ปูติน'วางเส้นทางสืบทอดอำนาจในรัสเซียผู้นำรุ่นต่อไป

ปูติน'วางเส้นทางสืบทอดอำนาจในรัสเซีย ผู้นำรุ่นต่อไป 'ต้องมาจากทหารผ่านศึกในยูเครน'
19-9-2025
Newsweek รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) แห่งรัสเซียประกาศว่าผู้นำทางการเมืองรุ่นต่อไปของประเทศจะต้องเป็นทหารผ่านศึกจากสงครามยูเครน พร้อมเตือนว่าทหารต่างชาติในยูเครนจะเป็น "เป้าหมายที่ชอบธรรม"
ปูตินให้ความเห็นระหว่างการประชุมกับฝ่ายต่างๆ ของสภาดูมาแห่งรัสเซีย (Russian State Duma) และกล่าวถึงการมีส่วนร่วมของทหารผ่านศึกสงครามยูเครนในการเลือก
ปูตินได้กล่าวถึงการมีส่วนร่วมของทหารผ่านศึกจากสงครามยูเครนในการเลือกในอนาคต โดยชี้ให้เห็นว่าในรัสเซียภายใต้การนำของเขา แทบจะไม่มีพื้นที่ให้กับการต่อต้านทางการเมืองหรือความขัดแย้งที่สำคัญ และพรรคยูไนเต็ดรัสเซีย (United Russia) ซึ่งเป็นพรรคที่เขามีความใกล้ชิดก็ยังคงควบคุมอำนาจอย่างมั่นคง
ความต้องการใหม่ของปูตินนี้บ่งชี้ถึงการฝังรากลึกของแนวคิดชาตินิยมรัสเซียสายแข็ง (hard-line Russian nationalism) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ครอบงำอำนาจทางการเมืองในยุคของเขาและจุดชนวนสงครามเย็นครั้งใหม่กับชาติตะวันตก (the West) ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่น่าจะคงอยู่ต่อไปแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาจะลงจากตำแหน่ง
สำนักข่าวของรัฐอย่าง TASS รายงานคำกล่าวของปูตินในภาษารัสเซียว่า "เราต้องค้นหา, ค้นพบ และผลักดันผู้คนที่ไม่เกรงกลัวในการรับใช้ปิตุภูมิ และผู้ที่เต็มใจจะเสี่ยงสุขภาพและแม้กระทั่งชีวิตของตนเอง"
"คนเช่นนี้ควรได้รับการส่งเสริมให้ดำรงตำแหน่งผู้นำ พวกเขาจะเป็นผู้สืบทอดของเรา นี่คือสิ่งที่เราต้องคิด และขอขอบคุณที่เสนอชื่อคนเช่นนี้"
การสูญเสียกำลังพลของรัสเซียในยูเครน
รัสเซียเริ่มบุกยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และได้เกณฑ์ผู้คนหลายแสนคนเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ รวมถึงการปล่อยตัวนักโทษก่อนกำหนดเพื่อประจำการในแนวหน้าอันโหดร้าย รัฐบาลมอสโกไม่ได้เผยแพร่ตัวเลขการสูญเสียกำลังพลอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งพิมพ์ของสื่อรัสเซียอิสระอย่าง Mediazona ได้ประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 130,150 รายจากการวิจัยของพวกเขา
ผู้รอดชีวิตบางคนกลับบ้านด้วยบาดแผลทางจิตใจอย่างรุนแรง ซึ่งสร้างปัญหาทางสังคมระลอกใหม่ที่รัฐรัสเซียต้องรับมือ รวมถึงอาชญากรรมรุนแรง ในขณะที่พยายามฟื้นฟูทหารผ่านศึกเข้าสู่สังคม
นาย Mark Galeotti (มาร์ค กาลีออตติ) ผู้เชี่ยวชาญด้านรัสเซียชาวอังกฤษ ซึ่งเขียนรายงานเกี่ยวกับประเด็นนี้ให้กับองค์กร Global Initiative against Transnational Organized Crime ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters (รอยเตอร์) ว่า "โดยรวมแล้ว อาจมีชายและหญิงชาวรัสเซียกว่า 1.5 ล้านคนเข้าร่วมสงครามนี้ตั้งแต่ต้นปี 2025"
"เมื่อมีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มถูกปลดประจำการและกลับบ้าน รัสเซียจะเห็นการหลั่งไหลของทหารผ่านศึก... ผู้ที่แบกรับผลกระทบทางจิตวิทยาจากสงคราม"
ข้อตกลงสันติภาพสงครามยูเครนยังคงเป็นเรื่องยากจะบรรลุ
สงครามยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ในการเป็นตัวกลางเจรจาข้อตกลงสันติภาพ จนถึงตอนนี้รัสเซียได้ยึดครองดินแดนของยูเครนไปแล้วประมาณหนึ่งในห้าของพื้นที่ทั้งหมด โดยปฏิเสธข้อเสนอการหยุดยิงของยูเครน และกล่าวว่าต้องการไปสู่ข้อตกลงโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีสองประเด็นสำคัญที่แตกต่างกันอย่างไม่สามารถปรองดองกันได้ นั่นคือการยกดินแดนให้และการจัดระเบียบความมั่นคงของยูเครนในอนาคต
รัสเซียระบุว่าการรุกรานครั้งนี้มีขึ้นเพื่อขัดขวางความทะเยอทะยานของยูเครนในการเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ซึ่งรัสเซียมองว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงที่สำคัญ และเพื่อปกป้องชาวรัสเซียเชื้อสายรัสเซียจากสิ่งที่รัสเซียอ้างว่าเป็นการกดขี่ในยูเครน
แต่ในทางกลับกัน ยูเครนกล่าวหารัสเซียว่าทำสงครามยึดครองดินแดนแบบจักรวรรดินิยม รวมถึงพยายามลบล้างอำนาจอธิปไตยและอัตลักษณ์ของยูเครน โดยการผนวกประเทศให้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลมอสโก
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/russia-ukraine-war-putin-succession-leadership-2131920