.

ยูกันดา'ค้นพบแหล่งทองคำ 12 ล้านล้านดอลลาร์ เรื่องจริงหรือกลยุทธ์ดึงดูดการลงทุน?
1-9-2025
Mike Maharrey จาก Money Metals ได้นำเสนอการวเคราะห์ ข้อเท็จจริงเบื้องหลังข่าว "ทองคำมูลค่า 12 ล้านล้านดอลลาร์ในยูกันดา" ว่า
- ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจำนวนมากเกี่ยวกับการค้นพบแหล่งทองคำขนาดมหึมาในประเทศยูกันดา
ตามรายงานข่าวระบุว่า จากการสำรวจพบแหล่งแร่ 31 ล้านตัน ซึ่งจะสามารถสกัดเป็นทองคำบริสุทธิ์ได้ประมาณ 320,158 ตัน คิดเป็นมูลค่า 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หากเทียบกับข้อมูลของ World Gold Council ปริมาณทองคำทั้งหมดที่ถูกขุดขึ้นมาในประวัติศาสตร์มีเพียงประมาณ 216,265 ตันเท่านั้น นั่นหมายความว่า รัฐบาลยูกันดาอ้างว่าได้ค้นพบแหล่งสำรองทองคำที่มีขนาดใหญ่กว่าปริมาณทองคำที่เคยถูกขุดขึ้นมาทั้งหมดในประวัติศาสตร์ถึง 56%
หากข้ออ้างนี้ฟังดูน่าสงสัย นั่นเป็นเพราะว่ามันน่าสงสัยจริงๆ
ไม่แน่ใจว่าทำไมข่าวนี้ถึงกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ทั้งที่รายงานฉบับแรกถูกเผยแพร่ออกมาตั้งแต่ปี 2022 ในเวลานั้น สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพลังงานและการพัฒนาของยูกันดาได้เปิดเผยถึงการค้นพบครั้งนี้
กล่าวตามตรง ตัวเลขเหล่านี้ไม่สมเหตุสมผลเลย และนายลุค เบอร์เจสส์ (Luke Burgess) ก็ได้ทำการคำนวณและเผยแพร่บทความบนเว็บไซต์ OutsiderClub com ซึ่งพบว่าจากปริมาณทองคำบริสุทธิ์ที่ยูกันดาอ้างว่าสามารถผลิตได้จากแร่ที่ขุดพบ ความเข้มข้นของทองคำ (Gold Grade) จะสูงถึงกว่า 10,000 กรัมต่อตัน (g/t)
นายเบอร์เจสส์ (Luke Burgess) ชี้ว่า เหมืองทองคำที่มีความเข้มข้นสูงสุดในขณะนั้นคือเหมือง Fosterville ของ Agnico Eagle ในออสเตรเลีย ซึ่งมีค่าความเข้มข้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 กรัมต่อตัน (g/t) ก่อนการระบาดใหญ่ และลดลงเหลือ 28 กรัมต่อตัน (g/t) ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ซึ่งถือว่ายังคงเป็นเหมืองที่มีความเข้มข้นสูงสุดในโลก
นายเบอร์เจสส์ (Luke Burgess) สรุปว่า "เหมืองทองคำที่มีเกรดสูงสุดในโลกตอนนี้มีค่าความเข้มข้นเฉลี่ยไม่ถึง 30 กรัมต่อตัน แต่รัฐบาลยูกันดาบอกว่าประเทศของพวกเขามีแหล่งแร่ขนาดใหญ่ที่มีค่าความเข้มข้นเฉลี่ยกว่า 10,000 กรัมต่อตัน มันเหลือเชื่อจริงๆ!"
เขาเสริมว่า หากมีการค้นพบเช่นนั้นจริง "จะสามารถมองเห็นทองคำได้ทุกที่ ทองคำจะไหลออกมาจากหิน และคุณจะไม่สามารถเดินได้โดยไม่เหยียบย่ำทองคำ"
แล้วทำไมรัฐบาลยูกันดาถึงสร้างเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นมา อาจเป็นแค่ความผิดพลาดในการรายงาน หรืออาจหมายถึงทองคำ 320,158 ออนซ์ ซึ่งจะสมเหตุสมผลกว่า หรืออาจมีสิ่งอื่นที่กำลังเกิดขึ้นอยู่
คำตอบอาจอยู่ในประโยคแรกของรายงานฉบับนั้นที่ระบุว่า "รัฐบาลยูกันดาต้องการดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ให้เข้ามาพัฒนาภาคส่วนนี้ ซึ่งเดิมทีถูกครอบงำโดยนักขุดรายย่อยที่ผิดกฎหมาย"
และมีข่าวว่าการเปิดเหมืองทองคำขนาดใหญ่แห่งแรกของยูกันดาถูกฝังอยู่ในบทความบน mining-technology . com ระบุว่า "นอกจากนี้ กฎหมายการทำเหมืองฉบับใหม่ที่ประกาศใช้ในปี 2022 อนุญาตให้รัฐบาลยูกันดาเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 15% โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในโครงการทำเหมืองทั้งหมดในประเทศ"
เรื่องราวการค้นพบทองคำครั้งใหญ่ของยูกันดาเกิดขึ้นในปี 2022 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่กฎหมายดังกล่าวถูกประกาศใช้
ปัจจุบัน ยังคงเป็นปริศนาว่าทำไมเรื่องราวที่ดูน่าสงสัยเพียงแค่คิดพิจารณาเพียงเล็กน้อยจึงยังคงเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลมีเดีย สาเหตุอาจเป็นเพราะผู้คนสนใจเรื่องราวที่เหลือเชื่อ และการค้นพบทองคำมูลค่า 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม อาจมีเหตุผลอื่นที่ลึกซึ้งกว่านั้น อาจเป็นไปได้ว่าเรื่องนี้ถูกนำกลับมาพูดถึงโดยผู้ที่ต้องการลดความน่าสนใจของทองคำ เช่น ผู้สนับสนุน Bitcoin หรือผู้มีอำนาจของรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้คนเชื่อว่าทองคำไม่ได้มีมูลค่าสูงนัก เพราะหากมีการค้นพบครั้งใหญ่เช่นนี้ ทองคำก็จะไม่ได้หายากอย่างที่เคยคิด และดังนั้นจึงมีมูลค่าน้อยลง
เรื่องราวที่คล้ายคลึงกันที่ถูกนำมาเผยแพร่บ่อยครั้ง เช่น เรื่องของดาวเคราะห์น้อยที่บรรจุทองคำมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ลอยอยู่ในอวกาศ แม้ว่ายังไม่มีหนทางที่จะขุดทองคำเหล่านั้นได้ แต่เรื่องราวนี้ก็ถูกนำมาใช้เพื่อชี้ให้เห็นว่าทองคำมีปริมาณมากมายกว่าที่เราตระหนักถึง หรือข่าวล่าสุดที่นักวิทยาศาสตร์สามารถเปลี่ยนตะกั่วให้เป็นทองคำได้ แต่จากการคำนวณของผู้เชี่ยวชาญจะต้องใช้เวลาประมาณ 33,900 ล้านปีในการผลิตทองคำได้หนึ่งออนซ์ในอัตราที่พวกเขาสามารถทำได้
ในความเป็นจริง แม้จะมีทองคำจำนวนมหาศาลในจักรวาลหรือบนโลก แต่เราไม่สามารถเข้าถึงมันได้ และหากไม่สามารถเข้าถึงได้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับไม่มีอยู่จริง อย่าหลงกลกับเรื่องราวเหล่านี้ เพราะทองคำยังคงเป็นของหายากและมีค่า
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/08/29/is-there-really-a-12-trillion-gold-deposit-in-uganda-004303