ยุทธวิธีโดรนจีนเข้าสู่มิติใหม่ ขับเคลื่อนด้วยจรวด หลบการสกัดกั้นวินาทีสุดท้าย สหรัฐฯ เร่งปรับนโยบายต้าน 'กำลังผลิตจีน

5-8-2025

   Asia Times รายงานว่า วิศวกรด้านการบินและอวกาศของจีนได้เสนอการอัปเกรดครั้งสำคัญสำหรับโดรนของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (People’s Liberation Army - PLA) โดยได้บทเรียนจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่มีรายงานว่าประมาณ 90% ของอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicles - UAVs) ของรัสเซียถูกทำลายโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัย

  วงการป้องกันประเทศจีนประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้านระบบอาวุธไร้คนขับ ล่าสุดวิศวกรการบินและอวกาศระดับแนวหน้าจาก Northwestern Polytechnical University เสนอเทคโนโลยี “terminal evasion” สำหรับโดรนขนาดเล็กและกลาง* *เสริมจรวดขนาดจิ๋วเข้าด้านข้าง เพื่อให้โดรนสามารถเปลี่ยนทิศแบบฉับพลันในเสี้ยววินาทีก่อนถูกสกัด โดยอาศัยอัลกอริทึมควบคุมเชิงปัญญาประดิษฐ์ที่ทำลายการล็อกเป้าโจมตีของขีปนาวุธและระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัย**

  งานวิจัยดังกล่าว ซึ่งลงตีพิมพ์ในวารสาร Acta Armamentarii เดือนกรกฎาคม 2025 ระบุว่า หลังจากทดลองระบบในสภาพแวดล้อมดิจิทัล พบอัตรารอดสูงถึง 87% จากการจำลองสนามรบจริงในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งโดรนรัสเซียถูกทำลายถึง 90% ด้วยระบบต่อต้านอากาศยาน ตัวระบบ “terminal evasion” ใช้จรวดขนาดเล็กสร้างแรงจีข้างตัวสูงเกิน 16 เท่า (16Gs) จึงสามารถเปลี่ยนทิศได้ในกรอบเวลา 1-2 วินาทีสุดท้าย ก่อนกระสุนดักยิงจะถึงตัว เปลี่ยนโดรนเดิมที่เป็น ‘ของใช้แล้วทิ้ง’ ให้กลายเป็นอาวุธโจมตีที่ยากควบคุมและมีโอกาสทำลายเป้าหมายได้สูงกว่าเดิม

   อย่างไรก็ตาม แม้นวัตกรรมนี้จะชี้ศักยภาพสูงในภาคทฤษฎี แต่ยังมีข้อท้าทายในการนำไปใช้จริง โดยเฉพาะเรื่องการซิงโครไนซ์ระบบขับดันกับวงจรควบคุม, ผลกระทบต่อ payload น้ำหนักบรรทุก และความเสถียรด้านอากาศพลศาสตร์ หากต้องใช้งานในสนามรบจริง โดรนจะต้องมีระบบตรวจจับ-ตัดสินใจอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ พร้อมเครือข่าย surveillance สำหรับควบคุมการยิง

  นักวิเคราะห์ชี้ว่านี่คือกรณีศึกษาเทคโนโลยี “ห่วงโซ่ศึกโดรน” อันชาญฉลาด ที่อาจพลิกสถานการณ์โจมตีแบบฝูง (swarm tactics) จากอาวุธแบบ expendable สู่ platform รอดสูง วางเกมปริมาณสู้ด้วยคุณภาพการรอด ผลลัพธ์จริงในสนามอาจส่งผลต่อความสามารถจีนในการทะลวงระบบป้องกันขั้นสูงของคู่แข่งอย่างสหรัฐฯ หรือพันธมิตรนาโต

  แต่ในขณะเดียวกัน งานศึกษาจากสถาบัน China Aeronautical Studies Institute (CASI) กลับชี้ว่าโปรแกรมฝูงโดรน PLA ยังมีข้อจำกัดเชิงโครงสร้างจำนวนมากทั้งการอาศัย capacity โรงงานพลเรือน (DJI), ความเปราะบางต่อสงครามอิเล็กทรอนิกส์, การขาดโครงสร้างบริหาร supply chain จริงจัง และปัญหาด้านมาตรฐานความทนรบเทียบเท่าเกรดทหาร

  ในเวทีโลก สหรัฐฯ เดินหมาก “Replicator Initiative” ออกคำสั่งผลิตโดรนราคาประหยัดอย่างเร่งด่วน ผลักดันกองทัพให้มีอำนาจจัดซื้อจัดจ้างเอง พร้อมฝึกซ้อมรับมือ drone war เต็มรูปแบบ พลิกแนวคิดจากคุณภาพ (Predator, Reaper) สู่คุณปริมาณและความทนรบในภาวะจริง แม้ยังเสียเปรียบจีนในเชิง scale ของกำลังการผลิตและต้นทุน

   จุดเปราะอีกจุดของสหรัฐฯ คือสถาปัตยกรรมอุตสาหกรรมแม้แข็งแกร่งในวัสดุและเซนเซอร์รถยนต์ แต่ยังไม่พร้อมสำหรับ mobilization ระดับสงครามเต็มรูปแบบอย่างที่จีนสามารถ retool ได้ในเวลาอันสั้น

  บรรยากาศการแข่งขันโดรนโลกขณะนี้จึงก้าวสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านจาก “ยุคของเล่น” สู่ “ยุคขีดความสามารถรอดสูง+ผลิตได้จำนวนมาก” โดยแต่ละฝ่ายลงทุนมหาศาลไปกับระบบ AI อัลกอริทึม และอุตสาหกรรมสเกลใหญ่ ไม่ใช่เพียงแข่งนวัตกรรมด้านเดียวผู้ชนะไม่ใช่แค่ใครผลิตเทคโนโลยีได้ก่อน แต่คือใครสร้าง ecosystem ที่ผลิต แจกจ่าย และเติมรบฝูงโดรนอย่างยั่งยืนและทันเกมสงครามจริง

---

IMCT NEWS

ที่มา https://asiatimes.com/2025/08/chinas-drone-swarms-just-got-smarter-faster-and-harder-to-kill/