.

ปราโบโวยกเลิกการเดินทางเยือนจีนเพื่อรับมือกับการประท้วงที่ลุกลามทั่วอินโดเนเซีย
1-9-2025
ประธานาธิบดีปราโบโวตัดสินใจยกเลิกการเดินทางเยือนประเทศจีนในวันเสาร์ หลังจากการประท้วงที่ยืดเยื้อหลายวันเริ่มลุกลามออกไปนอกจาการ์ตา โดยมีอาคารรัฐสภาระดับภูมิภาคหลายแห่งถูกจุดไฟเผา
ปราโบโวมีกำหนดจะเข้าร่วมขบวนพาเหรด “วันแห่งชัยชนะ” (Victory Day) ที่ประเทศจีนในวันที่ 3 กันยายน เพื่อรำลึกถึงวาระครบรอบ 80 ปีการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สอง ภายหลังจากการยอมจำนนอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่น
“ท่านประธานาธิบดีต้องการติดตามสถานการณ์ (ในอินโดนีเซีย) อย่างใกล้ชิด และหาทางออกที่ดีที่สุด” โฆษกประธานาธิบดี ปราสเตโย ฮาดี กล่าวในแถลงการณ์วิดีโอเมื่อวันเสาร์
“ด้วยเหตุนี้ ท่านประธานาธิบดีจึงขออภัยต่อรัฐบาลจีนที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานตามคำเชิญได้”
ความรุนแรงปะทุทั่วอินโดนีเซีย ท้าทายตำแหน่งประธานาธิบดีของปราโบโว
เหตุปะทะอย่างรุนแรงได้ปะทุขึ้นทั่วประเทศอินโดนีเซีย กลายเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งได้ 10 เดือน โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่
อินโดนีเซียต้องเผชิญกับความไม่พอใจที่สั่งสมมาหลายสัปดาห์จากปัญหาเศรษฐกิจ เช่น สิทธิประโยชน์ทางการเงินของสมาชิกรัฐสภา แต่การเสียชีวิตของคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างรายหนึ่ง ได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงอย่างแพร่หลายในวันศุกร์
นี่คือ 5 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับความไม่สงบในอินโดนีเซีย:
1. ความไม่พอใจที่ฝังรากลึก
ความไม่พอใจที่ฝังลึกได้ปะทุขึ้นตามท้องถนนในกรุงจาการ์ตา เมื่อผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวกันที่ด้านหน้ารัฐสภาเมื่อวันจันทร์ แสดงความโกรธเคืองต่อสิทธิประโยชน์หรูหราที่สมาชิกรัฐสภาได้รับ ซึ่งรวมถึงเบี้ยเลี้ยงที่พักอาศัยที่สูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำในกรุงจาการ์ตาถึงเกือบ 10 เท่า
มีการชุมนุมประท้วงรอบใหม่เกิดขึ้นอีกครั้งในวันพฤหัสบดี โดยมีผู้ประท้วงหลายร้อยคนออกมาเคลื่อนไหวต่อเนื่องจนถึงกลางคืน เพื่อต่อต้านปัญหาเรื่องค่าจ้างต่ำ ตำรวจได้เข้าควบคุมสถานการณ์โดยใช้แก๊สน้ำตาและรถฉีดน้ำแรงดันสูงในการสลายฝูงชน
ระหว่างการประท้วงดังกล่าว รถตู้ยุทธวิธีสีดำของหน่วยกองกำลังปราบจลาจลพิเศษ (Brimob) ได้พุ่งชนและทับนายอัฟฟาน เคอร์เนียวาน คนขับรถวัย 21 ปีเสียชีวิต เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกเป็นคลิปวิดีโอและเผยแพร่อย่างกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์ จุดกระแสความโกรธเคืองต่อยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ลุกลามมากยิ่งขึ้น
การประท้วงยกระดับมากขึ้นหลังการเสียชีวิตของอัฟฟาน โดยมีการชุมนุมเกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ ผู้ประท้วงนับพันคน ส่วนใหญ่เป็นคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือ “โอเจ็ก” เช่นเดียวกับอัฟฟาน ได้รวมตัวกันประท้วงหน้าสำนักงานใหญ่ของหน่วย Brimob และสำนักงานตำรวจในกรุงจาการ์ตา
กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างประทัด ระเบิดเพลิง และก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ขณะที่บางกลุ่มจุดไฟเผาทรัพย์สิน
การประท้วงยังลุกลามไปยังเมืองอื่น ๆ เช่น ยอกยาการ์ตา บันดุง โซโล และเซมารัง รวมถึงที่เมืองเมดานในสุมาตราเหนือ
มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บอีก 4 รายที่เมืองมากัสซาร์ จังหวัดสุลาเวสีใต้ หลังจากผู้ประท้วงจุดไฟเผาอาคารสภาท้องถิ่น
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีผู้ประท้วงหลายพันคนออกมาต่อต้านการตัดงบประมาณของรัฐบาลปราโบโวอย่างกว้างขวาง โดยเขาระบุว่า การตัดงบครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนนโยบายประชานิยม เช่น โครงการแจกอาหารฟรีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับเด็กนักเรียนและหญิงตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ประชาชนจำนวนมากเริ่มรู้สึกผิดหวังกับสถานการณ์เศรษฐกิจของตนเอง
“ยังมีปัญหาเรื่องระบบภาษีที่ไม่เป็นธรรม อำนาจซื้อของประชาชนที่ลดลง และโอกาสการจ้างงานที่มีอยู่อย่างจำกัด” ภีมะ ยูธิสติรา อดิเนการา ผู้อำนวยการบริหารศูนย์ศึกษากฎหมายและเศรษฐกิจ (CELIOS) ให้สัมภาษณ์กับ AFP
กระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า มีผู้ถูกเลิกจ้างมากกว่า 42,000 คนในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายน เพิ่มขึ้น 32% จากปีที่แล้ว
แรงงานแพลตฟอร์ม เช่น คนขับรับส่งอย่างอัฟฟาน ก็ต้องเผชิญกับการหักค่าจ้างที่สูงขึ้นและชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานขึ้นเช่นกัน
ภีมะกล่าวว่า ความไม่พอใจของประชาชนปะทุขึ้นเพราะเห็นว่าสมาชิกรัฐสภาขาดความเห็นอกเห็นใจ
“ปัญหาทั้งหมดมันสะสมเหมือนฟางแห้ง และรัฐสภาเป็นฝ่ายจุดไฟเผาเอง” เขากล่าว “นี่เป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น”
บททดสอบของปราโบโว
การประท้วงครั้งนี้นับเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดของปราโบโว นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และผู้เชี่ยวชาญมองว่า อดีตนายพลรายนี้จะต้องดำเนินการเพื่อยับยั้งความโกรธของประชาชน
“ถ้าผมเป็นประธานาธิบดี ผมจะปลดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกจากตำแหน่ง” มาเด สุปรียัตมา นักวิจัยรับเชิญจากสถาบัน ISEAS–Yusof Ishak ประเทศสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์กับ AFP
“ประชาชนต้องการสัญลักษณ์บางอย่างจากเขา”
ประธานาธิบดีปราโบโวและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้คำมั่นว่าจะสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของอัฟฟาน ขณะเดียวกัน ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่หน่วย Brimob 7 นาย ฐานละเมิดจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่
มาเดยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปราโบโวควรทบทวนโครงการหลักของรัฐบาล เช่น โครงการอาหารฟรี และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติแห่งใหม่ที่ชื่อ “ดานันตรา” ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
“เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางของรัฐบาล และควรประเมินคณะรัฐมนตรีของตนใหม่ด้วย” มาเดกล่าว
การประท้วงยังไม่จบ
คาดว่าจะมีการประท้วงมากขึ้น เนื่องจากความไม่พอใจของสาธารณชนยังคุกรุ่น
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นักศึกษาหลายร้อยคนได้ชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาคตะวันออกของชวาที่เมืองสุราบายา ขณะเดียวกัน คนขับโอเจ็กบางรายได้โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า จะกลับมาชุมนุมตามท้องถนนในเร็ว ๆ นี้ เพื่อประท้วงสมาชิกรัฐสภา
มีการเรียกร้องผ่านโลกออนไลน์ให้มีการชุมนุมใหญ่หน้ารัฐสภาในสัปดาห์หน้า เพื่อเรียกร้องให้มีการยุบสภา
“ผมเชื่อว่าการประท้วงเหล่านี้จะดำเนินต่อไปอีกหลายวันอย่างแน่นอน” มาเดกล่าว
ที่มา The Jakarta Post