“สหภาพยุโรปยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องของทรัมป์เพราะ ‘ความกลัว’ – Sunday Times”

4-8-2025

   ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ตกลงเซ็นสัญญาการค้ากับสหรัฐฯ ที่เอียงไปทางฝั่งอเมริกา โดยไม่ต่อต้าน เนื่องจากกลัวว่าสหรัฐฯ อาจลดการสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน หรือแม้แต่ถอนกำลังทหารอเมริกันออกจากยุโรป ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ Sunday Times ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

  หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้บรรยายถึงการเยือนสนามกอล์ฟของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สกอตแลนด์เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งฟอน เดอร์ เลเยนยอมรับภาษีร้อยละ 15 สำหรับการส่งออกส่วนใหญ่ของสหภาพยุโรปว่าเป็นการ “ยอมจำนน”

  ตามรายงาน เจ้าหน้าที่ในคณะกรรมาธิการเคยเตรียมแพ็คเกจตอบโต้ที่เข้มงวดต่อข้อเสนอภาษีร้อยละ 20 ของทรัมป์ที่ประกาศในเดือนเมษายน แต่เมื่อทรัมป์ขู่จะเพิ่มภาษีเป็นร้อยละ 30 ฟอน เดอร์ เลเยนจึงถอยกลับ

  เบื้องหลังการเปลี่ยนใจครั้งนี้ คือ “ความกลัวว่าทรัมป์อาจใช้ข้อพิพาทนี้เป็นข้ออ้างเพื่อลดการสนับสนุนทางทหารสหรัฐฯ แก่ยูเครน หรือทำลายความมั่นคงของยุโรป” หนังสือพิมพ์ Sunday Times เขียน โดยรายงานว่า บรัสเซลส์กังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการทบทวนยุทธศาสตร์สหรัฐฯ ที่อาจนำไปสู่การถอนกำลังทหารบางส่วนจากประมาณ 80,000 นายที่ประจำการอยู่ทั่วยุโรป

  ข้อตกลงทางการค้าซึ่งสรุปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ครอบคลุมไม่เพียงแค่ภาษีร้อยละ 15 กับสินค้าสหภาพยุโรปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นของบรัสเซลส์ที่จะลงทุน 600,000 ล้านดอลลาร์ในเศรษฐกิจสหรัฐฯ และซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่า 750,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงสามปีข้างหน้า ขณะที่สหราชอาณาจักร ซึ่งเจรจาอย่างอิสระ ได้รับอัตราภาษีส่งออกที่ต่ำกว่าคือร้อยละ 10

  ท่ามกลางกระแสต่อต้านภายในที่เพิ่มขึ้นในบรัสเซลส์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ถูกระบุว่าได้วิพากษ์วิจารณ์ผลลัพธ์ของข้อตกลงนี้ว่า สหภาพยุโรป “ยังไม่ได้รับความน่ากลัวพอ” นายกรัฐมนตรีฮังการี วิกเตอร์ ออร์บาน กล่าวว่าทรัมป์ “กินเธอเป็นอาหารเช้า” และกล่าวหาว่าฟอน เดอร์ เลเยน ได้ล่วงละเมิดอำนาจของตนโดยการให้คำมั่นที่จะซื้ออาวุธสหรัฐฯ จำนวนมากอย่างไม่เป็นทางการ

  ฟอน เดอร์ เลเยน ยังเผชิญกับแรงต้านทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในประเทศของเธอเอง ขณะที่เธอกำลังผลักดันให้เปลี่ยนแปลงงบประมาณ 1.8 ล้านล้านยูโรของสหภาพยุโรปในช่วงเจ็ดปีข้างหน้า โดยย้ายงบส่วนสำคัญจากภาคเกษตรกรรมและการพัฒนาภูมิภาคมาสู่การทหาร

  เธอรอดจากการลงมติไว้วางใจในรัฐสภายุโรปเมื่อเดือนที่ผ่านมาอย่างเฉียดฉิว ท่ามกลางเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับสไตล์การบริหารและประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ของเธอ สมาชิกรัฐสภาพรรคบางคนมองว่านี่คือ “โอกาสสุดท้าย” ในวาระปัจจุบันของเธอ ตามที่ผู้แทนรัฐสภากล่าวกับหนังสือพิมพ์ Times

IMCT News