอบงำโดยจีน (China) รายงานจึงพบว่าระบบอาวุธทั้งหมดของสหรัฐฯ เกือบ 78% อาจได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดการส่งออก

รายงานล่าสุดยังได้เปรียบเทียบจำนวนสิทธิบัตรที่ได้รับอนุมัติในแต่ละภาคส่วนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และพบว่าจีน (China) มีจำนวนสิทธิบัตรแซงหน้าสหรัฐฯ ในส่วนใหญ่

ความท้าทายและความหวังในการจัดการห่วงโซ่อุปทานกลาโหม

แม้ว่ารายงานจะเน้นย้ำถึงจุดอ่อนในห่วงโซ่อุปทานทางทหารของอเมริกา (America) แต่ โดเฮอร์ตี (Dougherty) กล่าวว่าการกำจัดซัพพลายเออร์จีน (China) ออกจากห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดอาจไม่สามารถทำได้จริง

"ฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าการกำจัดจีน (China) ออกจากห่วงโซ่อุปทานเป็นเป้าหมายที่ถูกต้อง" เธอกล่าว โดยเสนอว่าควรระบุและเสริมสร้างส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดแทน "ฉันคิดว่ามันคือการแยกแยะแพลตฟอร์มเหล่านี้ออกเป็นส่วนที่สำคัญและไม่สำคัญ" เธอกล่าวเสริม

รายงานยังชี้ให้เห็นถึงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การพึ่งพาผู้รับเหมาหลักมากเกินไป และซัพพลายเออร์ขนาดเล็กที่ดำเนินงานด้วยเทคโนโลยีที่ล้าสมัย แรงงานที่มีอายุมากขึ้น และอัตรากำไรที่ต่ำ

"ชิ้นส่วน [อะไหล่] เกือบครึ่งหนึ่งมีปัจจัยเสี่ยงหลักอย่างน้อยหนึ่งประการ" โดเฮอร์ตี (Dougherty) กล่าว

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.scmp.com/news/china/military/article/3316475/pentagon-reliant-chinese-suppliers-and-not-prepared-war-report-warns