.
จีนตอกย้ำบทบาท ‘ผู้กุมอำนาจตลาดทองคำโลก’ พร้อมปูทางสู่ยุคการเงินใหม่ผ่านโครงการ mBridge
15-12-2025
Money Metals รายงานว่า จีน (China) ยืนยันการควบคุมตลาดทองคำอย่างเข้มงวด นำเข้าสู่ยุคการเงินใหม่ เป็นที่แน่นอนว่า ธนาคารกลางจีน (PBoC) ยังคงเป็นหน่วยงานเดียวที่สำคัญที่สุด ซึ่งกำลังผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นกว่า 55 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่ต้นปี
ในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 ปริมาณการซื้อทองคำของ PBoC (ทั้งที่รายงานและไม่รายงาน) มีจำนวน 118 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน (MoM) และ 55% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoY) อ้างอิงตามระเบียบวิธีที่ใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งปัจจุบันระเบียบวิธีนี้ถูกนำไปใช้โดยสถาบันการเงินและสื่อชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง เช่น Goldman Sachs, Bloomberg, MarketWatch, The Washington Post, TIME magazine, Financial Times, Financiele Dagblad, และ El País เป็นต้น โดย แผนภูมิที่ 1 ชี้ให้เห็นว่า การซื้อที่ไม่รายงานส่วนใหญ่ต้องถูกพิจารณาว่าเป็นของจีน (China)
ปัจจุบัน ปริมาณการสำรองทองคำทางการเงินของจีน (China) ที่ประเมินไว้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 5,411 ตัน ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับปริมาณ 2,304 ตันที่ธนาคารกลางจีน (China) รายงานต่อ IMF คำถามสำคัญคือ เหตุใดจีน (China) จึงเข้าซื้อทองคำเป็นจำนวนมาก?
คำตอบคือ เนื่องจากจีน (China) เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และจากสถานการณ์การใช้เงินดอลลาร์ (dollar) เป็นอาวุธนับตั้งแต่สงครามยูเครน (Ukraine war) ในปี 2022 การเข้าซื้อทองคำอย่างลับ ๆ และในปริมาณมหาศาลของจีน (China) และประเทศต่าง ๆ เช่น ซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia) ไม่ควรถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยง (hedge) จากเงินดอลลาร์ (dollar) แต่เป็นการ ทดแทน เงินดอลลาร์ (dollar) โดยตรง
มาตรฐานทองคำ mBridge (The mBridge Gold Standard)
ตลอดช่วง 80 ปีที่ผ่านมา เงินดอลลาร์สหรัฐฯ (U.S. dollar) ได้ทำหน้าที่เป็นสกุลเงินหลักสำหรับการค้าและสกุลเงินสำรองของโลก ซึ่งโครงสร้างนี้ทำให้สหรัฐฯ (United States) ได้รับอภิสิทธิ์พิเศษ (exorbitant privilege) ในการพิมพ์เงินเพื่อชำระค่าสินค้านำเข้า แม้ว่าฐานการผลิตของประเทศจะถูกกัดเซาะลงก็ตาม
จีน (China) จึงมีเป้าหมายที่จะสร้างทางเลือกอื่นแทนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (U.S. dollar) ขณะเดียวกันก็พยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการออกสกุลเงินสำรองของตนเอง เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2025 ประธานธนาคารกลางของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates) ได้ดำเนินการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลครั้งสำคัญ ระหว่างการประชุมกับผู้ว่าการ People’s Bank of China (ธนาคารกลางจีน) ซึ่งเป็นการเปิดตัวโครงการ mBridge อย่างเป็นทางการ แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ประเทศที่เข้าร่วมซึ่งมีสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นที่ยอมรับ สามารถทำการค้าทวิภาคีด้วยสกุลเงินของตนเอง โดยไม่ต้องผ่านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (U.S. dollar)
เพื่อให้ "มาตรฐานทองคำ mBridge" บรรลุผล เงินส่วนเกินของสกุลเงินท้องถิ่นที่สะสมผ่านการค้าจะต้องสามารถแลกเปลี่ยนได้โดยตรงในตลาดทองคำที่มีสภาพคล่อง และยังต้องการเครือข่ายห้องนิรภัยทองคำระหว่างประเทศและศูนย์หักบัญชีแห่งใหม่
แผนภูมิที่ 2 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ โดยประเทศในซีกโลกตะวันออก (Eastern countries) ที่เคยอ่อนไหวต่อราคามาก่อนปี 2022 กำลังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้ราคาทองคำสูงขึ้น
เนื่องจากจีน (China) จะเป็นพันธมิตรทางการค้าที่ใหญ่ที่สุด หรือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่เข้าร่วมโครงการ mBridge สกุลเงินหยวน (renminbi) จึงจะเป็นสกุลเงินการค้าที่มีอิทธิพลในข้อตกลงนี้ นี่คือเหตุผลที่จีน (China) กำลังพัฒนา Shanghai International Gold Exchange (SGEI)
SGEI เปิดตัวในเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Free Trade Zone - FTZ) ในปี 2014 และเพิ่งเปิดห้องนิรภัยในต่างประเทศแห่งแรกที่ ฮ่องกง (Hong Kong) โดยมีแนวคิดที่จะเปิดห้องนิรภัยเพิ่มเติมในต่างประเทศ ระบบห้องนิรภัยระหว่างประเทศน่าจะได้รับการพัฒนาตามเครือข่ายสถานที่เก็บทองคำอันกว้างขวางซึ่งประกอบเป็นระบบ SGE (Shanghai Gold Exchange) ภายในตลาดภายในประเทศจีน (China) โดยรายงานประจำปีล่าสุดของ SGE ระบุว่า SGE ใช้รูปแบบการหักบัญชีแบบ “รวมศูนย์, หักลบกลบหนี้, และหลายระดับ” โดยมีธนาคารผู้ดูแลเงินประกันที่ได้รับการรับรอง 18 แห่ง ให้บริการห้องนิรภัยที่ได้รับการรับรอง 70 แห่งใน 36 เมืองทั่วจีนแผ่นดินใหญ่
ทองคำกำลังเปลี่ยนการกระจายตัวของเงินสำรองทั่วโลก
ในขณะที่ธนาคารกลางต่าง ๆ เร่งสะสมทองคำอย่างจริงจังและผลักดันราคาให้สูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาล ปริมาณสำรองทองคำทั่วโลกก็เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อเงินดอลลาร์ (dollar) ภายในไตรมาส 3 ปริมาณสำรองทองคำทางการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกที่ประเมินไว้รวมอยู่ที่ 40,225 ตัน โดย 49 เปอร์เซ็นต์เป็นของประเทศที่อยู่นอกกลุ่มตะวันตก (West) ในขณะที่ทศวรรษ 1990 สัดส่วนนี้อยู่ที่ 25 เปอร์เซ็นต์ แผนภูมิที่ 3 ระบุว่า กลุ่มตะวันตก (The West) ประกอบด้วย สหรัฐฯ (US), สหราชอาณาจักร (UK), ยุโรปตะวันตก (Western Europe), และออสเตรเลีย (Australia)
เนื่องจากการดำเนินการของ PBoC ในการเพิ่มราคาทองคำ ทำให้ทองคำทางการเงิน (monetary gold) ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 28 เปอร์เซ็นต์ของเงินสำรองระหว่างประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่จาก 21 เปอร์เซ็นต์ในปี 2024 แผนภูมิที่ 4 ชี้ว่า เนื่องมาจากราคาทองคำแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำรองทั้งหมดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 สัดส่วน "ปัจจุบัน" (live share) ของทองคำต่อเงินสำรองจึงใกล้เคียง 30 เปอร์เซ็นต์
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/12/13/china-reaffirms-tight-grip-on-gold-market-ushering-in-a-new-monetary-era-004545