สหรัฐฯ เร่งลดอิทธิพลจีนในเครือข่ายท่าเรือโลก

สหรัฐฯ เร่งลดอิทธิพลจีนในเครือข่ายท่าเรือโลก ขยายอำนาจทางทะเลครั้งใหญ่สุดนับจากทศวรรษ 1970
17-9-2025
Reuters รายงานว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าปฏิบัติการครั้งใหญ่เพื่อลดอำนาจเครือข่ายท่าเรือที่จีนครอบครองทั่วโลก และนำท่าเรือเชิงยุทธศาสตร์กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของชาติตะวันตก แหล่งข่าว 3 รายที่ใกล้ชิดกับแผนดังกล่าวเปิดเผย
ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นความพยายามที่ทะเยอทะยานที่สุดของสหรัฐฯ ในการขยายอิทธิพลทางทะเลตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองต่อความกังวลในวอชิงตันว่า หากเกิดความขัดแย้งขึ้น สหรัฐฯ อาจเสียเปรียบจีน
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเชื่อว่ากองเรือพาณิชย์ของสหรัฐฯ ในปัจจุบันไม่พร้อมสนับสนุนด้านลอจิสติกส์ในยามสงคราม และสหรัฐฯ พึ่งพาเรือและท่าเรือต่างชาติอย่างมาก ตัวเลือกหนึ่งที่กำลังพิจารณาคือ การสนับสนุนให้บริษัทเอกชนของสหรัฐฯ หรือพันธมิตรตะวันตกเข้าซื้อหุ้นท่าเรือที่จีนถือครอง ตัวอย่างเช่น ข้อตกลงของ BlackRock ที่เสนอซื้อสินทรัพย์ท่าเรือของ CK Hutchison ใน 23 ประเทศ รวมถึงบริเวณคลองปานามา
นอกจากปานามาแล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังจับตาการลงทุนของจีนในท่าเรือยุทธศาสตร์หลายแห่ง เช่น ท่าเรือพีเรียสในกรีซ ท่าเรือในสเปน รวมถึงแคริบเบียน และแม้แต่ท่าเรือฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ เอง
ฝั่งจีน โฆษกคณะทูตจีนในวอชิงตันระบุว่า จีนปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศเสมอ และคัดค้าน “การใช้มาตรการฝ่ายเดียวที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการใช้อำนาจข้ามเขตแดน” ของสหรัฐฯ ที่เป็นการบีบบังคับทางเศรษฐกิจและการกลั่นแกล้งเชิงอำนาจนิยม
จุดยุทธศาสตร์เมดิเตอร์เรเนียน
ท่าเรือพีเรียสในกรุงเอเธนส์ ซึ่งบริษัท COSCO ของจีนถือหุ้นใหญ่ 67% ถูกมองว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเชื่อมยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำ COSCO ไปแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม โดยจัดว่าเป็นบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพจีน
นอกจากนี้ คณะกรรมการการเดินเรือแห่งสหรัฐฯ ยังเริ่มทบทวนจุดคอขวดทางการเดินเรือ (maritime chokepoints) 7 แห่ง รวมถึงช่องแคบยิบรอลตาร์ เพื่อประเมินความเสี่ยงและนโยบายที่อาจสร้างเงื่อนไขไม่เป็นธรรมในการขนส่ง
ความกังวลในแคริบเบียนและอื่น ๆ
สหรัฐฯ ยังแสดงความกังวลต่อการลงทุนของจีนในท่าเรือคิงส์ตัน ประเทศจาเมกา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าที่สำคัญในแคริบเบียน โดยจีนมีสัดส่วนการลงทุนร่วมกับบริษัทฝรั่งเศส CMA CGM ขณะที่กลุ่ม JISCO ของจีนก็ถือครองโรงถลุงอะลูมินาและท่าเรือใกล้เคียง
รายงานจาก CSIS ชี้ว่าการปรากฏตัวของจีนในคิงส์ตันคือความเสี่ยงด้านความมั่นคงใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในละตินอเมริกาและแคริบเบียน
ในออสเตรเลีย บริษัทเอกชนสหรัฐฯ Cerberus แสดงความสนใจซื้อสัญญาเช่าท่าเรือดาร์วินซึ่งปัจจุบันดำเนินการโดย Landbridge บริษัทจีน ด้านนายกฯ แอนโทนี อัลบาเนซี ย้ำชัดว่าต้องการให้ท่าเรือยุทธศาสตร์นี้กลับมาอยู่ในการถือครองของออสเตรเลียเอง
ยุทธศาสตร์ทางทะเลครั้งใหญ่สุดนับจากยุคนิกสัน
ทำเนียบขาวยังเดินหน้านโยบายเสริมสร้างอุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศ การจัดตั้งทะเบียนเรือภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ รวมถึงการเก็บค่าธรรมเนียมจากเรือที่สร้างหรือจดทะเบียนภายใต้จีนหากเข้าเทียบท่าในสหรัฐฯ ทั้งหมดนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ตั้งแต่สมัยนิกสันในการเพิ่มอำนาจทางทะเล
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงประเมินว่า ในระยะสั้นถึงกลาง สหรัฐฯ จะยังคงสร้างพันธมิตรและเครือข่ายเพื่อถ่วงดุลอิทธิพลของจีนในท่าเรือยุทธศาสตร์ทั่วโลกต่อไป
---
IMCT NEWS
ที่มา
https://www.reuters.com/world/china/us-targets-chinas-grip-global-ports-sweeping-maritime-mission-2025-09-16/