ศึกเครื่องบินล่องหนเดือด! จีน-รัสเซีย-สหรัฐฯ
ศึกเครื่องบินล่องหนเดือด! จีน-รัสเซีย-สหรัฐฯ ประชันยุทธศาสตร์แย่งรุกตลาดตะวันออกกลาง
21-11-2025
SCMP รายงานว่า จีน ท้าทายสหรัฐฯ ในตลาดอาวุธยุทธศาสตร์: J-35 ส่อแววเป็น 'ตัวเปลี่ยนเกม' สำหรับพันธมิตรที่ไม่ใช่สหรัฐฯ
– การแข่งขันเพื่อครอบครองตลาดเครื่องบินขับไล่เทคโนโลยีหลบหลีกเรดาร์ (Stealth Fighter) ในภูมิภาคตะวันออกกลางได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากการปรากฏตัวของเครื่องบินรบยุคที่ 5 (Fifth-Generation Fighter Jets) จากสามชาติผู้ผลิตหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ (US), รัสเซีย (Russia) และจีน (China) ในงาน Dubai Air Show ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในวันเปิดงาน Dubai Air Show เครื่องบินขับไล่ F-35 ของสหรัฐฯ ได้แสดงการบินผาดโผนด้วยความเร็วสูงและการหลบหลีกแรงโน้มถ่วงที่น่าทึ่ง ตามมาด้วยเครื่องบินขับไล่ Su-57 ของรัสเซีย ซึ่งมีดีไซน์แบบปีกผสม (Blended-Wing) และสามารถแสดงขีดความสามารถในการบินด้วยความเร็วเหนือเสียง (Supersonic Cruising) การปรากฏตัวพร้อมกันของเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 จากสหรัฐฯ และรัสเซีย ถือเป็นครั้งแรกในงานแสดงเดียวกัน
นอกจากนี้ เครื่องบินขับไล่ J-35 ยุคที่ 5 ของจีน ก็ถูกนำมาจัดแสดงแบบคงที่ที่บูธของ China National Aero-Technology Import & Export Corporation (Catic) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการป้องกันประเทศที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ
นักวิเคราะห์ระบุว่า การปรากฏตัวของสามประเทศเดียวที่สามารถผลิตและส่งมอบเครื่องบินขับไล่ Stealth ให้แก่กองทัพอากาศของตนเองได้ สะท้อนให้เห็นว่าการแข่งขันในตลาดตะวันออกกลางนั้นดุเดือดเพียงใด
คุณสมบัติสำคัญของเครื่องบินรบยุคที่ 5
เครื่องบินขับไล่ขั้นสูงเหล่านี้ นอกจากคุณสมบัติในการพรางตัว (Stealth) แล้ว ยังมีคุณสมบัติหลัก ได้แก่
Supercruise: ความสามารถในการบินด้วยความเร็วเหนือเสียงโดยไม่ใช้สันดาปท้าย (Afterburner)
Advanced Sensor Fusion: การรวมข้อมูลเซ็นเซอร์ขั้นสูงเพื่อเพิ่มการรับรู้สถานการณ์ (Situational Awareness)
Super Manoeuvrability: ความคล่องตัวสูงเป็นพิเศษ
Integrated Avionics: ระบบอิเล็กทรอนิกส์การบินแบบบูรณาการ
Internal Weapons Bays: ช่องเก็บอาวุธภายในเพื่อรักษาคุณสมบัติการพรางตัว
นอกจากนี้ เครื่องบินยุคที่ 5 ยังมีขีดความสามารถด้านเครือข่าย (Networking Capability) ที่ช่วยให้ปฏิบัติการได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งในภารกิจโจมตีทางอากาศและโจมตีภาคพื้นดิน เมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่นเก่า
การแบ่งขั้วตลาดตามแนวภูมิรัฐศาสตร์
การแสดงเครื่องบินดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับการประกาศแผนของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่จะขายเครื่องบิน F-35 ให้แก่ซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia) ซึ่งได้รับการยืนยันระหว่างการเยือนสหรัฐฯ ของมกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน (Mohammad bin Salman) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้วอชิงตันเคยปฏิเสธคำขอ F-35 จากซาอุดีอาระเบียและ UAE เนื่องด้วยกฎหมายที่กำหนดให้ "อิสราเอล (Israel) ต้องมีขีดความสามารถเชิงคุณภาพที่เหนือกว่า (Qualitative Edge)" เหนือคู่แข่งอาหรับ
นายทิโมธี ฮีธ (Timothy Heath) นักวิจัยอาวุโสจาก Rand Corporation กล่าวว่า การซื้อเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 เป็นเรื่องของการเมืองพอ ๆ กับเรื่องของฮาร์ดแวร์ "ประเทศที่ซื้อจากสหรัฐฯ เช่น อิสราเอล มีแนวโน้มที่จะไม่ซื้อจากจีนหรือรัสเซีย" เขากล่าว
J-35 จีน (China): คู่แข่งที่น่าจับตาที่สุด
นักวิเคราะห์ระบุว่า งาน Air Show ปีนี้แสดงให้เห็นว่าระบบของจีนมีความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่ถูกกีดกันจากการเข้าถึงอาวุธของสหรัฐฯ
นางลิเซล็อตต์ ออดการ์ด (Liselotte Odgaard) ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสจาก Hudson Institute ในวอชิงตัน (Washington) กล่าวว่า เครื่องบิน J-35 มีแนวโน้มที่จะเป็น "ทางเลือกที่น่าพึงปรารถนา" สำหรับประเทศที่ไม่สามารถซื้อ F-35 ได้ หรืออาจเผชิญกับการคัดค้านจากสหรัฐฯ
"J-35 มีความซับซ้อนมากกว่าเครื่องบินยุคที่ 5 ของรัสเซีย และขายในราคาที่แข่งขันได้ ดังนั้น เมื่อมองจากมุมมองของสหรัฐฯ ข้อเสนอของจีนจึงเป็นคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดในตลาดตะวันออกกลาง" ออดการ์ด (Odgaard) กล่าว
เธอยังตั้งข้อสังเกตว่าเทคโนโลยีและคุณภาพของฮาร์ดแวร์จีน "เท่าเทียมหรืออาจเหนือกว่า" ของรัสเซียในหลายกรณี
ข้อจำกัดของเทคโนโลยีจีน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า J-35 ยังมีข้อจำกัดบางประการ เนื่องจากจีนเป็นผู้เล่นค่อนข้างใหม่ในตลาดแพลตฟอร์มเทคโนโลยีขั้นสูง และยังไม่มีประวัติที่น่าเชื่อถือในระยะยาวเกี่ยวกับการอัปเกรด การบำรุงรักษา และการสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์ Sensor-Fusion และการรวมระบบ Network-Centric
การตัดสินใจซื้อ = สัญญาณการเมือง
ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า การขายเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 ในตะวันออกกลางจะถือเป็นการ "เปลี่ยนแปลงที่สำคัญ" ในอำนาจสูงสุดทางอากาศ และยังเป็นตัวบ่งชี้การจัดแนวทางการเมืองเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศผู้ซื้อ
"ในทางทหาร เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 เป็น Game Changer เพราะให้ความสามารถในการพรางตัว การรวมเซ็นเซอร์ขั้นสูง และการปฏิบัติการแบบเครือข่าย ซึ่งให้ข้อได้เปรียบที่อาจเป็นตัวตัดสินเหนือเครื่องบินรุ่นเก่า เช่น F-15" ออดการ์ด (Odgaard) กล่าวสรุป "ในทางภูมิรัฐศาสตร์ การเลือกเครื่องบินยังส่งสัญญาณถึงการจัดแนวเชิงยุทธศาสตร์ทางการเมืองของประเทศต่าง ๆ ด้วย"
ทั้งนี้ เครื่องบิน Su-57 ของรัสเซีย (Russia) เปิดตัวในเวทีระดับนานาชาติเมื่อปีที่แล้วในงาน Zhuhai Air Show ของจีน (China) ในขณะที่ J-35 ถูกเห็นในวิดีโออย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยแสดงการทดสอบการบินขึ้นด้วยระบบเครื่องดีด (Catapult Take-off Manoeuvres) จากเรือบรรทุกเครื่องบิน Fujian ทำให้เป็นเครื่องบินลำแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการปล่อยตัวจากเรือบรรทุกโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงนี้
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/china/military/article/3333538/china-us-russia-rivalry-middle-east-stealth-fighter-sales-show-dubai?module=top_story&pgtype=homepage