"ทาคาอิจิ" ย้ำญี่ปุ่นยังเปิดประตูเจรจาจีน มุ่งสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงแม้เผชิญวิกฤตปมไต้หวัน

26-12-2025

   Bloomberg รายงานว่า นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) แห่งญี่ปุ่น แถลงว่าช่องทางการสื่อสารกับประเทศจีน (China) ยังคงเปิดกว้างเสมอ และเป้าหมายของรัฐบาลโตเกียว (Tokyo) ในการสร้างความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และมั่นคงกับรัฐบาลปักกิ่ง (Beijing) ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาสองเดือนที่เธอเข้ารับตำแหน่ง

   "ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ย่อมมีประเด็นที่น่ากังวลและความท้าทายเกิดขึ้นได้ แต่นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการสื่อสารในทุกระดับ รวมถึงระดับผู้นำ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง" ทาคาอิจิ (Takaichi) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีเพื่อตอบข้อซักถามภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ "เราเปิดรับการเจรจาทุกรูปแบบกับจีน และเรายังไม่ได้ปิดประตูบานนั้น"

  การแถลงของ ทาคาอิจิ (Takaichi) มีขึ้นในขณะที่ความขัดแย้งกับจีนยังคงคุกรุ่นจากกรณีความเห็นเกี่ยวกับไต้หวัน (Taiwan) ที่เธอระบุเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนว่า ในทางทฤษฎีแล้วกองทัพญี่ปุ่นอาจถูกส่งไปปฏิบัติการหากจีนโจมตีไต้หวัน ซึ่งคำกล่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดการตอบโต้อย่างรุนแรงจากปักกิ่ง รวมถึงการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปญี่ปุ่นและการวิพากษ์วิจารณ์ทาคาอิจิอย่างสาธารณะ

  สถานีโทรทัศน์เอ็นทีวี (NTV) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อว่า รัฐบาลปักกิ่งได้สั่งการให้บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวในประเทศลดจำนวนผู้ที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นลงเหลือเพียงร้อยละ 60 ของระดับปกติ

  "แม้ในขณะนี้ เรายังคงสื่อสารกันในหลายระดับ" นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าว "ฉันจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของญี่ปุ่น รวมถึงปกป้องชีวิตและเกียรติยศของประชาชนของเรา พร้อมกับรักษาการสื่อสารนั้นไว้"

  นอกเหนือจากประเด็นต่างประเทศ สุนทรพจน์ส่งท้ายปีของ ทาคาอิจิ (Takaichi) ส่วนใหญ่ยังมุ่งเน้นไปที่ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ตั้งแต่นโยบายการคลัง ห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจปัจจุบัน โดยเธอยอมรับว่ามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ (US) ได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับผู้นำธุรกิจในอนาคตอันใกล้

  "สิ่งสำคัญคือการสร้างความชัดเจนที่คาดการณ์ได้เพื่อให้ภาคธุรกิจกล้าที่จะเพิ่มการลงทุนส่วนตัว" เธอกล่าวเสริม พร้อมระบุถึงความสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ธุรกิจสามารถขึ้นค่าจ้างได้เพียงพอที่จะเอาชนะภาวะเงินเฟ้อ แม้ว่าค่าจ้างที่เป็นตัวเงิน (Nominal wages) จะเพิ่มขึ้นในระดับประวัติศาสตร์ตลอดสองปีที่ผ่านมา แต่รายได้โดยทั่วไปยังตามไม่ทันค่าครองชีพ โดยค่าจ้างที่แท้จริง (Real wages) ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ในเดือนตุลาคม

  นอกจากนี้ ทาคาอิจิ (Takaichi) ยังแสดงความหวังที่จะได้พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แห่งสหรัฐฯ โดยเร็วที่สุด ซึ่งสื่อท้องถิ่นรายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการไปเยือนสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมปีหน้า หลังจากที่รัฐบาลทรัมป์มีท่าทีนิ่งเฉยต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นและจีน

  "อาจจะเป็นช่วงต้นปีหน้า? นั่นคือสิ่งที่ฉันคาดการณ์ไว้ แต่แน่นอนว่าต้องขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการเปิดสมัยประชุมสภาด้วย" ทาคาอิจิ (Takaichi) ระบุทิ้งท้าย พร้อมยืนยันว่าสหรัฐฯ ได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นในพันธมิตรความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นในหลายโอกาส

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-12-25/japan-s-takaichi-says-door-remains-open-for-china-communications