ทูตมอสโกย้ำสัมพันธ์จีน–รัสเซีย
ทูตมอสโกย้ำสัมพันธ์จีน–รัสเซีย “แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์” แม้เผชิญแรงกดดันและคว่ำบาตรตะวันตก
25-12-2025
SCMP รายงานว่า นายอิกอร์ มอร์กูลอฟ (Igor Morgulov) เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศจีน แถลงเมื่อวันอังคารว่า มาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกไม่สามารถสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและมอสโกได้ แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเจรจาที่ใกล้ชิดและยกระดับความเชื่อมั่นซึ่งกันและกันให้สูงยิ่งขึ้น
ในการกล่าวสุนทรพจน์ ณ ฟอรั่มที่มหาวิทยาลัยเหรินหมิน (Renmin University) ในกรุงปักกิ่ง นายมอร์กูลอฟได้บรรยายถึงความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นว่าเป็นการตอบโต้ต่อความพยายามที่มุ่งจำกัดการพัฒนาทางเทคโนโลยีของทั้งสองประเทศและการบิดเบือนการแข่งขันที่ยุติธรรม
เขาระบุว่า จีนและรัสเซียได้ขยายความร่วมมือภายใต้สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่ "ซับซ้อนอย่างยิ่ง" โดยทั้งสองฝ่ายได้เปิดช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ร่วมมือกันสร้างเสถียรภาพให้กับห่วงโซ่การผลิตและโลจิสติกส์ระดับโลก และจัดตั้งกลไกการชำระเงินทวิภาคีที่น่าเชื่อถือได้สำเร็จ
“ปัจจุบัน การค้าทวิภาคีเกือบทั้งหมดดำเนินการด้วยสกุลเงินท้องถิ่น” นายมอร์กูลอฟกล่าว พร้อมเสริมว่าระบบเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ “ส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยมีพื้นที่ความร่วมมือที่กว้างขวางและมีมิติที่หลากหลาย”
ที่ผ่านมา จีนต้องเผชิญกับแรงกดดันโดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศตะวันตกจากการไม่ประณามการรุกรานยูเครน (Ukraine) ของรัสเซีย นอกจากนี้ยังถูกกล่าวหาว่าจำหน่ายชิ้นส่วนโดรนและเทคโนโลยี “ที่ใช้ได้สองทาง” (Dual-use technologies) ให้แก่มอสโก ซึ่งปักกิ่งได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาซ้ำหลายครั้ง แต่ก็นำไปสู่การบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อองค์กรและบุคคลบางกลุ่มของจีน
ทูตรัสเซียยืนยันว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียได้ก้าวขึ้นสู่ “ระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์” ทั้งในแง่ของความลึกซึ้งและความไว้วางใจ โดยความสัมพันธ์นี้จะยังคงพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคงและไม่หยุดนิ่ง เขาให้เครดิตความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งมาจากการทูตในระดับประมุขแห่งรัฐระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) รวมถึงกิจกรรมรำลึกครบรอบการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง
นายมอร์กูลอฟกล่าวว่า ในฐานะพันธมิตรในยามสงคราม ปักกิ่งและมอสโกมีความเข้าใจทางประวัติศาสตร์ที่สอดคล้องกัน และคัดค้านอย่างรุนแรงต่อความพยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ การลดทอนเกียรติของผู้ชนะ หรือการยกย่องลัทธินาซี (Nazism)
ในประเด็นความมั่นคงระดับภูมิภาค นายมอร์กูลอฟระบุว่ารัสเซียได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่น (Japan) หยุดเส้นทางที่เขาเรียกว่า "การฟื้นฟูแสนยานุภาพทางทหาร" (Remilitarisation) และกลับสู่หลักการใฝ่สันติที่ประดิษฐานอยู่ในรัฐธรรมนูญ ความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ดิ่งเหวระหว่างปักกิ่งและโตเกียว (Tokyo) ซึ่งมีจุดชนวนมาจากการที่นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทากาอิชิ (Sanae Takaichi) เสนอว่าการโจมตีไต้หวัน (Taiwan) อาจถือเป็น "สถานการณ์ที่คุกคามความอยู่รอด" ของญี่ปุ่น ซึ่งมีความชอบธรรมในการส่งกองกำลังทหารเข้าจัดการ
ปักกิ่งถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนและไม่เคยประกาศสละสิทธิ์ในการใช้กำลังเพื่อรวมประเทศ ขณะที่ญี่ปุ่นและประเทศส่วนใหญ่ไม่รับรองเกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้เป็นรัฐอิสระ แต่ก็คัดค้านความพยายามใดๆ ที่จะใช้กำลังเข้ายึดครอง
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นายหวัง อี้ (Wang Yi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่าปักกิ่งและมอสโกได้บรรลุฉันทามติทางยุทธศาสตร์ใน "ระดับสูง" เกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น และตั้งเป้าว่าในปี 2026 จะเป็นปีที่สำคัญยิ่งเนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีความเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ และครบรอบ 25 ปีของสนธิสัญญาว่าด้วยความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและความร่วมมือที่เป็นมิตร พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกระชับความไว้วางใจ ขยายความร่วมมือ และร่วมกันตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ๆ เพื่อรักษาความยุติธรรมและเสถียรภาพของโลก
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3337608/china-russia-partnership-stronger-ever-despite-western-sanctions-envoy?module=top_story&pgtype=section