ขอบคุณภาพจาก RT
3/11/2024
ธนาคารกลางอินเดีย ก็เหมือนกับครัวเรือนชาวอินเดียทั่วไป ที่อยากจะได้ทองคำจริงๆ มาเก็บไว้กับตัว ชาวอินเดียทั่วไปจะยึดเอาวันแรกของเทศกาลติวาลี ถือเป็นฤกษ์ดีในการไปซื้อทอง ด้านธนาคารกลางอินเดียก็ถือโอกาสนี้เอาทองกลับประเทศเช่นกัน เป็นการขนทองคำ 102 ตัน ที่ฝากไว้กับห้องนิรภัยของธนาคารกลางอังกฤษ ในกรุงลอนดอน เอากลับมาเก็บไว้อย่างปลอดภัยที่อินเดีย
รายงานทุนสำรองระหว่างประเทศล่าสุดของธนาคารกลางอินเดีย พบว่า ธนาคารกลางอินเดียครอบครองทองคำ 855 ตัน เมื่อช่วงสิ้นเดือนกันยายน กว่าครึ่งในนี้ คือ 510.5 ตัน เก็บไว้ในประเทศ การที่ธนาคารกลางอินเดียเอาทองคำที่เก็บไว้ในอังกฤษ กลับประเทศครั้งนี้ ถือเป็นความพยายามที่ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย ในการปกป้องสินทรัพย์สำรอง ซึ่งก็คือ ทองคำ ของตัวเอง จากความเสี่ยง ถ้าหากจะเก็บไว้ในอังกฤษต่อไป
นับจากเดือนกันยายน ปี 2022 ธนาคารกลางอินเดียเริ่มขนทองออกจากอังกฤษอย่างเงียบๆ 214 ตัน เพราะต้องการเก็บเองไว้เป็นหลักประกันความปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่หลายคนในรัฐบาลอินเดีย เชื่อว่า การเก็บทองไว้ในประเทศ จะปลอดภัยกว่า ในช่วงที่โลกเกิดความผันผวน
แต่ภารกิจขนทองออกจากอังกฤษในครั้งนี้ เป็นภารกิจลับที่ได้รับการวางแผนอย่างรอบคอบ โดยใช้เที่ยวบินพิเศษและได้รับการคุ้มกันภัยอย่างแน่นหนาในการขนทอง เจ้าหน้าที่รัฐและธนาคารกลางอินเดีย ทำงานร่วมกัน เพื่อรับประกันได้ว่า ข้อมูลการขนทองกลับประเทศจะไม่แพร่งพรายสู่ภายนอก
การขนทองกลับประเทศในครั้งนี้ ยังต้องละเว้นจากการถูกเก็บภาษีอีกด้วย เพื่อให้กระบวนการขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด แม้รัฐบาลอินเดียยังเปิดกว้างที่จะขนทองคำกลับมาอีกในอนาคต แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ในปีนี้ คงไม่น่าจะมีการขนทองคำล็อตใหญ่กลับประเทศเพิ่มเติมแล้ว จากรายงานของ เดอะ ไทมส์ ออฟ อินเดีย
ธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางอินเดีย มองทองคำเป็นสินทรัพย์หลักในการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทุนสำรองของประเทศ ทองคำเป็นตัวปกป้องความผันผวนของสกุลเงินและเหตุไม่คาดฝันทางเศรษฐกิจ ทองคำยังเป็นตัวเก็บมูลค่าความมั่งคั่งได้อย่างดี หรือต้านทานเงินเฟ้อได้ ต่างจากเงินกระดาษ
ธนาคารกลางอินเดียยังสามารถใช้ทองคำที่มีอยู่ บริหารจัดการราคาทองคำในประเทศได้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้นที่จะลงทุนกองทุน ETFs ที่มีทองคำหนุนหลังในอินเดีย การสำรองทองคำของธนาคารกลางอินเดีย ยังเป็นไปเพื่อรักษาปริมาณทองคำภายในประเทศ เพื่อให้ตลาดทองคำแท่งแข็งแกร่งขึ้นและยืดหยุ่นได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทั้งเศรษฐกิจและนักลงทุนรายย่อย
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 อินเดียถูกบีบให้เอาทองคำเป็นหลักประกัน แลกกับเงินกู้ 405 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 13,000 ล้านบาท จากธนาคารกลางอังกฤษ เพื่อแก้วิกฤติการชำระเงินให้เกิดความสมดุล แม้อินเดียจะรีบจ่ายหนี้ก้อนนี้อย่างรวดเร็ว แต่ทองคำเหล่านี้ก็ยังถูกเก็บไว้ในอังกฤษ เพื่อความสะดวก
ปัจจุบัน อินเดียยังคงมีทองคำ 324 ตัน เก็บไว้ในห้องนิรภัยของธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือ BIS ซึ่งทั้งสองแห่งอยู่ในอังกฤษ
ธนาคารกลางอังกฤษถือเป็นผู้รับฝากดูแลทรัพย์สินประเภททองคำ ใหญ่สุดในโลก รองจากธนาคารกลางแห่งนิวยอร์ก โดยรับฝากทุนสำรองทองคำให้กับธนาคารกลางต่างๆ มากมาย รวมถึงธนาคารกลางอินเดีย ย้อนกลับไปตั้งแต่ห้องนิรภัยของธนาคารเริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1697 จากนั้น ห้องนิรภัยแห่งนี้ ยังใช้เป็นที่รับฝากทองคำ ในช่วงที่เกิดกระแสตื่นทองในเหมืองหลายแห่งของบราซิล ออสเตรเลีย แคลิฟอร์เนีย และแอฟริกาใต้
ปัจจุบัน ห้องนิรภัยของธนาคารกลางอังกฤษ ใช้เป็นที่เก็บทองคำแท่งมากเกือบ 400,000 ก้อน และเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน ที่นี่มีทองคำเก็บไว้เฉียด 5,350 ตัน หรือคิดเป็น 17 ล้านออนซ์ ข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของการเก็บทองไว้กับธนาคารกลางอังกฤษ ก็คือ การเข้าถึงตลาดทองคำแท่งลอนดอนได้ ช่วยให้ธนาคารกลางอินเดีย ใช้ตลาดทองคำในลอนดอนเป็นที่ซื้อขายทองได้ง่ายขึ้น แลกเปลี่ยน และทำธุรกรรมอื่นๆ สภาพคล่องที่ให้ได้โดยทันทีทำให้อังกฤษถูกใช้เป็นที่เก็บสินทรัพย์สำรองมาตั้งแต่ยุคอดีต
แต่เนื่องจากสถานการณ์โลกถูกประเมินใหม่ พวกตะวันตกไปอายัดสินทรัพย์ของรัสเซีย จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ก่อให้เกิดความวิตกไปทั่วโลก เกี่ยวกับสินทรัพย์ของตัวเองที่ไปฝากไว้ในต่างแดน หลายคนจึงมองว่า ธนาคารกลางอินเดียต้องเอาทองออกจากอังกฤษมาเก็บไว้เอง ก็เพราะเหตุนี้ แต่ธนาคารกลางอินเดียก็ยังมีทองบางส่วนเก็บไว้ในอังกฤษต่อไป เพื่อให้ง่ายต่อการทำการค้า การแลกเปลี่ยน หรือใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงิน หรือถ้าธนาคารกลางอินเดียจะซื้อทองจากตลาดสากล การซื้อแล้วเก็บทองไว้ในต่างแดนทันทีก็สะดวกดีเช่นกัน
By IMCT News