Tesla มูลค่าตลาดทะลุ 1 ล้านล้าน USD หลังหุ้นพุ่งจากชัยชนะ 'ทรัมป์'
ขอบคุณภาพจาก The Irish Sun
10/11/2024
CNBC รายงานความเคลื่อนไหวหุ้น Tesla ซึ่งเป็นบริษัทของอีลอน มัสก์ ที่พุ่งขึ้น 8% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 พ.ย.) ส่งผลให้มูลค่าตลาดของผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นประมาณ 29% ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนักลงทุนเริ่มมีความหวังว่า การที่ทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกครั้งอาจส่งผลดีต่อ Tesla จากการที่อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla เป็นพันธมิตรสำคัญของทรัมป์ตลอดช่วงหาเสียง โดยทุ่มเงินอย่างน้อย 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับแคมเปญหาเสียงที่สนับสนุนทรัมป์
สำหรับ Tesla มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 807.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนปิดตลาด โดยหุ้นของผู้ผลิตยานยนต์รายนี้พุ่งขึ้นประมาณ 1% ในปีนี้ ปัจจุบันหุ้นของ Tesla พุ่งขึ้นประมาณ 30% ในปีนี้ (2024) ขณะที่ Tesla กลับมาร่วมกลุ่มกับบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกครั้ง ซึ่งได้แก่ Nvidia, Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon และ Meta (แม้ว่าบริษัททั้งหมดยกเว้น Meta จะมีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ตาม) ท่ามกลางมูลค่าตลาดของ Tesla ที่ทะลุหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2021
Dan Ives นักวิเคราะห์ของ Wedbush Securities กล่าวว่ารัฐบาลของทรัมป์ที่อาจเกิดขึ้นอาจทำให้ Tesla และบริษัทอื่นๆ มีกฎระเบียบน้อยลง
“Tesla มีขนาดและขอบเขตที่ไม่มีใครเทียบได้ในอุตสาหกรรม EV และพลวัตนี้จะทำให้มัสก์และ Tesla ได้เปรียบในการแข่งขันอย่างชัดเจนในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีเงินอุดหนุน EV ประกอบกับภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นในจีน ซึ่งน่าจะผลักดันให้ผู้ผลิต EV ของจีนที่มีราคาถูกกว่า (เช่น BYD, Nio เป็นต้น) ไม่ให้เข้ามาท่วมตลาดสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า” Ives กล่าว
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยกล่าวไว้ว่า เขาอาจลดเครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลกลางมูลค่า 7,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเครดิตเหล่านี้ช่วยผลักดันยอดขายรถยนต์ Tesla ในอดีต ซึ่งในรายงานผลประกอบการล่าสุด Tesla รายงานรายได้ 25,180 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกำไรสุทธิ 2,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3
ด้านมัสก์ซึ่งเป็นซีอีโอของ Tesla กล่าวในการรายงานผลประกอบการว่า "การคาดเดาที่ดีที่สุด" ของเขาคือ "การเติบโตของรถยนต์" จะถึง 20% ถึง 30% ในปีหน้า เนื่องมาจาก "รถยนต์ต้นทุนต่ำ" และ "การถือกำเนิดของรถยนต์ไร้คนขับ"
Tesla ได้ให้คำมั่นและพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับมานานกว่าทศวรรษ ขณะที่คู่แข่งสำคัญในสหรัฐฯ อย่าง Waymo ซึ่งเป็นเจ้าของโดย Alphabet ได้ก้าวขึ้นมาและได้ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับเชิงพาณิชย์ในเมืองใหญ่หลายแห่ง
ส่วนในการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 มัสก์กล่าวว่า เขาจะใช้อิทธิพลของเขาในรัฐบาลของทรัมป์-แวนซ์เพื่อจัดตั้ง "กระบวนการอนุมัติของรัฐบาลกลางสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ" จากการที่ปัจจุบัน การอนุมัติจะเกิดขึ้นในระดับรัฐ ซึ่งมัสก์มองว่าเป็นอุปสรรคด้านกฎระเบียบที่ Tesla จะต้องเอาชนะให้ได้ ซึ่งในที่สุด Tesla ก็เสนอระบบขับขี่อัตโนมัติมากกว่าบางส่วนออกสู่ตลาด
IMCT News