.
ทรัมป์ 'เปิดสงครามเวเนซุเอลา' อาจกลายเป็น 'ของขวัญ' ให้กับ 'จีน ขยายอิทธิพลทางทหาร-เศรษฐกิจ ในลาตินอเมริกา'
15-11-2025
Asia Times รายงานว่า ทรัมป์ (Trump) เสี่ยงจุดชนวน "สงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด" ครั้งใหม่ในเวเนซุเอลา (Venezuela) นักวิเคราะห์ชี้คือโอกาสทองของอิทธิพลจีน (China) ในละตินอเมริกา (Latin America)
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดนัลด์ (Donald Trump) กำลังพิจารณาที่จะเริ่มต้นการแทรกแซงทางทหารในประเทศเวเนซุเอลา (Venezuela) ซึ่งเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับคำมั่นสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ว่าจะยุติ "สงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด (Endless Wars)" ของสหรัฐฯ (US) แม้จะมีเหตุผลหลายประการถูกหยิบยกขึ้นมาสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว เช่น การต่อต้าน "การก่อการร้ายยาเสพติด (Narco-terrorism)" และการส่งเสริมประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิรัฐศาสตร์เตือนว่า แม้สหรัฐฯ (US) จะอ้างถึง "การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ (Great Power Competition)" เพื่อจำกัดอิทธิพลของจีน (China) ในละตินอเมริกา (Latin America) แต่การใช้กำลังทางทหารต่อเวเนซุเอลา (Venezuela) มีแนวโน้มที่จะส่งผลร้ายกลับมา โดยจะ กระตุ้นให้อิทธิพลที่กำลังเติบโตของจีน (China) ในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การค้าคือหัวหอก: อิทธิพลของจีน (China) ที่ไม่อาจเมินเฉย
ข้อมูลจากผลสำรวจในปี 2024 โดยนิตยสาร The Economist ย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงใน "สนามหลังบ้าน" ของสหรัฐฯ (America’s Backyard) โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการค้าระหว่างจีน (China) และละตินอเมริกา (Latin America) ซึ่งพุ่งสูงขึ้นจาก 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (US Dollar) ในปี 2002 เป็น 4.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (US Dollar) ในปี 2022
ท่าเรือที่สร้างโดยจีน (China) แห่งใหม่ที่เมืองชานเคย์ (Chancay) ในเปรู (Peru) ซึ่งเป็น "ท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port)" แห่งแรกในภูมิภาค ก็พร้อมที่จะยกระดับการค้าระหว่างสองฝ่ายไปอีกขั้น
นายมาร์โค รูบิโอ (Marco Rubio) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เคยกล่าวแสดงความกังวลว่าสหรัฐฯ (US) "ไม่สามารถปล่อยให้พรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party) ขยายอิทธิพลและซึมซับละตินอเมริกา (Latin America) และแคริบเบียน (Caribbean) เข้าไปในกลุ่มเศรษฐกิจการเมืองส่วนตัวของตนได้" แต่การตอบสนองจากผู้นำภูมิภาคนี้กลับเป็น "การเมินเฉย" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้นำละตินอเมริกา (Latin American Leaders) เช่น ประธานาธิบดี หลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา (Luiz Inacio Lula da Silva) แห่งบราซิล (Brazil) ยังคงกระชับความร่วมมือกับปักกิ่ง (Beijing)
จุดยืนทางการทูตและบทบาทของรัสเซีย (Russia)
นักการทูตจีน (Chinese Diplomats) ได้แสดงการสนับสนุนประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร (Nicolas Maduro) อย่างเปิดเผย และประณามแรงกดดันจากสหรัฐฯ (US) โดย นายหลิน เจียน (Lin Jian) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน (Chinese Foreign Ministry) ได้แถลงอย่างชัดเจนว่า ละตินอเมริกา (Latin America) "ไม่ใช่สนามหลังบ้านของใคร (No one’s Backyard)" และ "การรังแก... จะไม่ได้ผล"
การวิเคราะห์ทางการทหารของจีน (Chinese Military Analysis) เกี่ยวกับสถานการณ์การรุกรานที่อาจเกิดขึ้นโดยสหรัฐฯ (US) ต่อเวเนซุเอลา (Venezuela) ได้ถูกเผยแพร่ โดยมีการอ้างว่าปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯ (US Air Campaign) มีแนวโน้มที่จะไม่มีประสิทธิภาพ โดยอ้างถึงการโจมตีอิหร่าน (Iran) ล่าสุดเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ รายงานยังเน้นย้ำถึงบทบาทของรัสเซีย (Russia) ในการจัดส่งอาวุธป้องกันภัยทางอากาศและช่างเทคนิคซ่อมบำรุงฉุกเฉินไปยังเวเนซุเอลา (Venezuela) พร้อมสรุปว่า "รัสเซีย (Russia) ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อสหรัฐฯ (US) ผ่านการกระทำที่เป็นรูปธรรม"
ความผิดพลาดซ้ำซากของวอชิงตัน (Washington)
ความจริงแล้ว จีน (China) ได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายจากความถี่ของการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ (US Military Interventions) ในอดีต ขณะที่วอชิงตัน (Washington) จมปลักอยู่กับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง (Middle East) ในฐานะส่วนหนึ่งของ "สงครามต่อต้านการก่อการร้ายทั่วโลก (Global War on Terror)" ปักกิ่ง (Beijing) ได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้อิทธิพลของตนเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั่วโลก
หากสหรัฐฯ (US) ดำเนินการทางทหารต่อเวเนซุเอลา (Venezuela) ก็มีความเสี่ยงที่จะจมปลักอยู่ใน "สงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด (Endless War)" อีกครั้ง ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกต่อต้านอเมริกา (Anti-American Sentiment) ทั่วทั้งภูมิภาค และผลักดันให้ผู้บริโภคในละตินอเมริกา (Latin American Consumers) หันไปใช้สินค้าและบริการของจีน (China) มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็น "ผลกำไรเพิ่มเติม (Additional Windfall)" ให้แก่บริษัทจีน (Chinese Companies)
ความเสี่ยง "ฝันร้ายที่สุด" ของอเมริกา (America)
การใช้กำลังอย่างประมาทเลินเล่อของสหรัฐฯ (US) อาจเปิดประตูไปสู่ความเสี่ยงที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งเป็นความเป็นไปได้ที่จีน (China) อาจพิจารณาเจริญรอยตามแนวทางของ เครมลิน (Kremlin) นั่นคือ การที่จีน (China) อาจตัดสินใจรับ บทบาทด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ (Novel Security Role) ในละตินอเมริกา (Latin America)
แม้ว่าการปรากฏตัวทางทหารและความมั่นคงของจีน (Chinese Military-security Presence) อย่างแท้จริงในละตินอเมริกา (Latin America) อาจเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการ ณ จุดนี้ แต่ตรรกะของการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจที่มีการใช้กำลังทางทหาร (Militarized Superpower Rivalry) ทำให้ความเป็นไปได้นี้ไม่สามารถตัดทิ้งไปได้ นักวิเคราะห์เตือนว่า การดำเนินการที่เย่อหยิ่งและโง่เขลาของสหรัฐฯ (US) อาจทำให้ "อนาคตที่ไม่พึงปรารถนา" นี้กลายเป็นความจริงได้ในที่สุด
---
IMCT NEWS
ที่มา https://asiatimes.com/2025/11/trumps-venezuela-war-threat-a-gift-to-china/