ทรัมป์จัดงานเลี้ยงกับผู้บริหารการเงินวอลล์สตรีท
ทรัมป์จัดงานเลี้ยงส่วนตัวกับผู้บริหารการเงินวอลล์สตรีท หวังดึงดูดการลงทุนภาคการผลิตสหรัฐฯ
13-11-2025
สำนักข่าว CBS รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำส่วนตัวในวันพุธนี้กับผู้บริหารระดับสูงจากวอลล์สตรีท เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับภาคธุรกิจและกระตุ้นการลงทุนใหม่ในอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ
รายชื่อแขกรับเชิญประกอบด้วย เจมี ไดมอน (Jamie Dimon) ซีอีโอของ JPMorgan Chase, อดีนา ฟรีดแมน (Adena Friedman) จาก Nasdaq, สตีเฟน ชวาร์ซแมน (Stephen Schwarzman) แห่ง Blackstone, เท็ด พิก (Ted Pick) จาก Morgan Stanley, แลร์รี ฟิงค์ (Larry Fink) แห่ง BlackRock และเดวิด โซโลมอน (David Solomon) จาก Goldman Sachs งานเลี้ยงครั้งนี้จัดขึ้นต่อเนื่องจากการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งมีผู้นำภาคเทคโนโลยีเข้าร่วม ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของทรัมป์ในการรวมภาคธุรกิจให้สนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจของตน
CBS รายงานเพิ่มเติมว่า ทรัมป์ชี้ถึงตลาดหุ้นที่แข็งแกร่งว่าเป็นหลักฐานแห่งความสำเร็จ โดยกล่าวกับรายการ 60 Minutes เมื่อไม่นานมานี้ว่า “เศรษฐกิจเรากำลังไปได้ดีมาก และทุกคนก็รู้ดี” ขณะที่ JPMorgan ได้ให้คำมั่นว่าจะลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในสิบปีข้างหน้า เพื่อสนับสนุน “อุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงและความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจของชาติ”
ความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์กับไดมอนมีความผันผวนมาโดยตลอด โดยในปี 2023 ทรัมป์เคยเรียกไดมอนว่าเป็น “นักโลกาภิวัตน์ที่ถูกประเมินค่าสูงเกินจริง” แต่ภายหลังก็กล่าวว่า “ผมเคารพเจมี ไดมอน มาก” ด้านไดมอนเองเคยวิจารณ์นโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ว่าอาจเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ แต่ต่อมากล่าวว่านโยบายเหล่านั้น “ได้รับการปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว”
แม้นโยบายของทรัมป์จะสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้นำภาคธุรกิจเป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นภาษีศุลกากร การเพิ่มค่าธรรมเนียมด้านตรวจคนเข้าเมือง หรือการกดดันธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ลดอัตราดอกเบี้ย แต่บรรดาผู้บริหารในวอลล์สตรีทหลายรายยังคงมองเห็น “แนวทางร่วม” ระหว่างจุดยืนเศรษฐกิจแบบส่งเสริมการเติบโตของรัฐบาลกับผลประโยชน์ของตนเอง
เจมี ไดมอน ให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ว่า “ผู้คนรู้สึกโกรธกับสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ‘รัฐ’ หรือ ‘หนองน้ำแห่งระบบราชการ’ — รัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ ประชาชนต้องการนโยบายที่เอื้อต่อการเติบโตและสนับสนุนภาคธุรกิจมากขึ้น และไม่อยากถูกเทศนาเรื่องสังคมอยู่ตลอดเวลา”
ความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับวอลล์สตรีทในสมัยนี้มีลักษณะ “ปฏิบัตินิยมและฉวยโอกาส” เขาเชิญผู้บริหารระดับสูงเข้าทำเนียบขาวเพื่อหารือนโยบายและประกาศการลงทุนใหม่ ๆ พร้อมสร้างภาพลักษณ์ของตนเองในฐานะผู้นำที่ “หนุนภาคธุรกิจ” โดยมุ่งผลักดันการเติบโตผ่านการลดกฎระเบียบ ลดภาษี และส่งเสริมการผลิตในประเทศ การเข้าถึงภาคการเงินอย่างใกล้ชิดนี้ช่วยเสริมความสัมพันธ์ของเขากับกลุ่มทุนและตอกย้ำการพึ่งพาการสนับสนุนจากภาคเอกชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือนี้ก็ยังมีความตึงเครียดอยู่ไม่น้อย บรรดานายธนาคารและนักลงทุนสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจที่มุ่งการเติบโตของทรัมป์ แต่ก็ยังกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากร ความผันผวนทางการค้า และแรงกดดันต่อธนาคารกลาง เหตุการณ์ตลาดหุ้นร่วงหลังการประกาศเก็บภาษีนำเข้า และความเห็นต่างเรื่องนโยบายการเงิน แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของวอลล์สตรีทสามารถสั่นคลอนได้อย่างรวดเร็ว
ถึงกระนั้น บุคคลในแวดวงการเงินจำนวนมากยังคงมองว่าทรัมป์เป็นพันธมิตรที่ทรงคุณค่า รัฐบาลของเขาได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อธุรกิจและตลาดทุน โดยมีบุคคลสำคัญอย่างเจมี ไดมอน และแลร์รี ฟิงค์ ที่ยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้
ที่มา https://www.zerohedge.com/markets/trump-strengthen-wall-street-ties-private-dinner-white-house-tonight