ฟิลิปปินส์-เกาหลีใต้ร่วมมือทางทหาร  ยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

ขอบคุณภาพจาก Sputnik

09.10.2024

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซุก ยอล และประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ตกลงจะส่งเสริมความร่วมมือทางทหาร โดยยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ท่ามกลางความท้าทายด้านความมั่นคงที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาค

ผู้นำทั้งสองได้หารือกันในประเด็นต่างๆ  รวมถึงความตึงเครียดในทะเลจีนใต้และบนคาบสมุทรเกาหลี ในระหว่างการเจรจาที่ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ซึ่งทั้งสองยังได้ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเจ้าหน้าที่ยามฝั่งและพลังงานนิวเคลียร์ด้วย

ยุน ซุก ยอล เป็นผู้นำเกาหลีใต้คนแรกในรอบกว่าสิบปี ที่เยือนฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ เขาระบุว่า  เกาหลีใต้จะมีส่วนร่วมกับฟิลิปปินส์ในการปรับปรุงความมั่นคงทางทหารให้ทันสมัย ในเฟสล่าสุด ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความตึงเครียดกับจีนในทะเลจีนใต้เพิ่มมากขึ้น

เกาหลีใต้พยายามเพิ่มการส่งออกทางทหารไปทั่วโลก รัสเซียบุกยูเครน กลายเป็นช่องทางทำให้เกาหลีใต้ต้องลงนามสัญญาขนานใหญ่ จากยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย

เกาหลีใต้ขายเครื่องบินขับไล่ FA-50 เรือคอร์เวต และเรือฟริเกตให้กับฟิลิปปินส์ และตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2027

ในเฟสที่สามของแผนการปรับกองทัพให้ทันสมัย  กองทัพฟิลิปปินส์จึงมองหาอาวุธล้ำสมัย เช่น เครื่องบินขับไล่ เรือดำน้ำ และระบบขีปนาวุธ เพื่อเสริมสร้างการป้องกันดินแดนและความมั่นคงทางทะเล

ผู้นำฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้ตกลงที่จะยึดตามระเบียบสากล ซึ่งรวมถึงเรื่องความปลอดภัยในการเดินเรือในทะเลจีนใต้  ทั้งสองตกลงกันว่าประชาคมโลกจะไม่ยอมให้โครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ หรือสิ่งที่เขาเรียกว่า "การยั่วยุที่บ้าบิ่น" เกิดขึ้น

ยุน ซุก ยอล ได้รับเลือกเป็นผู้นำเกาหลีใต้ในปี 2022 ด้วยคำมั่นที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้ โดยตั้งเป้าส่งออกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีก 10 แห่งภายในปี 2030 และได้ประกาศลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) สำหรับการศึกษาความเป็นไปได้ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บาตาอันของฟิลิปปินส์ (BNPP) ที่หยุดนิ่งมานาน

โรงไฟฟ้าแห่งนี้ ไม่ได้ผลิตไฟฟ้าเลยตั้งแต่สร้างเสร็จในปี 1984 แม้ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 2.3 พันล้านดอลลาร์ และตั้งเป้าจะรักษาความมั่นคงด้านพลังงานในช่วงที่เกิดวิกฤติน้ำมันช่วงทศวรรษที่ 1970

ฟิลิปปินส์ต้องการใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นแหล่งพลังงานพื้นฐานทางเลือกที่เป็นไปได้ เนื่องจากฟิลิปปินส์ต้องการปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อช่วยบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ

By IMCT NEWS

อ้างอิงจาก: https://www.yahoo.com/news/philippines-south-korea-upgrade-ties-040918143.html