ทรัมป์ชี้ “ยูเครนต้องเสียบางส่วนของทรัพย์สิน” ให้รัสเซียหลังสงคราม

20-10-2025

   ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ยูเครนอาจต้องยอมสูญเสีย “ทรัพย์สินที่เป็นดินแดนบางส่วน” ให้กับรัสเซีย หลังสิ้นสุดความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ เขาให้สัมภาษณ์กับผู้ประกาศข่าวของ Fox News มาเรีย บาร์ติโรโม โดยตอบคำถามว่า จะสามารถยุติสงครามระหว่างมอสโกและเคียฟได้หรือไม่ โดยไม่ต้องยกพื้นที่ใด ๆ ให้รัสเซีย ทรัมป์กล่าวเป็นนัยว่า ยูเครนคงต้องยอมแลกบางอย่าง

“ปูตินจะต้องเอาบางอย่างไปแน่นอน หมายความว่าพวกเขาสู้กันมาแล้ว และตอนนี้เขาก็มีทรัพย์สินจำนวนมาก เขาได้ครอบครองบางพื้นที่แล้ว” ทรัมป์กล่าว

   ขณะที่รัฐบาลยูเครนยืนยันมาตลอดว่า จะไม่ยอมรับการยกดินแดนใด ๆ ให้รัสเซีย แต่ทางรัสเซียเองก็ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า การถอนกองทัพยูเครนออกจากดินแดนที่รัสเซียผนวกไว้เป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญ สำหรับการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน

   ทรัมป์ยังเผยว่า เขายัง ไม่ตัดสินใจเรื่องการจัดส่งขีปนาวุธร่อนระยะไกล Tomahawk ที่ผลิตในสหรัฐฯ ให้ยูเครน โดยประเด็นนี้ถือเป็นหัวข้อหลักของการหารือระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนในสัปดาห์นี้

   อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังไม่ได้ให้คำมั่นในการส่งอาวุธใด ๆ โดยระบุว่า “ไม่ใช่เรื่องง่าย” ที่จะจัดส่งอาวุธประเภทนี้ให้ยูเครน

   ในรายงานของ Wall Street Journal ยังระบุว่า ทรัมป์ดูเหมือนจะกดดันยูเครนมากกว่ารัสเซีย ในท่าทีล่าสุด ทรัมป์ย้ำว่า สหรัฐฯ ได้ส่งอาวุธให้ยูเครนจำนวนมากแล้ว ในช่วงของความขัดแย้งนี้ และ ไม่สามารถมอบอาวุธทั้งหมดของตนเพื่อช่วยยูเครนได้

“คุณรู้ไหมว่า เราไม่สามารถมอบอาวุธทั้งหมดของเราให้ยูเครนได้ เราทำแบบนั้นไม่ได้ และผมก็ดีกับประธานาธิบดีเซเลนสกีและยูเครนมากแล้ว แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเราจะขาดแคลน ผมก็ไม่อยากเสี่ยง ผมไม่สามารถนำความมั่นคงของสหรัฐฯ ไปเสี่ยงได้” ทรัมป์กล่าวย้ำ

   ก่อนการประชุมกับประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ในวันศุกร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน

   ตามคำกล่าวของ ยูรี อูชาคอฟ ที่ปรึกษาทำเนียบเครมลิน ผู้นำรัสเซียได้เตือนทรัมป์ว่า การจัดส่งขีปนาวุธระยะไกลให้ยูเครนจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวโน้มของความขัดแย้ง แต่จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับวอชิงตัน

   ปูตินยังระบุด้วยว่า การดำเนินการเช่นนี้จะ “บ่อนทำลายอย่างรุนแรงต่อโอกาสของการเจรจาสันติภาพ” ตามถ้อยคำของอูชาคอฟ

ที่มา RT