.

จีนเปิดตัวเครื่องบินรบไร้หาง Stealth รุ่นล่าสุด จุดกระแสแข่งอากาศยานรบเจเนอเรชัน 6 ปักกิ่ง–วอชิงตัน
11-8-2025
Asia Times รายงานว่า จีนเผยโฉมเครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบไร้แพนหางปริศนา จุดกระแสแข่งขันอากาศยานรบเจเนอเรชันที่ 6 การเผยแพร่ภาพเครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบไร้แพนหางรุ่นใหม่บนสื่อสังคมออนไลน์ในจีนเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ได้กระตุ้นการวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์อย่างกว้างขวาง ทั้งในประเทศและนานาชาติ ถึงบทบาทและศักยภาพของต้นแบบนี้ในฐานะอากาศยานรบยุคเจเนอเรชันที่ 6 ว่าจะเป็นเครื่องมีนักบินรุ่นใหม่ของจีน หรือเป็นอากาศยานรบไร้คนขับอัตโนมัติสมรรถนะสูง (*loyal wingman*) สำหรับปฏิบัติการร่วมรบกับนักบินมนุษย์
ภาพจากหลายมุมแสดงรายละเอียดของลำตัวที่มีจมูกแหลม ปีกติดตั้งตำแหน่งกึ่งกลาง ลักษณะกวาดมุมสูงและตัดปลายปีก ไม่มีแพนดิ่ง และคาดว่าใช้เครื่องยนต์คู่ ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะการออกแบบของสำนัก Chengdu ในฐานะคู่แข่งโดยตรงของ J‑50 จาก Shenyang หรืออาจเป็นโดรนรบขั้นสูง โครงสร้างล้อและตำแหน่งล้อหน้า รวมทั้งระบบรองรับการลงจอด บ่งชี้ศักยภาพการใช้งานบนเรือบรรทุกเครื่องบิน สะท้อนเป้าหมายของกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน (PLAN) ที่ต้องการขยายขีดความสามารถปฏิบัติการในทะเลน้ำลึก
### ความเชื่อมโยงกับโครงการเครื่องบินล่องหนรุ่นใหม่
นักวิเคราะห์บางส่วนชี้ว่านี่อาจเป็นรุ่นต่อยอดจาก J‑36 แต่มีขนาดเล็กและอาจมีสมรรถนะความเร็วสูงกว่า ข้อมูลก่อนหน้านี้จาก South China Morning Post (SCMP) เมื่อเมษายน 2025 ระบุว่า ทีมพัฒนา J‑36 กำลังทดสอบระบบช่วยลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใช้เทคนิค “direct force control” ควบคู่กับระบบ Fixed-Time Disturbance Observer เพื่อรับมือปัจจัยลมปั่นป่วนเหนือดาดฟ้าเรือ โดยสามารถควบคุมความแม่นยำในสภาพทะเลรุนแรงได้ระดับไม่เกินสองเซนติเมตร เทคโนโลยีดังกล่าวเมื่อผสานกับระบบควบคุมแรงขับสามมิติ (*3D thrust vectoring*) และหางแบบแยก (*drag rudders*) จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เครื่องบินล่องหนปีกบินรุ่นใหม่นี้ปฏิบัติการจากเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
### แข่งเดือดกับโครงการสหรัฐฯ
พัฒนาการฝั่งจีนเกิดขึ้นพร้อมกับการเดินหน้าโครงการ Next Generation Air Dominance (NGAD) ของสหรัฐฯ และโครงการ F/A‑XX ของกองทัพเรือ โดยเว็บไซต์ The War Zone เผยภาพคอนเซ็ปต์จาก Northrop Grumman ของ F/A‑XX แสดงการออกแบบล้ำสมัยเพื่อการล่องหน มีจมูกกว้างรองรับเรดาร์ขนาดใหญ่ ห้องนักบินโดมเดี่ยว โครงสร้างลำตัวยาวสำหรับเชื้อเพลิงและอาวุธภายใน รวมถึงชุดล้อเสริมแรงรองรับการขึ้น–ลงบนเรือบรรทุกเครื่องบิน
David Bacci เขียนใน The Conversation ว่า เครื่องบินขับไล่เจเนอเรชัน 6 มุ่งเปลี่ยนจากแข่งความเร็วไปสู่ “ความเหนือกว่าทางปฏิบัติการ” โดยใช้การพรางตัวขั้นสูง การรวมข้อมูลจากหลายเซ็นเซอร์ (*sensor fusion*) และสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (*electronic warfare*) พร้อมระบบขับเคลื่อนปรับสภาพได้ (*adaptive engines*) และการทำงานแบบบูรณาการระหว่างมนุษย์กับระบบไร้คนขับ (*MUM-T*)
### ข้อจำกัดและความท้าทาย
แม้จีนได้เปิดตัวต้นแบบทั้ง J‑36, J‑50 และลำล่าสุดนี้ แต่อันดรูว์ อีริคสัน (Andrew Erickson) เตือนว่าการพึ่งพาเทคโนโลยีล่องหนมากเกินไปเริ่มถูกลดทอนประสิทธิภาพด้วยการพัฒนาระบบตรวจจับแม่เหล็กไฟฟ้าสมัยใหม่ ด้าน China Aerospace Studies Institute (CASI) ชี้ว่า แนวคิด MUM‑T และฝูงโดรน (*UAV swarms*) ของจีนยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น การผนวกเข้ากับระบบบัญชาการ การสื่อสารในสภาพแวดล้อมการรบที่ถูกตัดขัด และการผลิตเชิงอุตสาหกรรมยังไม่บรรลุความพร้อมตามเป้าหมาย
ในฝั่งสหรัฐฯ แม้มีความก้าวหน้าทางวิศวกรรม แต่ก็ต้องเผชิญโจทย์การผลิตต่อเนื่อง การจัดลำดับความสำคัญด้านงบประมาณ และการถกเถียงทิศทางการพัฒนาในระดับยุทธศาสตร์
### บทสรุป: การแข่งที่มองไม่เห็น
เครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบไร้แพนหางที่ปรากฏบนแผ่นคอนกรีตกลางจีนครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณถึงความเร่งรีบด้านการออกแบบ ผลิต และทดสอบของอุตสาหกรรมการบินทหารจีนเพื่อปิดช่องว่างกับสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม จุดชี้ขาดในสมรภูมิแข่งขันเจเนอเรชัน 6 ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ของลำเครื่องเพียงอย่างเดียว หากอยู่ที่ “ระบบที่มองไม่เห็น” ทั้งโครงข่ายสั่งการ สงครามอิเล็กทรอนิกส์ ปัญญาประดิษฐ์ และการผสานการทำงานมนุษย์–เครื่องจักรในสนามรบ ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินผู้ครองความได้เปรียบทางอากาศในอนาคต
----
IMCT NEWS
ที่มา https://asiatimes.com/2025/08/mysterious-chinese-stealth-jet-a-fresh-test-for-us-air-dominance/