จีนลดแรงกดดัน หลังคุมเข้มส่งออกแร่หายาก

จีนพยายามลดแรงกดดันระหว่างประเทศ หลังคุมเข้มส่งออกแร่หายาก ชี้ 'ไม่ใช่การแบน' แต่เป็นการตอบโต้ 'การยั่วยุ' ของสหรัฐฯ ยืนยัน 'ไม่กระทบการค้าปกติ'
20-10-2025
Bloomberg รายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนพยายามลดความวิตกจากนานาชาติ หลังทางการปักกิ่งประกาศเข้มงวดการควบคุมส่งออกแร่หายาก (rare earths) โดยยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวมุ่งสร้าง “กลไกระยะยาว” ไม่ใช่แนวทางปิดตลาด พร้อมระบุว่าเป็นการตอบสนองต่อการยกระดับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา
ระหว่างการเยือนกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ คณะผู้แทนจีนได้หารือกับเจ้าหน้าที่เศรษฐกิจจากหลายประเทศนอกรอบการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยย้ำว่าการจำกัดการส่งออกจะไม่กระทบต่อการค้าในภาคปกติ “จุดประสงค์คือการสร้างกลไกควบคุมในระยะยาวและตอบโต้การยั่วยุจากฝั่งสหรัฐฯ เช่น การขยายรายชื่อบริษัทและบริษัทย่อยในบัญชีคว่ำบาตร” แหล่งข่าวระบุ
### ชี้ไม่ใช่ “แบนส่งออก”
คำชี้แจงของเจ้าหน้าที่สอดคล้องกับถ้อยแถลงของกระทรวงพาณิชย์จีน ซึ่งยืนยันว่ามาตรการล่าสุด “ไม่เท่ากับการห้ามส่งออก” โดยการขอใบอนุญาตเพื่อใช้ในกิจกรรมพลเรือนจะยังสามารถดำเนินได้ตามปกติ รัฐมนตรีพาณิชย์ หวัง เหวินเทา (Wang Wentao) ยังกล่าวโทษทุกการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าปัจจุบันว่าเป็นผลจาก “การกระทำของสหรัฐฯ”
ระหว่างการเยือนครั้งนี้ เหลียว หมิน (Liao Min) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจีน ได้พบหารือแบบทวิภาคีกับเจ้าหน้าที่จากอย่างน้อย 7 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และเยอรมนี ส่วนผู้ว่าการธนาคารกลาง พรรค กงเซิง (Pan Gongsheng) พบกับผู้แทนจากกว่า 9 ประเทศ โดยถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการระบุเพียงว่าเป็นการ “แลกเปลี่ยนมุมมองด้านเศรษฐกิจและการเงิน”
### เสียงคัดค้านจากพันธมิตรตะวันตก
มาตรการของจีนสร้างเสียงต่อต้านอย่างกว้างขวางจากยุโรปและญี่ปุ่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ ใช้จังหวะนี้รวบรวมพันธมิตรในกลุ่มอุตสาหกรรมขั้นสูง เพื่อตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์ต่อจีน
อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ (G7) ที่ประชุมกันในกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ ยังไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้จีนได้ โดยหลายประเทศเลือกถือท่าที “รอดูทิศทาง” จากการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ญี่ปุ่นซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากตลาดแร่หายาก ก็แสดงความระมัดระวังในท่าที รัฐมนตรีคลังคัตสึโนบู คาโตะ (Katsunobu Kato) กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า “เราจำเป็นต้องรวมตัวกันในระดับ G7 เพื่อแสดงจุดยืนร่วม แต่ก็ต้องระวังไม่ให้เกิดการตอบโต้ที่อาจบานปลายกระทบต่อเศรษฐกิจโลก”
### จีน–สหรัฐฯ เริ่มคายความตึงเครียด
สัญญาณคลี่คลายเล็กน้อยเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลดระดับท่าทีแข็งกร้าว โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยืนยันว่า รัฐมนตรีคลัง สก็อต เบสเซนต์ (Scott Bessent) ได้พูดคุยกับรองนายกรัฐมนตรี เหอ ลี่เฟิง (He Lifeng) เมื่อค่ำวันศุกร์ และจะพบกันที่มาเลเซียในสัปดาห์หน้าเพื่อเตรียมวาระสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำ
“ผมเชื่อว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะช่วยนำทุกอย่างกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องได้” เบสเซนต์กล่าวระหว่างการปราศรัยที่ทำเนียบขาว
### มุมมองจากนักวิเคราะห์
โลแกน ไรต์ (Logan Wright) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาดจีนของสถาบัน Rhodium Group ระบุว่า แม้จีนอ้างว่ามาตรการควบคุมนี้เป็น “การป้องกันเชิงรุก” แต่ผลในทางปฏิบัติอาจสร้างความเปราะบางในห่วงโซ่อุปทานระดับโลกมากยิ่งขึ้น “การใช้แร่หายากเป็นเครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์เท่ากับเปิดช่องความเสี่ยงใหม่ให้กับทุกประเทศที่พึ่งพาการผลิตเทคโนโลยีเหล่านี้” เขากล่าว
การควบคุมครั้งใหม่นี้ของจีนกำหนดให้แม้แต่ผู้ส่งออกต่างชาติที่ใช้วัตถุดิบมีส่วนประกอบของแร่หายากจากจีนต้องยื่นขอใบอนุญาตด้วย ถือเป็นการขยายขอบเขตควบคุมในระดับโลก และเพิ่มแรงกดดันต่อประเทศผู้ผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง
นักวิเคราะห์มองว่า แม้จีนจะต้องการแสดงท่าทีเชิงป้องกัน แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนยุทธิศาสตร์ “ใช้ทรัพยากรเป็นอาวุธเศรษฐกิจ” ที่จะยิ่งทำให้ประเด็นแร่หายากกลายเป็นสมรภูมิสำคัญของสงครามการค้าในปี 2026 ข้างหน้า
-----
IMCT NEWS
ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-10-18/china-officials-try-to-ease-global-concern-over-rare-earth-curbs