EUเตรียมใช้มาตรการ 'nuclear option' โต้กลับภาษี30%

EU เตรียมใช้มาตรการ 'nuclear option' โต้กลับภาษีทรัมป์ 30%
23-7-2025
Reuters รายงานว่า EU เตรียมงัดมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ พร้อมชนหากทรัมป์จุดไฟสงครามภาษี สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากการเจรจาการค้ากับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ไม่บรรลุข้อตกลงภายในกรอบเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะกรณีสหรัฐฯ มีแผนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปในอัตรา 30% ภายในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
แหล่งข่าวทางการทูตของ EU ระบุว่า ขณะนี้มีประเทศสมาชิกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเยอรมนี (Germany) ที่เริ่มสนับสนุนให้เปิดใช้ “เครื่องมือต่อต้านการบีบบังคับ” หรือ Anti-Coercion Instrument (ACI) ซึ่งถูกมองว่าเป็น “ทางเลือกสุดท้าย” หรือ "nuclear option" ทางเศรษฐกิจ ที่ EU ตราขึ้นเพื่อไว้ใช้ตอบโต้การกดดันและบีบบังคับจากประเทศนอกกลุ่ม โดยหวังผลทั้งเชิงป้องปรามและตอบโต้
### ‘อาวุธนิวเคลียร์ทางการค้า’ ของ EU คืออะไร?
ACI เป็นเครื่องมือที่ผ่านความเห็นชอบจากกลุ่มสมาชิก EU และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายปี 2023 โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการใช้ตอบโต้ประเทศที่ใช้อำนาจทางเศรษฐกิจบีบบังคับนโยบายของประเทศสมาชิก
สิ่งที่ทำให้ ACI แตกต่างจากมาตรการภาษีตอบโต้ทั่วไป คือ **ขอบเขตการดำเนินการกว้างขวางกว่ามาก** นอกเหนือจากการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ แล้ว ยังรวมถึงมาตรการต่อไปนี้:
#### มาตรการที่ EU อาจนำมาใช้:
- ภาษีศุลกากรและโควต้า: ขึ้นภาษีหรือกำหนดโควตานำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ
- ข้อจำกัดด้านบริการ: พุ่งเป้าไปที่ภาคบริการที่สหรัฐฯ ได้เปรียบ เช่น Amazon, Microsoft, Netflix และ Uber
- กีดกันการประมูลจัดซื้อภาครัฐ: ตัดสิทธิบริษัทสหรัฐฯ เข้าร่วมประมูลในโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลหากพบว่าองค์ประกอบของสินค้า/บริการจากสหรัฐฯ เกิน 50% ของมูลค่าสัญญา หรือใช้การปรับคะแนนเสนอราคาด้อยลง
- ควบคุมการลงทุนโดยตรงจากสหรัฐฯ (FDI): จำกัดหรือชะลอการอนุมัติการลงทุนโดยตรงจากภาคธุรกิจอเมริกัน ซึ่งปัจจุบันถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดใน EU
- คุมทรัพย์สินทางปัญญา-สินค้าอ่อนไหว: จำกัดการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และกีดกันการเข้าถึงของสินค้าจำพวกเคมีภัณฑ์และอาหารจากสหรัฐฯ เข้าสู่ตลาดยุโรป
- จำกัดการเข้าถึงตลาดการเงิน: ควบคุมไม่ให้สถาบันการเงินจากสหรัฐฯ ดำเนินกิจการในยุโรปได้อย่างเสรี
คณะกรรมาธิการยุโรปเน้นย้ำว่า แต่ละมาตรการจะต้องมีความสมเหตุสมผล และเลือกรูปแบบที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมกดดันของรัฐคู่กรณีอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ขณะเดียวกันก็มีเป้าหมายลดความเสียหายแก่ภาคธุรกิจของยุโรปให้มากที่สุด
### กระบวนการบังคับใช้ ACI: เดินเกมรัดกุมแต่พร้อมบุกเต็มรูปแบบ
กฎหมาย ACI ถูกเสนอครั้งแรกเมื่อปี 2021 จากแรงกดดันของหลายประเทศสมาชิกที่มองว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ทรัมป์ในยุคแรก รวมถึงจีน (China) ต่างใช้นโยบายการค้าเป็นเครื่องมือกดดันทางการเมือง
กรณีหนึ่งที่กลายเป็นหมุดหมายสำคัญ คือการที่จีนตอบโต้ลิทัวเนีย (Lithuania) หลังจากลิทัวเนียอนุญาตให้ไต้หวัน (Taiwan) เปิดสำนักงานตัวแทนอย่างไม่เป็นทางการในกรุงวิลนีอุส (Vilnius)
ขั้นตอนของ ACI ดำเนินเป็นระบบตามกฎหมายของ EU:
1. คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) มีกรอบเวลา 4 เดือนเพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหาว่ามีการบีบบังคับทางเศรษฐกิจจากประเทศภายนอกหรือไม่
2. หากพบพฤติกรรมเข้าข่าย คณะกรรมาธิการจะส่งเรื่องให้ประเทศสมาชิกพิจารณา ซึ่งต้องการเสียง "Qualified Majority" หรือเสียงข้างมากพิเศษในการอนุมัติ (มากกว่าการใช้มาตรการภาษีทั่วไป)
3. จากนั้นคณะกรรมาธิการจะเข้าสู่กระบวนการเจรจากับประเทศคู่กรณี หากไม่เป็นผล ตามกรอบเวลา 6 เดือน สมาชิก EU สามารถโหวตให้นำมาตรการโต้กลับมาใช้ และมีผลบังคับภายในเวลา 3 เดือน
### เวลาเป็นตัวแปรสำคัญ
แม้กระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลานานถึงหนึ่งปี แต่แหล่งข่าวจากบรัสเซลส์ระบุว่า หากสถานการณ์พัฒนาอย่างรวดเร็ว คณะกรรมาธิการสามารถเร่งขั้นตอนเพื่อรับมือวิกฤตเฉพาะหน้าก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งรัฐบาลทรัมป์อ้างเป็นกำหนดกดดัน EU ให้เข้าสู่ข้อตกลงการค้าแบบใหม่
> " EU ไม่ปิดประตูการเจรจา แต่ก็พร้อมทุกทางเลือกหากต้องตอบโต้เต็มรูปแบบ"
ในเวลาที่ทรัมป์เร่งขยายแนวทางการค้าแบบชาตินิยมอเมริกัน (America First) อีกครั้ง พร้อมกระแสเหยียบคันเร่งสงครามภาษีระลอกใหม่ ยุโรปดูเหมือนจะไม่เลือกนั่งเฉยแบบเดิมอีกต่อไป
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.reuters.com/markets/europe/eus-nuclear-option-moves-against-trump-tariff-threat-2025-07-21/