.
สหรัฐฯ ภายใต้ทรัมป์ทุ่มงบมหาศาล สร้าง“เรือประจัญบานยุคใหม่” ชูชื่อ Trump-class หวังฟื้นศักดิ์ศรีอำนาจทางทะเล 'ข่มขวัญรัสเซีย–จีน'
24-12-2025
RT รายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เปิดแผนสร้างเรือรบประจัญบานรุ่นใหม่ขนาดมหึมา ภายใต้ชื่อ “Trump-class Battleship” สำหรับกองทัพเรือสหรัฐฯ (US Navy) ซึ่งนับเป็นการฟื้นแนวคิดเรือประจัญบานครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสร้าง “กองเรือหรูของทรัมป์ (Golden Fleet)” เพื่อยืนยันตำแหน่งผู้นำทางอำนาจทะเลและข่มขวัญคู่แข่งสำคัญอย่างรัสเซียและจีน
ตามแผนที่ทรัมป์ประกาศ เรือรุ่นใหม่นี้จะมีระวางขับน้ำระหว่าง 30,000–40,000 ตัน และจะสร้างขึ้นจำนวน 20–25 ลำ ซึ่งถือว่าใหญ่กว่าเรือรบติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ชั้น Admiral Nakhimov (Project 11442M) ของรัสเซียที่ปัจจุบันเป็นเรือธงที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก ทรัมป์กล่าวว่าเรือรุ่นใหม่นี้จะเป็น “เรือที่ใหญ่ที่สุด เร็วที่สุด และทรงอำนาจที่สุดที่สหรัฐฯ เคยมีมา”
เรือนำร่องจะใช้ชื่อ “USS Defiant” ก่อนจะเริ่มการสร้างเรือลำที่สองในระยะใกล้ และเข้าสู่ช่วงทดสอบทางปฏิบัติการ จากนั้นจะเริ่มผลิตต่อเนื่องอีก 8 ลำในชุดแรก โดยเป้าหมายรวมทั้งหมดคือ 25 ลำหรือมากกว่า
ในเชิงเทคนิค เรือประจัญบานรุ่นใหม่นี้ถูกออกแบบให้รองรับระบบอาวุธความหนาแน่นสูง รวมถึง *Laser Combat System*, *Railgun*, ระบบยิงแนวดิ่ง (*Vertical Launch System*) สำหรับขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง (*Hypersonic Missiles*), ขีปนาวุธสกัดกั้นตระกูล Standard Missile (SM) และขีปนาวุธร่อนรุ่นใหม่ทั้งแบบหัวรบนิวเคลียร์และทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นวิจัยและทดสอบ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ทางทะเลตั้งข้อสงสัยถึงความคุ้มค่าในการรบจริง เพราะในยุคของอาวุธปล่อยต่อต้านเรือรบความเร็วเหนือเสียงและระบบเฝ้าระวังจากอวกาศ เรือขนาดใหญ่แม้เพียงไม่กี่ลำก็อาจกลายเป็นเป้าสำคัญที่ถูกโจมตีได้ในเวลาไม่กี่นาที ความสูญเสียอาจมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์และแทบไม่มีโอกาสรอดในสมรภูมิจริง
แต่ทรัมป์ดูเหมือนจะมั่นใจว่า “กองเรือหรู” ของเขาจะได้รับการคุ้มครองจากสิ่งที่เขาเรียกว่า “*Golden Shield*” — ระบบป้องกันขีปนาวุธหลายชั้นที่รวมเทคโนโลยีติดตามและสกัดจากอวกาศ ซึ่งด้านหนึ่งถูกวิเคราะห์ว่าเป็นแนวคิดต่อยอดจากโครงการอวกาศทางทหารยุคสงครามเย็น อย่างไรก็ตาม นักยุทธศาสตร์ส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่าระบบดังกล่าวจะมีประสิทธิผลจริงกับขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง
โครงการ Trump-class Battleship จึงถูกมองว่าเป็นเพียงหนึ่งในแผนนาวียุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ปัจจุบัน วอชิงตันกำลังเร่งสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธชั้น Columbia-class เพื่อทดแทน Ohio-class ที่ปฏิบัติการมานาน โดยมีแผนสร้างทั้งหมด 12 ลำ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในโครงสร้างขีปนาวุธนิวเคลียร์สามขา (Nuclear Triad) ของสหรัฐฯ
พร้อมกันนี้ กองทัพเรือยังคงเดินหน้าต่อเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์รุ่นใหม่ ฟริเกตรุ่นปรับปรุง และเรือดำน้ำโจมตีทางยุทธวิธี ขณะที่อาวุธปล่อยนำวิถีรุ่นล่าสุดและเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 5 แบบ F-35 รวมถึงโดรน Loyal Wingman ก็อยู่ในแผนจัดหา เพื่อสร้างความพร้อมรบเชิงรุกในสมรภูมิทะเลยุคใหม่
นักวิเคราะห์บางฝ่ายมองว่า แนวคิด “กองเรือหรู (Golden Fleet)” สะท้อนความพยายามของทรัมป์ในการเน้นภาพลักษณ์อภิมหาอำนาจมากกว่าความคุ้มค่าเชิงยุทธศาสตร์ คล้าย “รถหรูที่จอดโชว์ในชนบท” — สวยหรู ราคาแพง แต้อาจไร้ประโยชน์ในภาวะสงครามจริง
ขณะเดียวกัน โครงการดังกล่าวอาจผลักดันให้ประเทศอื่นตอบสนองเชิงยุทธศาสตร์ รัสเซียยังคงมุ่งเน้นพัฒนาอาวุธปล่อยต่อต้านเรือแบบไฮเปอร์โซนิก เพื่อรักษาความได้เปรียบแบบอสมมาตร ส่วนจีนอาจใช้แนวทางต่างออกไป โดยอาศัยกำลังการผลิตเรือรบที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เพื่อจำกัดอิทธิพลทางเรือของสหรัฐฯ ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า
โครงการเรือรบของทรัมป์จึงถูกมองว่าเป็นเดิมพันครั้งใหญ่ ทั้งในด้านงบประมาณและยุทธศาสตร์ ที่อาจกำหนดภูมิรัฐศาสตร์ทางทะเลในทศวรรษหลังปี 2030
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.rt.com/news/629928-built-to-impress-not-to-survive/