ตำรวจเยอรมันสลายม็อบ คัดค้านแผนเพิ่มงบประมาณกลาโหม ต้านช่วยยูเครน-อิสราเอล

1-9-2025

   RT รายงานว่า กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเมืองโคโลญจ์ชุมนุมประท้วงคัดค้านแผนการของเบอร์ลินที่จะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม และความช่วยเหลือสำหรับยูเครนและอิสราเอล

   การเดินขบวนต่อต้านสงครามที่เริ่มต้นอย่างสงบในเมืองโคโลญจ์ได้ลงเอยด้วยความรุนแรงเมื่อวันเสาร์ หลังจากนักเคลื่อนไหวปะทะกับตำรวจ ผู้ประท้วงได้รวมตัวกันคัดค้านแผนการของเบอร์ลินที่จะเพิ่มงบประมาณทางทหารและความช่วยเหลือสำหรับยูเครนและอิสราเอล

  การชุมนุมซึ่งมีรายงานว่ามีผู้เข้าร่วมเกือบ 3,000 คน จัดขึ้นโดยกลุ่มต่อต้านสงคราม Disarm Rheinmetall ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงบริษัทผู้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์รายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี กลุ่มดังกล่าวได้จัดการประท้วงหลายครั้งในสัปดาห์นี้ รวมถึงการปิดกั้นการเข้าถึงอาคารของกองทัพเยอรมนี (Bundeswehr) เมื่อวันพุธ และการประท้วงหน้าบ้านของ อาร์มิน ปัปเปอร์เกอร์ (Armin Papperger) ซีอีโอของ Rheinmetall ในเมืองเมียร์บุช ใกล้ดุสเซลดอร์ฟ

  นักเคลื่อนไหวระบุว่าพวกเขากำลังคัดค้านแผนการของรัฐบาลในการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม การขยายกองทัพผ่านการเกณฑ์ทหาร และการให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนและอิสราเอล

  ภาพจากการประท้วงวันเสาร์แสดงให้เห็นป้ายที่มีข้อความว่า "วางอาวุธ" และ "เราจะไม่ตายในสงครามของคุณ" ผู้ประท้วงรายหนึ่งบอกกับสำนักข่าววิดีโอ Ruptly ว่าการทหารของเยอรมนีและบทบาทของนาโต (NATO) ในความขัดแย้งในยูเครนเป็น "ก้าวสำคัญสู่สงครามโลกครั้งที่สาม" อีกคนหนึ่งวิจารณ์รัฐบาลที่จัดสรรเงินทุนไปสู่อุตสาหกรรมอาวุธแทนที่จะเป็นความต้องการทางสังคมและการศึกษา

  ตามรายงานซึ่งอ้างถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น การเดินขบวนถูกหยุดหลายครั้งหลังจากตำรวจรายงานว่าเห็นผู้ประท้วงปกปิดใบหน้าและจุดระเบิดควัน ตำรวจยังระบุว่าได้สกัดกั้นยานพาหนะคุ้มกันที่บรรทุกดอกไม้ไฟ แอลกอฮอล์เมทิล และถังแก๊ส ตำรวจอ้างว่าในที่สุดจำเป็นต้องสลายฝูงชนหลังจากผู้ประท้วงบางคนโจมตีเจ้าหน้าที่

  วิดีโอที่โพสต์ทางออนไลน์แสดงให้เห็นตำรวจใช้กำปั้น กระบอง และแก๊สน้ำตา โดยมีนักเคลื่อนไหวหลายคนได้รับบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด มีรายงานว่าผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งถูกควบคุมตัว แม้ว่าจะไม่มีการระบุตัวเลขก็ตาม

  โฆษกของผู้ประท้วงกล่าวหาว่าตำรวจโจมตีนักเคลื่อนไหว โดยอ้างว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บระหว่าง 40 ถึง 60 คน

  นายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมิร์ซ (Friedrich Merz) ของเยอรมนีได้ระงับข้อจำกัดการกู้ยืมเพื่อเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม โดยให้คำมั่นว่าจะเพิ่มงบประมาณเป็น 3.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภายในปี 2029 เขายังประกาศแผนการขยายกองทัพเยอรมนีจากประมาณ 182,000 เป็น 240,000 ทหารประจำการภายในปี 2031 และได้นำเสนอการลงทะเบียนภาคบังคับสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาใช้การเกณฑ์ทหารที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ เขายังแนะนำว่าทหารเยอรมันอาจถูกส่งไปยังยูเครนในฐานะส่วนหนึ่งของกองกำลังรักษาสันติภาพยุโรป แม้ว่ารัสเซียจะปฏิเสธการมีกองกำลังตะวันตกใดๆ ในยูเครนภายใต้รูปแบบใดก็ตาม

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.rt.com/news/623752-german-police-protest-militarization/

----------------------

เยอรมนี'คัดค้าน "มาตรการคว่ำบาตรอิสราเอล" ของ EU

1-9-2025

   RT รายงานว่า  Johann Wadephul (โยฮันน์ วาเดฟูล) รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีเปิดเผยว่า เยอรมนีได้ขัดขวางข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ที่ต้องการคว่ำบาตรอิสราเอลจากกรณีสงครามในกาซา

  อิสราเอลกำลังเผชิญกับการต่อต้านที่เพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมในความขัดแย้งครั้งนี้ หลังจากถูกกล่าวหาว่าอนุญาตให้มีการส่งความช่วยเหลือเข้าไปในดินแดนดังกล่าวน้อยมาก ขณะที่หลายรัฐในโลกตะวันตกได้ประกาศแผนการรับรองสถานะรัฐของปาเลสไตน์ และในบางกรณีได้ลดทอนความร่วมมือทางทหารและการค้ากับอิสราเอล

   เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอให้ระงับการเข้าร่วมโครงการวิจัย Horizon Europe ของอิสราเอล รวมถึงการตัดเงินทุนสนับสนุนสตาร์ตอัปของอิสราเอลในด้านเทคโนโลยีโดรน, ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ (cybersecurity) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งมีเจตนาที่จะกดดันให้อิสราเอลปรับปรุงการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ตามร่างมติที่ระบุไว้

  ในการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวระหว่างการประชุม EU ที่กรุงโคเปนเฮเกนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายวาเดฟูลกล่าวว่า เยอรมนีปฏิเสธแผนดังกล่าว เนื่องจาก "ไม่เชื่อมั่น" ว่าการจำกัดการเข้าถึงกองทุนวิจัยของ EU จะส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลได้ แต่เขากลับเสนอว่า บรัสเซลส์ (Brussels) ควรหันมาให้ความสำคัญกับมาตรการที่คล้ายกับที่เยอรมนีได้ทำไปแล้ว นั่นคือการจำกัดการส่งมอบอาวุธที่สามารถนำไปใช้ในกาซา

“ผมเชื่อว่านี่คือมาตรการที่พุ่งเป้าโดยตรง มีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก” เขากล่าว

   นาง Kaja Kallas (คายา คัลลาส) หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของ EU ยอมรับเมื่อวันเสาร์ว่า EU มีความเห็นแตกแยกกันในประเด็นนี้ และเธอก็ “ไม่ค่อยมองโลกในแง่ดี” ว่ารัฐมนตรีจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเร็วๆ นี้ แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ทั้งหมด เธอยังเสริมว่าบางรัฐต้องการมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น

  เดนมาร์กซึ่งดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของ EU ได้ส่งสัญญาณสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้น เช่น การระงับการค้ากับอิสราเอล ขณะที่นาย Jose Manuel Albares (โฮเซ่ มานูเอล อัลบาเรส) รัฐมนตรีต่างประเทศสเปน และนาง Tanja Fajon (ทันยา ฟายอน) รัฐมนตรีต่างประเทศสโลวีเนีย ก็ได้ประณามการไม่ดำเนินการใดๆ ของ EU ต่อสถานการณ์ในกาซา โดยนางฟายอนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg ในสัปดาห์นี้ว่า EU ไม่ได้มี “มาตรการแม้แต่มาตรการเดียว” ต่ออิสราเอล ซึ่งแตกต่างจากความเป็นเอกภาพของกลุ่มในการคว่ำบาตรรัสเซียจากความขัดแย้งในยูเครน

  ความขัดแย้งในกาซาเริ่มต้นขึ้นในปี 2023 เมื่อกลุ่มนักรบ Hamas (ฮามาส) โจมตีอิสราเอล สังหารผู้คนไปประมาณ 1,200 ราย และจับตัวประกันไปมากกว่า 250 ราย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กองกำลังอิสราเอลได้สังหารผู้คนในดินแดนดังกล่าวกว่า 61,000 ราย คณะทำงานที่ได้รับการสนับสนุนจาก UN ประกาศเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่าเกิดภาวะอดอยากในกาซาตอนเหนือ โดยมีผู้คนกว่าครึ่งล้านคนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะอดตาย

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.rt.com/news/623749-germany-blocks-sanctions-israel/