.

ทรัมป์เล็งออกพันธบัตรผูกทองคำ ชำระคืนด้วยเงินดอลลาร์หรือทองแท่ง ปูทางปฏิรูป Fed -รับมือเงินเฟ้อ
21-7-2025
TipRanks รายงานว่า ทีมเศรษฐกิจทรัมป์ดันแผนพันธบัตรผูกทอง ปูทางปฏิรูประบบการเงินสหรัฐฯ ชูทางเลือกใหม่ให้นักลงทุน ชำระคืนด้วยเงินดอลลาร์หรือทองแท่ง
ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เสนอแผน “พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ผูกทองคำ” (Gold-backed U.S. Treasury Bonds) เพื่อใช้เป็นอาวุธทางเศรษฐกิจแบบใหม่ โดยให้นักลงทุนมีสิทธิเลือกว่าจะรับการชำระคืนเมื่อครบกำหนดเป็นสกุลเงินดอลลาร์ หรือในรูปของทองคำปริมาณที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
ตามแนวคิดของทีมทรัมป์ แผนพันธบัตรทองคำนี้จะทำหน้าที่เสมือน "กระจกสะท้อน" มูลค่าจริงของดอลลาร์ และช่วยเปิดเผยอิทธิพลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ที่มีต่อเศรษฐกิจมหภาค โดยมีแรงสนับสนุนจากเนื้อหาในหนังสือของนักเศรษฐศาสตร์ จูดี้ เชลตัน (Judy Shelton) เรื่อง Good as Gold ซึ่งกล่าวถึงการฟื้นหลักการ “เงินมาตรฐานมั่นคง” (sound money) ในอเมริกา
### แนวทางพันธบัตร: ให้ตลาดเลือกทองหรือดอลลาร์
ตามแผน พันธบัตรดังกล่าวอาจถูกออกในรูปแบบ “พันธบัตรไร้ดอกเบี้ย” หรือ Zero-Coupon Bonds มีอายุ 5 ปี และเมื่อครบกำหนด นักลงทุนจะสามารถเลือกการชำระคืนเป็นเงินสด หรือทองคำตามอัตราที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น หากลงทุน 1 ล้านดอลลาร์ อาจได้รับทองคำคืน 280 ออนซ์ หากค่าเงินดอลลาร์คงที่ นักลงทุนก็อาจเลือกเงินสด แต่หากดอลลาร์อ่อนค่า ทองคำจะเป็นทางเลือกที่น่าดึงดูดกว่า
ทีมผู้เสนอระบุว่า ทางเลือกดังกล่าวจะเป็น “สัญญาณรายวัน” ต่อทั้งรัฐบาลวอชิงตันและตลาดวอลล์สตรีท เกี่ยวกับความเชื่อมั่นต่อค่าเงินดอลลาร์
### เปิดบทบาทเฟดต่อดอลลาร์
แผนการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนข้อกังวลต่ออิทธิพลของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ควบคุมเศรษฐกิจผ่านการกำหนดอัตราดอกเบี้ย โดยผู้สนับสนุนแนวคิดดังกล่าวเห็นว่า เฟดควรเน้นที่การรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน มากกว่าการบริหารการเติบโตทางเศรษฐกิจ
พวกเขายังอ้างว่า อัตราดอกเบี้ยในระบบปัจจุบันไม่สะท้อนสภาพตลาดที่แท้จริง เช่น ตั๋วเงินคลังระยะสั้น 3 เดือนให้ผลตอบแทน 4.3% แต่ในตลาดเสรีผลตอบแทนอาจต่ำกว่านั้นครึ่งหนึ่ง พันธบัตรผูกทองคำจะช่วยเปิดเผยว่าการดำเนินนโยบายของเฟดบิดเบือนต้นทุนการเงินและภาพรวมเศรษฐกิจอย่างไร
### สร้างแรงกดดันสาธารณะผ่านราคาทอง
ราคาพันธบัตรทองคำจะทำหน้าที่เสมือน “เทอร์โมมิเตอร์” ความเชื่อมั่น หากนักลงทุนจำนวนมากเลือกทองแทนดอลลาร์ แสดงถึงความวิตกต่อค่าเงิน และจะกดดันให้ฝั่งผู้กำหนดนโยบายต้องตอบสนอง
หากดอลลาร์อ่อนค่า รัฐบาลจะต้องจ่ายคืนในรูปของทองคำ ซึ่งกระทบโดยตรง เนื่องจากรัฐบาลกลางถือครองทองคำอยู่ประมาณ 261 ล้านออนซ์
พันธบัตรทองคำจะเปิดทางให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศสามารถติดตามมูลค่าที่แท้จริงของดอลลาร์ในเวลาจริง
### จุดเริ่มต้นของการปฏิรูประบบการเงิน
สำหรับกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ พันธบัตรนี้จะเป็นมากกว่าการทดลองทางการเงิน แต่เป็น “หมากเปิดเกม” ในการปฏิรูปโครงสร้างนโยบายการเงินของสหรัฐฯ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดอำนาจเฟด และคืนบทบาทให้กลไกตลาดในการกำหนดมูลค่าของเงินจริงแทนการบริหารจัดการจากส่วนกลาง
แผนพันธบัตรผูกทองคำนี้อาจกลายเป็นเครื่องมือค่อย ๆ เปลี่ยนสมดุลอำนาจจากธนาคารกลางมาไว้ในมือของสัญญาณตลาด และสามารถปูทางไปสู่การหวนคืนสู่รูปแบบของ “มาตรฐานทองคำ” ในระยะยาว
----
IMCT NEWS
ที่มา https://www.tipranks.com/news/trump-eyes-radical-gold-idea-to-expose-the-fed-and-anchor-the-dollar
--------------------------
สวิตฯ ส่งออกทองคำพุ่ง 44% สูงสุดในรอบ 5 ปี หลังสหรัฐฯ ยกเว้นภาษีนำเข้า ทองจากทั่วโลกไหลกลับลอนดอน
21-7-2025
Mining รายงานว่า การส่งออกทองคำของสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 44% จากเดือนก่อนหน้า แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยทองคำถูกส่งกลับมายังสหราชอาณาจักรจากสหรัฐอเมริกา ผ่านขั้นตอนการกลั่นในสวิตเซอร์แลนด์ ตามข้อมูลจากศุลกากรสวิสที่เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี
ข้อมูลกราฟการนำเข้าทองคำของสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนมิถุนายน 2025 ระบุว่า ตุรกีเป็นประเทศที่ส่งทองคำไปยังสวิตเซอร์แลนด์มากที่สุดจำนวน 50.2 ตัน ตามด้วยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ 13.1 ตัน และประเทศอื่น ๆ ได้แก่ อาร์เจนตินา 2.0 ตัน บราซิล 1.0 ตัน ฮ่องกง 4.2 ตัน อิตาลี 0.6 ตัน เปรู 2.3 ตัน และไทย 0.3 ตัน
สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นศูนย์กลางระดับโลกในการกลั่นและขนส่งทองคำ โดยมีอังกฤษเป็นจุดหมายสำคัญ ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางซื้อขายทองคำนอกตลาด (Over-the-Counter) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ศุลกากรสวิสระบุว่า การส่งออกทองคำไปยังสหราชอาณาจักรในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 83.8 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นจาก 16.0 เมตริกตันในเดือนพฤษภาคม ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2019
ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคมถึงมีนาคม ทองคำมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ถูกส่งไปยังสหรัฐฯ จากอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ และแหล่งอื่น ๆ เพื่อรองรับความเสี่ยงจากการที่สหรัฐฯ อาจเรียกเก็บภาษีนำเข้าโลหะมีค่าภายใต้นโยบายการค้าตอบโต้
ภาวะความเสี่ยงดังกล่าวสิ้นสุดลงในเดือนเมษายน หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกเว้นทองคำแท่งจากมาตรการภาษี ทำให้มีการเคลื่อนย้ายทองคำกลับมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ยังมีหลายจุดหมายปลายทางที่ส่งทองคำกลับเข้าสู่สหราชอาณาจักรในช่วงเวลาเดียวกัน โดยข้อมูลจาก London Bullion Market Association ระบุว่า ปริมาณทองคำในคลังลอนดอนเพิ่มขึ้น 177.8 ตัน หรือคิดเป็น 2.1% จากเดือนก่อนหน้า แตะระดับ 8,776 ตัน ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023
การที่ตุรกีส่งออกทองคำจำนวนมากไปยังสวิตเซอร์แลนด์ถึง 50.2 ตัน หรือคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนมิถุนายน สะท้อนกระแสการเคลื่อนย้ายทองคำจากฝั่งตะวันออกสู่ตะวันตกอย่างชัดเจน ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ทำหน้าที่เป็นกลไกกลางสำคัญในการกลั่นและส่งต่อทองคำเข้าสู่ตลาดสำรองในยุโรปและสหรัฐฯ
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.mining.com/web/swiss-june-gold-exports-jump-44-month-on-month-as-bullion-returns-to-uk/
https://x.com/JanGold_/status/1946553317988978906