ซาอุฯ–สหรัฐฯ ใกล้ปิดดีล ‘พันธมิตรป้องกันร่วม’

ซาอุฯ–สหรัฐฯ ใกล้ปิดดีล ‘พันธมิตรป้องกันร่วม’ ครั้งประวัติศาสตร์ คาดลงนามระหว่าง MBS เยือนทำเนียบขาว
20-10-2025
Newsweek รายงานว่า - ซาอุดีอาระเบียกำลังเจรจาข้อตกลงความมั่นคงครั้งใหญ่กับรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีเนื้อหาสาระผูกพันให้วอชิงตันถือว่าการโจมตีใด ๆ ต่อราชอาณาจักรเป็น "ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ" ตามรายงานของ The Financial Times ข้อตกลงนี้ถูกออกแบบโดยอ้างอิงจากข้อตกลงที่สหรัฐฯ ทำกับกาตาร์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อเสถียรภาพในตะวันออกกลางและท่าทีทางยุทธศาสตร์ระดับโลกของอเมริกา
ความสำคัญต่อวิสัยทัศน์ของ MBS
ข้อตกลงที่เสนอขึ้นมานี้สะท้อนถึงความพยายามของ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS) มกุฎราชกุมารและผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย ในการรับประกันความคุ้มครองระยะยาวจากสหรัฐฯ การทำข้อตกลงความมั่นคงอย่างเป็นทางการกับวอชิงตันจึงเป็นวาระสำคัญของรียาด
สำหรับวอชิงตัน ข้อตกลงนี้จะช่วย เสริมสร้างอิทธิพล ของสหรัฐฯ ในภูมิภาคอ่าว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นของจีนและรัสเซีย ทั้งในด้านพลังงาน การลงทุน และความร่วมมือด้านความมั่นคง นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอาหรับกับอิสราเอล รวมถึงโอกาสที่ซาอุดีอาระเบียจะเข้าร่วมใน "Abraham Accords" (ข้อตกลงอับราฮัม) ที่สหรัฐฯ เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยในปี 2020
รายละเอียดและกำหนดการเจรจา
ซาอุดีอาระเบียคาดหวังที่จะสรุปข้อตกลงให้ได้ในการเยือนทำเนียบขาวของมกุฎราชกุมาร MBS ในเดือนหน้า แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับการเจรจาระบุว่า ข้อตกลงนี้คาดว่าจะเป็นไปอย่าง "แข็งแกร่ง" โดยจะขยายขอบเขตการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง การวางแผนกลาโหมร่วมกัน และปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย
เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลทรัมป์ยืนยันการเจรจา โดยระบุว่า "มีการพูดคุยเกี่ยวกับการลงนามบางสิ่งบางอย่าง เมื่อมกุฎราชกุมารเสด็จเยือน แต่รายละเอียดกำลังอยู่ในระหว่างการปรับเปลี่ยน" ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างสหรัฐฯ-ซาอุดีอาระเบียเป็น "รากฐานที่แข็งแกร่งของยุทธศาสตร์ในภูมิภาคของเรา"
ความเชื่อมโยงกับ "Abraham Accords"
การเจรจานี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงป้องกันประเทศระหว่างสหรัฐฯ กับกาตาร์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งให้คำมั่นว่าจะถือว่าการโจมตีใด ๆ ต่อกาตาร์เป็นภัยคุกคามต่อ "สันติภาพและความมั่นคง" ของอเมริกา
ข้อตกลงที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับรียาดจะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายสหรัฐฯ ในภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะ ฟื้นฟูความสัมพันธ์ด้านความมั่นคง ที่เคยตึงเครียดมาหลายปี และอาจฟื้นโอกาสของ Abraham Accords ซึ่งเป็นกรอบการทำงานที่นำไปสู่การปรับความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับหลายรัฐ
ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียเคยพยายามทำสนธิสัญญาป้องกันประเทศกับรัฐบาลไบเดน โดยผูกโยงกับการปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอล แต่ความพยายามดังกล่าวได้ล่มสลายลงภายหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 มกุฎราชกุมาร MBS ยืนยันว่าการปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีการจัดตั้ง รัฐปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ปฏิเสธ
การฟื้นฟูความร่วมมือยุคทรัมป์
การเยือนสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นการเยือนครั้งแรกของ MBS นับตั้งแต่ปี 2018 และส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการทูตครั้งใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มกุฎราชกุมาร MBS ยังคงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์และจาเร็ด คุชเนอร์ (Jared Kushner) ซึ่งมีบทบาทสำคัญใน Abraham Accords ฉบับดั้งเดิม ในสมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งครั้งแรก ทำเนียบขาวเคยประกาศข้อตกลงขายอาวุธมูลค่าสูงถึง 142,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กับรียาด ซึ่งเป็นดีลด้านกลาโหมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
การเจรจาคาดว่าจะทวีความเข้มข้นขึ้นก่อนที่ MBS จะเดินทางมาถึง โดยทั้งสองฝ่ายมุ่งเป้าไปที่การบรรลุข้อตกลงที่เป็นทางการเพื่อเสริมสร้างพันธกรณีทางทหารของสหรัฐฯ ในอ่าว และยืนยันบทบาทของวอชิงตันในฐานะ ผู้ค้ำประกันความมั่นคงสูงสุด ในภูมิภาค
สำหรับซาอุดีอาระเบีย ข้อตกลงนี้จะช่วยตอกย้ำความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับสหรัฐฯ และยกระดับสถานะในเวทีโลก ขณะที่สำหรับทรัมป์ นี่จะเป็นรากฐานสำคัญของนโยบายตะวันออกกลางที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจนิยามพันธมิตรในภูมิภาคสำหรับปีต่อ ๆ ไป
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/saudi-arabia-looks-to-trump-for-us-defense-pact-10895515