.

เกิดอะไรขึ้น หลังการสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาที่ปราสาทตาควาย
11-8-2025
วันที่ 10 ส.ค. เพจ “กองทัพบก ทันกระแส” อธิบาย กรณีปราสาทตาควาย ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังการสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา โดยระบุว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ติดกับชายแดนกัมพูชา เป็นพื้นที่ปะทะอีกพื้นที่หนึ่งที่เข้มข้นที่สุดโดยปราสาทตาควายนั้นตั้งอยู่บริเวณตีนเนิน 350 ซึ่งเป็นจุดสูงข่ม มีทหารกัมพูชาคอยวางกำลังอยู่บนนั้น
การที่จะยึดปราสาทตาควายให้ได้นั้นจำเป็นต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อนจึงจะสามารถควบคุมพื้นที่จุดสูงข่มได้ สร้างอำนาจการยิงจากพื้นที่สูงได้
แต่ความยากของพื้นที่นั้น นั่นคือการยิงสนับสนุนจากฝ่ายกัมพูชาซึ่งมีทั้งปืนใหญ่ BM21 คอยระดมยิงใส่ทหารไทยไม่มีหยุด อีกทั้งยังมีบังเกอร์มากมาย และกัมพูชาเองได้วางสนามทุ่นระเบิดคอยกันไม่ให้ทหารไทยแทรกซึมเข้าไปได้ จนเป็นเหตุทำให้หมวดบุ๊คบาดเจ็บสาหัส โดยในวันเกิดเหตุ สถานการณ์ตอนนั้นกัมพูชาพร้อมยิงสวนกลับทันที แต่ฝ่ายไทยสามารถร้องขอรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ M113 จากกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ เข้ามาได้ทัน พร้อมยิงคุ้มกันลำเลียงพาผู้บาดเจ็บในชุดปฏิบัติการนั้นส่งกลับสายแพทย์ได้อย่างทันเวลา
ปัจจุบัน แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เปิดเผยว่า ฝ่ายไทยได้วางกำลังห่างปราสาทเพียง 30 เมตร ยังยืนยันปราสาทตาควายยังเป็นของเราอยู่ รอการดำเนินการต่อไปเพื่อนำปราสาทกลับคืนสู่พี่น้องประเทศไทย
วันนี้(10 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังการสู้รบ ว่า ความสูญเสียของทหารฝ่ายกัมพูชาน่าจะราวๆ 3,000 คน เพราะใช้กำลังในปฏิบัติการจำนวนมาก รู้สึกเห็นใจ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะทหารกัมพูชาต้องทำตามคำสั่งผู้นำ
ส่วนการบินโดรนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งประเทศไทย พล.ท.บุญสินกล่าวว่า มีการขึ้นบินเยอะจริง ทั้งบริเวณที่ตั้งฝ่ายเรา สนามบิน คลังอาวุธ คลังระเบิด บ้านทหาร โรงพยาบาล ได้ประสาน 14 จังหวัดเพื่อหาแอนตี้โดรน หาตัวคนบินโดรน ถ้าได้ตัวแล้วขอให้ตำรวจสอบสวนไปให้สุด อย่าเพิ่งสรุปว่ามีอาการทางจิต
พล.ท.บุญสินเชื่อว่า ในการบินโดรนนั้น ฝ่ายกัมพูชาจงใจหาพิกัดโรงพยาบาลเพื่อนำไปป้อนพิกัดและเขามีอาวุธยิงถึง เรื่องนี้อย่าคิดว่าไกลตัว เชื่อว่าสงครามยุคหน้าอาจจะต้องมีห้องใต้ดิน ฐานบัญชาการต้องอยู่ใต้ดิน
เมื่อถามถึงสถานการณ์บริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ตอนสู้รบกันนั้นฝ่ายทหารกัมพูชาพยายามเข้าไปยึด โดยใช้กำลังเป็นพัน มาภายหลังเกิดการปะทะกัน ฝ่ายไทยเรารักษาปราสาทตาเมือนธม แล้วเราได้ปิดปราสาท และกำลังพิจารณาว่าจะปิดตาย หรือปิดบางช่วง ไม่ให้ขึ้น ซึ่งต้องรอกรรมการฯ พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง
ส่วนที่ปราสาทตาควายมีฐานทหารกัมพูชาอยู่ใกล้มากและวางกำลังหน้าแนว เป็นปราสาทเดียวที่ทหารไทยตรึงกำลังอยู่และยังเข้าไม่ได้ ที่ผ่านมาทหารได้ทดลองปฏิบัติไป 4 ครั้ง ยังเข้าไม่ได้ เขาเข้มแข็ง ประกอบกับมีทุ่นระเบิดวางไว้โดยรอบอย่างหนาแน่น
พล.ท.บุญสินกล่าวอีกว่า เราปฏิบัติการ 4 วัน ใน 11 ที่หมาย ตอนนี้เราอยู่ห่างจากปราสาทตาควาย 30 เมตร ฐานเขาอยู่ติดกับปราสาท ซึ่งได้เปรียบ แต่ยืนยันว่าปราสาทของเรา เราต้องเอากลับมาให้ได้
ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา น้องๆ กำลังใจดี คนที่บาดเจ็บพอหายเจ็บก็ขอกลับไปอยู่หน้าแนวอีก
“ส่วนผมนั้น อายุราชการเหลือ 51 วัน ขอทำหน้าที่แม่ทัพให้ดีที่สุด หลังจากนั้น ยังไม่ได้คิด และมั่นใจในน้องๆ” พล.ท.บุญสินกล่าว
ที่มา https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000075968