.

จีนเร่งขยายอิทธิพลเงินหยวน ฮ่องกงครองตลาดเงินหยวน 76% เดินหน้าปั้น ‘ระบบนิเวศหยวน’ เปิดวงเงินกู้ 1 แสนล้านหยวน สั่นคลอนดอลลาร์
20-10-2025
SCMP รายงานว่า ฮ่องกงเร่งปั้น 'ระบบนิเวศหยวน' เสริมความแกร่งศูนย์กลางการค้าเงินหยวนนอกประเทศ ฮ่องกงในฐานะตลาดเงินหยวนนอกประเทศ (Offshore Yuan) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยครองสัดส่วนถึง 76% ของการชำระเงินสกุลหยวนนอกประเทศทั้งหมด ได้ยกระดับมาตรการเชิงรุกเพื่อตอกย้ำบทบาทดังกล่าว ด้วยการเปิดตัวสิ่งอำนวยความสะดวกทางธุรกิจเงินหยวน (Renminbi Business Facility - RBF) มูลค่า 100,000 ล้านหยวน (ประมาณ 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
มาตรการใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการ เช่น ซันนี่ ยิป หยุก-ชิก นักธุรกิจชาวฮ่องกง สามารถกู้ยืมเงินหยวนจากธนาคารในฮ่องกงได้ใน อัตราดอกเบี้ยเดียวกับในจีนแผ่นดินใหญ่ (onshore rate) ซึ่งช่วยลดต้นทุนและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงนั้นสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินหยวนในแผ่นดินใหญ่กว่าสองเท่า
โครงการ RBF เป็นหนึ่งในชุดมาตรการที่หน่วยงานกำกับดูแลของฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ประกาศออกมา เพื่อส่งเสริมให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินหยวนชั้นนำ และกระตุ้นให้นักลงทุนและบริษัทต่างชาติหันมาใช้สกุลเงินจีนมากขึ้น
หยวนผงาดในเวทีการค้าโลก
แม้ว่าสกุลเงินหยวน (Renminbi) จะยังไม่สามารถแปลงสกุลได้เต็มที่ แต่ปักกิ่งได้อนุญาตให้นักลงทุนใช้สกุลเงินนี้ในการชำระค่าสินค้าและบริการระหว่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2009
ข้อมูลล่าสุดจาก Swift (เครือข่ายส่งข้อความของอุตสาหกรรมการธนาคาร) ระบุว่า ณ เดือนสิงหาคมปีนี้ เงินหยวนเป็นสกุลเงินที่ถูกใช้มากที่สุดเป็นอันดับสองในการเงินเพื่อการค้าระหว่างประเทศ (global trade finance) ด้วยส่วนแบ่ง 7.6% รองจากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ 81.4% โดยส่วนแบ่งของเงินหยวนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 2.1% เมื่อสี่ปีก่อนหน้า
ความพยายามของฮ่องกงในการเสริมความแข็งแกร่งนี้สะท้อนจากปริมาณเงินฝากสกุลหยวนในธนาคารของฮ่องกงที่พุ่งสูงถึง 968,000 ล้านหยวน ณ เดือนสิงหาคม โดยเพิ่มขึ้น 16% นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 หลังการเปิดพรมแดน
มาตรการใหม่เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มสภาพคล่อง
มาตรการหลักล่าสุดที่ถูกนำมาใช้เพื่อส่งเสริมการใช้เงินหยวนมี 3 ด้านหลัก ได้แก่ การลงทุน การจัดหาเงินทุน (Financing) และการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ตามที่ ชาร์ลส์ หล่ำ หัวหน้าฝ่ายตลาดของ Citi ฮ่องกง กล่าว โดยมาตรการสำคัญประกอบด้วย:
1. Renminbi Business Facility (RBF)
เริ่มเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2568 โดยอนุญาตให้กู้ยืมเงินหยวนจากธนาคารฮ่องกงได้ในอัตราดอกเบี้ยในประเทศ (Onshore rate)
ในเดือนธันวาคม จะขยายขอบเขตให้รวมถึงการลงทุนโดยตรง สำหรับบริษัทจีนที่ต้องการเงินหยวนเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ และบริษัทต่างชาติที่ต้องการเงินหยวนเพื่อขยายธุรกิจในจีน
2. Cross-boundary Bond Repurchase (Repo) Arrangement
โครงการข้อตกลงซื้อคืนพันธบัตรข้ามพรมแดนนี้ช่วยให้นักลงทุนสถาบันกว่า 800 รายที่ลงทุนผ่านโครงการ Bond Connect (เส้นทางเหนือ) สามารถใช้การถือครองพันธบัตรในประเทศเป็นหลักประกัน เพื่อกู้ยืมเงินทุนจากตลาด Repo ในจีนแผ่นดินใหญ่
วอง ตซือ-ชีวก (Wong Tsz-Cheuk) หัวหน้าฝ่ายตลาดของ HSBC ฮ่องกง กล่าวว่า สิ่งนี้เป็น "ผลประโยชน์ร่วมกัน" (win-win) เนื่องจากช่วยลดต้นทุนการจัดหาเงินหยวนสำหรับนักลงทุนต่างชาติได้อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินหยวนนอกประเทศเคยสูงถึง 8% เมื่อเทียบกับอัตราในประเทศที่ 1.5-1.9%
ปัจจัยขับเคลื่อนเชิงภูมิรัฐศาสตร์
นักวิเคราะห์ระบุว่า การผลักดันให้เกิดการปฏิรูปเงินหยวนมีขึ้นท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ลดลง
คุสสัน เหลือง (Cusson Leung) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ KGI ชี้ว่า "นักลงทุนทั่วโลกกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นในการถือครองสินทรัพย์ทั้งหมดในดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มสงครามการค้า" สิ่งนี้กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาสนใจสินทรัพย์ในสกุลเงินอื่น ๆ รวมถึงเงินหยวน และการซื้อ พันธบัตรติ่มซำ (Dim Sum Bonds) ที่ออกเป็นสกุลเงินหยวนนอกประเทศ
ชาร์ลส์ หล่ำ ของ Citi กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปที่จำเป็นคือการพัฒนา หน่วยงานหักบัญชีกลาง (Central Clearing Agency) เพื่อชำระธุรกรรม Repo ระหว่างนักลงทุนและผู้ให้กู้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของคู่สัญญา (counterparty risks) และทำให้ฮ่องกงสามารถเป็นผู้นำในฐานะศูนย์กลางการหักบัญชีในระดับภูมิภาคได้
ฟิลิปป์ เดิร์กซ์ (Philippe Dirckx) จาก Asifma กล่าวสนับสนุน โดยระบุว่าขั้นตอนต่อไปคือการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานของจีนและฮ่องกงเข้ากับระบบสากล เช่น Euroclear และ Clearstream เพื่อให้พันธบัตรรัฐบาลจีนที่ถือครองในฮ่องกงสามารถใช้เป็น หลักประกันได้ทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำให้เงินหยวนเป็นสากลอย่างสมบูรณ์
ข้อมูลจากเทรดเดอร์สกุลเงินชี้ว่า การที่เงินหยวนกลายเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดสกุลหนึ่งในฮ่องกง ทำให้ฮ่องกงสามารถรักษาตำแหน่งตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกไว้ได้ โดยที่สิงคโปร์และลอนดอนไม่สามารถแข่งขันกับฮ่องกงได้ในแง่ของการซื้อขายเงินหยวนโดยเฉพาะ
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/business/banking-finance/article/3329388/how-hong-kong-building-ecosystem-solidify-its-role-offshore-yuan-hub?module=top_story&pgtype=section