.
เครมลินระบุ การแก้ไขข้อเสนอของสหรัฐฯ โดยยุโรปและยูเครนไม่ช่วยเพิ่มโอกาสสันติภาพ
22-12-2025
ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศระดับสูงของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า การแก้ไขข้อเสนอของสหรัฐฯ เพื่อยุติสงครามในยูเครนโดยฝ่ายยุโรปและยูเครน ไม่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุสันติภาพแต่อย่างใด
ข้อเสนอที่สหรัฐฯ เป็นผู้ร่างขึ้นเพื่อยุติสงครามที่ดำเนินมาเกือบสี่ปี ซึ่งถูกสื่อมวลชนเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้ว ได้สร้างความกังวลให้กับยุโรปและยูเครนว่าเนื้อหามีแนวโน้มเอนเอียงเข้าข้างรัสเซียมากเกินไป และอาจเปิดทางให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กดดันให้เคียฟยอมอ่อนข้อเกินควร
นับตั้งแต่นั้นมา ผู้แทนเจรจาจากยุโรปและยูเครนได้พบหารือกับผู้แทนของทรัมป์ เพื่อพยายามเสนอเงื่อนไขของตนเองเพิ่มเติมเข้าไปในร่างข้อเสนอของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดที่แน่ชัดของข้อเสนอฉบับปัจจุบันยังไม่ได้รับการเปิดเผย
ยูรี อูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของเครมลิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงมอสโกว่า การเปลี่ยนแปลงที่ยุโรปและยูเครนเสนอเข้ามานั้น จะไม่ช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุสันติภาพ
“นี่ไม่ใช่การคาดการณ์” อูชาคอฟกล่าว ตามการรายงานของสำนักข่าวรัสเซีย พร้อมระบุว่าเขายังไม่ได้เห็นข้อเสนอฉบับเต็มในรูปแบบเอกสารอย่างเป็นทางการ
“แต่ผมมั่นใจว่าข้อเสนอที่ฝ่ายยุโรปและยูเครนได้เสนอ หรือกำลังพยายามเสนออย่างแน่นอนนั้น ไม่ได้ช่วยปรับปรุงเอกสาร และไม่ได้ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการบรรลุสันติภาพในระยะยาว”
ผู้แทนของปูตินพบเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในฟลอริดา
อูชาคอฟให้ความเห็นดังกล่าวหลังจาก คิริล ดมีตรีเยฟ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีปูติน ได้พบกับสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ และจาเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่รัฐฟลอริดาเมื่อวันเสาร์ โดยดมีตรีเยฟระบุว่าการเจรจาจะดำเนินต่อในวันอาทิตย์
การพบกันที่ไมอามีเกิดขึ้นภายหลังจากที่สหรัฐฯ ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่จากยูเครนและยุโรปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
สิ่งที่กำลังเป็นเดิมพัน คือการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะยอมเห็นชอบกับการยุติสงครามที่นองเลือดที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองหรือไม่ อนาคตของยูเครนจะเป็นอย่างไร บทบาทของมหาอำนาจยุโรปจะถูกลดทอนลงเพียงใด และข้อตกลงสันติภาพที่สหรัฐฯ เป็นผู้ไกล่เกลี่ยจะสามารถยืนหยัดได้ในระยะยาวหรือไม่
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า ยูเครนจะสนับสนุนข้อเสนอของสหรัฐฯ ในการจัดการเจรจาไตรภาคีระหว่างสหรัฐฯ รัสเซีย และยูเครน หากการเจรจาดังกล่าวเอื้อต่อการแลกเปลี่ยนเชลยศึกเพิ่มเติม และเปิดทางไปสู่การประชุมระหว่างผู้นำประเทศ อย่างไรก็ตาม ยูรี อูชาคอฟ กล่าวว่า ข้อเสนอเรื่องการเจรจาไตรภาคียังไม่เคยถูกหารืออย่างจริงจังโดยฝ่ายใด และยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ ในเรื่องนี้
รัสเซียระบุว่า ผู้นำยุโรปมีความตั้งใจที่จะบ่อนทำลายการเจรจาสันติภาพ ด้วยการเสนอเงื่อนไขที่พวกเขาทราบดีว่าจะเป็นสิ่งที่รัสเซียไม่อาจยอมรับได้ โดยในปี 2025 รัสเซียสามารถยึดครองดินแดนของยูเครนได้เฉลี่ยวันละ 12–17 ตารางกิโลเมตร (ประมาณ 4.6–6.6 ตารางไมล์)
ขณะที่ยูเครนและผู้นำยุโรประบุว่า รัสเซียไม่ควรถูกปล่อยให้บรรลุเป้าหมาย หลังจากสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นการยึดครองดินแดนในลักษณะจักรวรรดินิยม
รัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 หลังจากการสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนดำเนินมาเป็นเวลาแปดปี ส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างมอสโกกับชาติตะวันตกนับตั้งแต่ช่วงตึงเครียดที่สุดของสงครามเย็น
ปูตินมองว่าสงครามครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในความสัมพันธ์กับตะวันตก โดยเขากล่าวหาว่าชาติตะวันตกได้ทำให้รัสเซียอับอายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 ผ่านการขยายตัวขององค์การนาโต และการรุกล้ำเข้าสู่สิ่งที่เขามองว่าเป็นเขตอิทธิพลของมอสโก
ที่มา CNBC