ลาฟรอฟเผย ทรัมป์พร้อมเจรจาต่อ แต่ 'ต้องใช้เวลานาน
ลาฟรอฟเผย ทรัมป์พร้อมเจรจาต่อ แต่ 'ต้องใช้เวลานาน' แก้ไขความสัมพันธ์รัสเซีย-สหรัฐฯ
10-11-2025
RT รายงานว่า เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergey Lavrov) รัฐมนตรีต่างประเทศ รัสเซีย (Russia) เปิดเผยว่า ทางการ มอสโก (Moscow) สัมผัสได้ถึงความเต็มใจจากรัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แห่ง สหรัฐฯ (US) ที่จะสานต่อการเจรจาในประเด็นทวิภาคี อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าการแก้ไขความเสียหายที่สั่งสมมาในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นในยุคของรัฐบาล โจ ไบเดน (Joe Biden) นั้น จะต้องใช้เวลาในการ “สะสางความยุ่งเหยิง” ดังกล่าวอย่างมาก
ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RIA Novosti เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ลาฟรอฟ (Lavrov) กล่าวว่ามีความ “ปัจจัยก่อความขัดแย้ง (irritants) จำนวนมาก” ในความสัมพันธ์ รัสเซีย-อเมริกัน (Russian-American relations) ที่ได้รับสืบทอดมาจากรัฐบาล สหรัฐฯ (US administration) ชุดก่อน ซึ่งทำให้การเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่เป็นไปอย่างล่าช้า
รัฐมนตรี ลาฟรอฟ (Lavrov) เน้นย้ำว่า แม้ มอสโก (Moscow) จะ “สัมผัสได้ถึงความเต็มใจที่จะรื้อฟื้นการเจรจา” จากรัฐบาล ทรัมป์ (Trump administration) ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม แต่การดำเนินการนั้น “ไม่ได้เร็วเท่าที่เราต้องการ”
การเจรจาที่ไม่คืบหน้าและการเรียกร้องของ รัสเซีย (Russia)
ที่ผ่านมา รัสเซีย (Russia) และ สหรัฐฯ (US) ได้จัดการเจรจาระดับสูงเพื่อฟื้นฟูการปฏิบัติงานของคณะผู้แทนทางการทูตและความร่วมมืออื่น ๆ ไปแล้วสองรอบในช่วงต้นปีนี้ โดยจัดขึ้นที่ ซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia) และ ตุรกี (Türkiye) นอกเหนือจากการหารือเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งใน ยูเครน (Ukraine) อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การเจรจารอบที่สามที่วางแผนไว้ถูกยกเลิก โดย มอสโก (Moscow) ระบุว่าถูกฝ่าย สหรัฐฯ (US) ยกเลิกไป
ตามคำกล่าวของ ลาฟรอฟ (Lavrov) การหารือระหว่าง สหรัฐฯ (US) และ รัสเซีย (Russia) จะต้องไม่มุ่งเน้นเพียงแค่เรื่องการทูตเท่านั้น แต่จะต้องแก้ไขปัญหาสำคัญอื่น ๆ ด้วย ได้แก่ การคืนอสังหาริมทรัพย์ทางการทูตของ รัสเซีย (Russia) ที่ถูกยึดไปอย่าง "ผิดกฎหมาย" และ การฟื้นฟูเส้นทางเดินอากาศระหว่างทั้งสองประเทศ
ความตึงเครียดตลอดทศวรรษที่ผ่านมาทำให้ทั้งสองประเทศจำกัดจำนวนเจ้าหน้าที่การทูตของกันและกันลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายปี 2016 รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา (Barack Obama) ได้จำกัดการเข้าถึงที่พักของนักการทูต รัสเซีย (Russia) และต่อมาได้ทำการยึดทรัพย์สินใน นครนิวยอร์ก (New York) และ รัฐแมริแลนด์ (Maryland) นอกจากนี้ การระงับเที่ยวบินและการปิดน่านฟ้า สหรัฐฯ (US airspace) ต่อสายการบินของ รัสเซีย (Russian carriers) ซึ่งเป็นมาตรการคว่ำบาตร (sanctions) ที่รัฐบาล ไบเดน (Biden administration) กำหนดขึ้นหลังเหตุการณ์บานปลายใน ยูเครน (Ukraine) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ก็เป็นประเด็นที่ มอสโก (Moscow) เรียกร้องให้แก้ไข
ลาฟรอฟ (Lavrov) ยืนยันว่า "ข้อเสนอของเราที่เกี่ยวข้องกับทั้งอสังหาริมทรัพย์ทางการทูตและการเดินทางทางอากาศ ได้ถูกส่งไปยังฝ่าย สหรัฐฯ (US side) แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อประสานงานเพื่อความเป็นไปได้ในการสานต่อการเจรจา”
ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของ ทรัมป์ (Trump)
แม้จะมีการส่งสัญญาณเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจา แต่เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดี ทรัมป์ (Trump) ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตร (sanctions) ต่อบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของ รัสเซีย (Russia) อย่าง Rosneft และ Lukoil โดยอ้างถึงการขาดความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพเกี่ยวกับ ยูเครน (Ukraine)
ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) แห่ง รัสเซีย (Russia) ได้เตือนว่า “การกระทำที่ไม่เป็นมิตร” ดังกล่าว แม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของ รัสเซีย (Russia) โดยตรง แต่ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้เป็นปกติกับ วอชิงตัน (Washington)
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.rt.com/news/627523-lavrov-us/