จิม ชานอส เตือนหนี้ค้ำประกัน GPU ของ Nvidia
จิม ชานอส เตือนหนี้ค้ำประกัน GPU ของ Nvidia มูลค่า $2 หมื่นล้าน เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้-ต้นตอฟองสบู่ AI หรือไม่?
2-12-2025
Yahoo finance รายงานว่า จิม ชานอส (Jim Chanos) เตือน: ตลาดหนี้ AI Chip อาจล่มสลาย เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้
– ชิป AI ของ Nvidia (NVDA) ได้กลายเป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนตลาดหนี้รูปแบบใหม่ ซึ่งส่งผลให้นักขายชอร์ต (Short Seller) ชื่อดังอย่าง จิม ชานอส (Jim Chanos) ออกมาส่งสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงที่กำลังจะเกิดขึ้น
บริษัทคลาวด์คอมพิวติง (Cloud Computing) AI เกิดใหม่ ที่ต้องการแข่งขันกับกลุ่ม Big Tech ในตลาดปัญญาประดิษฐ์ ได้รับเงินกู้จำนวนมากโดยมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) ของผู้ผลิตชิปมูลค่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหลักประกัน โดยบริษัทเหล่านี้ใช้เงินทุนที่ได้มาเพื่อซื้อชิป AI เพิ่มเติมเพื่อขยายการดำเนินงาน ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูล (Data Centers), ติดตั้งฮาร์ดแวร์ AI และให้เช่ากำลังประมวลผล (Computing Power) จากฮาร์ดแวร์ดังกล่าวแก่บริษัทเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการฝึกฝนและเรียกใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์
ตามรายงานของ The Information ในเดือนกรกฎาคม ระบุว่า มีบริษัทในกลุ่มธุรกิจนี้ 4 แห่ง ซึ่งสามในสี่แห่งมี Nvidia เป็นนักลงทุนด้วย มีหนี้รวมกันมากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยใช้ชิป AI หรือ GPUs ของ Nvidia เป็นหลักประกัน
นาย จิม ชานอส (Jim Chanos) ซึ่งมีชื่อเสียงจากการทำนายการล่มสลายของ Enron ในช่วงวิกฤตดอทคอม (dot-com bust) ได้เห็นสัญญาณอันตรายในการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่มี GPU เป็นหลักประกัน เนื่องจากกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์รายใหม่ (Neoclouds) ที่ได้รับเงินกู้เหล่านี้ ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจนสู่การทำกำไร ซึ่งทำให้การชำระหนี้เป็นไปได้ยาก
"รูปแบบธุรกิจอย่าง Neoclouds และบริษัท AI จำนวนมากในขณะนี้ เป็นเพียงกิจการที่ขาดทุน" นาย ชานอส (Chanos) กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Yahoo Finance เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "คุณต้องหวังว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไป เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ในสินเชื่อเหล่านี้"
ข้อมูลจาก The Information ระบุว่า บริษัท CoreWeave ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Nvidia และได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อต้นปีนี้ และคู่แข่งผู้ให้บริการคลาวด์อย่าง Fluidstack ต่างมีหนี้ประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยใช้คลัง GPUs ของตนเป็นหลักประกัน ขณะที่ Lambda และ Crusoe ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Nvidia เช่นกัน มีหนี้ที่มี GPU เป็นหลักประกันอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ
CoreWeave รายงานการขาดทุนประมาณ 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024 ขณะที่ Fluidstack ขาดทุนน้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีเดียวกัน ส่วนสถานะทางการเงินของ Lambda และ Crusoe นั้นไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
ความเสี่ยงจากการเสื่อมค่าของหลักประกัน
ความเสี่ยงใหญ่อีกประการหนึ่งของหนี้ที่มีชิป AI เป็นหลักประกัน คือประเด็นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในโลกของการลงทุนด้านเทคโนโลยี นั่นคือ GPUs ของ Nvidia อาจเสื่อมค่าหรือสูญเสียมูลค่าเร็วกว่าที่บริษัทต่าง ๆ ได้ประมาณการไว้
ผู้ให้บริการคลาวด์ส่วนใหญ่ รวมถึง CoreWeave คาดการณ์ว่าชิป AI ของพวกเขาจะสามารถสร้างรายได้ได้นานประมาณหกปี ในขณะที่ Amazon (AMZN) ได้ลดตารางการเสื่อมค่า หรืออายุการใช้งานเชิงเศรษฐศาสตร์ของชิป AI ลงจากหกปีเหลือห้าปีเมื่อเดือนมกราคม
นายชานอส (Chanos) กล่าวว่า มีโอกาสที่ชิปจะสูญเสียมูลค่าเร็วขึ้น เนื่องจาก Nvidia เปิดตัวผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ทุก ๆ 18 เดือน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญสองประการ: ประการแรก การทำเช่นนี้จะทำให้บริษัทต่าง ๆ มีความยากลำบากในการสร้างรายได้จากชิปเพียงพอที่จะชำระหนี้ และประการที่สอง มูลค่าตลาดของชิปอาจลดลงต่ำกว่ามูลค่าของเงินกู้ที่ใช้ค้ำประกัน ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้
นายชานอส (Chanos) ตั้งข้อสังเกตว่า Neoclouds ยังคงไม่ทำกำไร แม้จะสมมติว่าชิปของพวกเขามีอายุการใช้งานยาวนาน "รูปแบบธุรกิจจำนวนมากที่เรากำลังมองอยู่ศูนย์ข้อมูลใหม่และ Neoclouds อย่าง CoreWeave และ Nebius—ไม่ได้ทำเงินแม้จะคิดอัตราการเสื่อมราคาที่แปดหรือสิบปี" เขากล่าว "ต้นทุนทางการเงิน (Cost of Capital) ยังคงสูงกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทน (Return) จากข้อตกลงของศูนย์ข้อมูล AI เหล่านี้"
นายชานอส (Chanos) สรุปว่า "หากอายุการใช้งานเชิงเศรษฐศาสตร์ของสิ่งเหล่านี้ (ชิป Nvidia) อยู่ที่สามปี... โครงสร้างทางเศรษฐศาสตร์ (Economics) ทั้งหมดของข้อตกลงเหล่านี้จะพังทลายลง"
---
IMCT NEWS
ที่มา https://finance.yahoo.com/news/famed-short-seller-jim-chanos-sees-risks-in-growing-debt-market-backed-by-nvidias-ai-chips-theres-going-to-be-debt-defaults-110013557.html