.

'จีน-ปากีสถาน' ผลักดันตั้งกลุ่มภูมิภาคเอเซียใต้ใหม่ 'ไร้อินเดีย' นักวิเคราะห์ชี้เป็นความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์
23-7-2025
SCMP รายงานว่า ความพยายามครั้งล่าสุดของจีนและปากีสถานในการวางรากฐานกลุ่มความร่วมมือภูมิภาคใหม่ แทนที่สมาคมความร่วมมือเอเชียใต้ (Saarc) อาจติดขัดตั้งแต่เริ่มต้น เนื่องจากนักวิเคราะห์เตือนว่า อินเดียยังคงเป็นตัวแปรสำคัญต่ออนาคตของระบบความร่วมมือระดับภูมิภาคทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง
ตามรายงานของสื่ออินเดีย จีนและปากีสถานอยู่ระหว่างการหารือในระดับสูงเพื่อจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือบางรูปแบบโดยไม่รวมอินเดีย ซึ่งถูกตีความว่าเป็นความพยายามเชิงยุทธศาสตร์ของจีนในการลดบทบาทของเดลีในภูมิภาคเอเชียใต้
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากบังกลาเทศได้เข้าร่วมประชุมที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน ว่าด้วยความเป็นไปได้ของกลุ่มใหม่นี้ อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศของบังกลาเทศ เอ็ม. โถวฮิด ฮอสเซน (M. Touhid Hossain) ออกมายืนยันว่า “เราไม่ได้เข้าร่วมเพื่อจัดตั้งพันธมิตรใดๆ”
สมาคม Saarc ซึ่งก่อตั้งในปี 1985 โดยสมาชิกผู้ก่อตั้ง 7 ประเทศ รวมถึงอินเดีย และรับอัฟกานิสถานเป็นสมาชิกในปี 2007 ถูกวิจารณ์ว่าไร้บทบาทมาตั้งแต่ปี 2016 หลังจากที่อินเดียบอยคอตการประชุมสุดยอดในปีนั้น โดยอ้างว่าปากีสถานให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายที่โจมตีฐานทัพทหารในแคชเมียร์
หลังจากนั้นเป็นต้นมา Saarc ก็จัดประชุมกันในวงจำกัด และไม่เคยมีก้าวคืบหน้าในเชิงกลไก จนทำให้หลายฝ่ายมองว่ากลุ่มนี้ใกล้จะกลายเป็นอดีต
ศ. สวราน ซิงห์ (Swaran Singh) แห่งมหาวิทยาลัยเนรูในกรุงนิวเดลี กล่าวว่า ข้อพิพาทด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างอินเดียกับปากีสถานเป็นอุปสรรคหลัก เขายังเตือนว่า หากไม่มีอินเดีย กลุ่มใดในภูมิภาคก็มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นเวทีที่ปากีสถานครองอิทธิพลเพียงฝ่ายเดียว
“เมื่อมองจากขนาดประชากร เศรษฐกิจ และกำลังทหาร อินเดียมีอิทธิพลเหนือปากีสถานอย่างชัดเจน อินเดียมีประชากรมากกว่า 7 เท่า เศรษฐกิจใหญ่กว่า 12 เท่า และงบประมาณกลาโหมมากกว่า 5 เท่า” เขากล่าว “ไม่น่าจะมีเวทีระดับภูมิภาคในเอเชียใต้ใดที่มีเสถียรภาพได้โดยไม่มีอินเดีย”
## **เศรษฐกิจ-ความมั่นคงยังผูกกับอินเดีย**
สำหรับประเทศขนาดเล็กในภูมิภาคอย่างเนปาลและภูฏาน ก็ยังต้องพึ่งตลาดส่งออกและระบบโครงสร้างพื้นฐานผ่านอินเดียอยู่เป็นหลัก
ศ. ชานเตศ กุมาร ซิงห์ (Shantesh Kumar Singh) นักวิจัยจากสถาบันวิเทศสัมพันธ์ ม.เนรู กล่าวเสริมว่า อินเดียแสดงภาวะผู้นำโดยเฉพาะในวิกฤต เช่น การรับมือภัยพิบัติและการทูตวัคซีนช่วงโควิด ซึ่งเป็นบทบาทที่ไม่มีชาติใดในเอเชียใต้เทียบได้
“อินเดียควรทำหน้าที่เป็นผู้นำที่มีความรับผิดชอบ สร้างความเชื่อมั่นทางภูมิภาค และป้องกันแรงกดจากภายนอก ไม่ให้กำหนดทิศทางระบบความร่วมมือเอเชียใต้แต่เพียงฝ่ายเดียว” เขาเตือนว่า หากไร้อินเดีย ความชอบธรรมของโครงสร้างระดับภูมิภาคจะสั่นคลอนทันที
โครงการขนาดใหญ่ อย่าง Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือขยายอิทธิพลในเอเชียใต้ ทั้งในแง่ยุทธศาสตร์ พลังงาน และเศรษฐกิจ แต่การตั้งกลุ่มใหม่ที่ไม่มีอินเดีย อาจเผชิญการต่อต้านโดยปริยาย
พาวัน เชาราสียา (Pawan Chaurasia) นักวิจัยจาก India Foundation กล่าวว่า แม้หลายชาติในภูมิภาคอาจไม่เห็นด้วยกับเดลี แต่อาจไม่พร้อมประกาศจุดยืน “แอนตี้อินเดีย” อย่างเปิดเผย
“หากมีการเชิญชวนเข้าร่วมกลุ่มใหม่จริง บางชาติอาจใช้เป็นเครื่องต่อรองเพื่อขอเจรจาผลประโยชน์เพิ่มเติมกับอินเดีย แต่ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมโดยจริงจัง” เขากล่าว
## อินเดียชูบทบาทภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง แม้ Saarc ล่มสลาย
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) เคยใช้เวที Saarc เป็นกลไกสร้างเอกรูปภูมิภาค ทั้งการเสนอข้อตกลงการขนส่งร่วม และการบริจาคเงินให้กองทุนรับมือโควิดเกือบครึ่งหนึ่ง ทั้งยังเดินหน้าโครงการดาวเทียมเอเชียใต้โดยไม่ปฏิเสธปากีสถาน
ภายใต้แนวทาง “Act East and Neighbourhood First” อินเดียยังหันไปสร้างความร่วมมือผ่าน Bimstec ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมืออ่าวเบงกอลที่ไม่รวมปากีสถาน
ล่าสุด เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ความตึงเครียดระหว่างอินเดีย-ปากีสถานปะทุขึ้นหนักที่สุดในรอบหลายปี ด้วยการตอบโต้ทางทหารรอบใหม่ หลังกลุ่มติดอาวุธโจมตีนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ที่ฝ่ายอินเดียควบคุม
## ฝ่ายใดประมาทอินเดีย ย่อมประเมินเกมภูมิรัฐศาสตร์ผิดพลาด
แม้จีนและปากีสถานจะพยายามใช้ประเด็น Saarc ที่กลายเป็นกลุ่มไร้บทบาท เพื่อสร้างความชอบธรรมในการก่อตั้งกลุ่มใหม่ แต่สถานภาพของอินเดียในฐานะชาติผู้นำเศรษฐกิจ ประชากร และความมั่นคงของภูมิภาค ทำให้แนวคิด “ไม่รวมอินเดีย” ถูกประเมินว่ามีศักยภาพต่ำ
ผู้สังเกตการณ์ชี้ว่า หากจีนต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้จัดระเบียบภูมิภาค จะต้องเผชิญกับ “ข้อจำกัดเชิงภูมิยุทธศาสตร์” โดยเฉพาะในสภาวะที่รัฐชายขอบของภูมิภาคอย่างภูฏาน ศรีลังกา และเนปาล ทราบชัดดีว่า “อินเดียยังเป็นประตูทางเศรษฐกิจและโลจิสติกส์หลัก”
ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อินเดียยังคงห่างไกลจากคำว่า “มั่นคง” ความริเริ่มที่ไม่รวมอินเดียอาจกลายเป็นเพียงหมากยุทธศาสตร์ชั่วคราว มากกว่าความพยายามบูรณาการระยะยาวอย่างแท้จริง.
----
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3318803/no-india-no-go-why-new-china-led-south-asian-bloc-may-falter?module=AI_Recommended_for_you_In-house&pgtype=homepage