BYD เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า MPV ตีตลาดอาเซียน
ขอบคุณภาพจาก Sgcarmart.com
14/10/2024
BYD ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ไฟฟ้าของจีน เปิดฉากรุกแย่งส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมรถยนต์หรูของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่คู่แข่งรายอื่นจากจีนเริ่มเผชิญความท้าทายในภูมิภาคนี้ ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ Denza ในสิงคโปร์ หลังจากเปิดตัวในกัมพูชาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน พร้อมจับตามองตลาดอื่น ๆ ในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 10 ประเทศเพื่อส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า
อาเซียนเป็นภูมิภาคแรกนอกจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงที่ BYD เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์หรูภายใต้แบรนด์ Denza โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้ซื้อรถยนต์ที่มีเงินมาก ซึ่งสามารถจ่ายเงินเพิ่มเพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้นได้ โดยมี D9 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์นี้ในอาเซียน ทำการตลาดในฐานะรถยนต์อเนกประสงค์ระดับหรู หรือ MPV ที่มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก และยังมีฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ตู้เย็นขนาดเล็ก เก้าอี้นวด ระบบเสียงระดับพรีเมียม รวมถึงค่าธรรมเนียมสำหรับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของและใช้งานรถยนต์ที่จำเป็นในสิงคโปร์
D9 มีราคาอยู่ที่ประมาณ 300,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (230,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ขณะที่ Alphard ซึ่งเป็นรถยนต์ MPV ไฮบริดที่ผลิตโดย Toyota Motor ของญี่ปุ่น มีราคาอยู่ที่ประมาณ 400,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (306,466 ดอลลาร์สหรัฐฯ) รวมค่าธรรมเนียม
“สำหรับแบรนด์หรูหราระดับพรีเมียม ย่อมมีความต้องการอยู่เสมอในทุกประเทศ” Liu Xueliang ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายรถยนต์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ BYD กล่าว “ผมเชื่อจริงๆ ว่า Denza จะกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่นเดียวกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกประเทศ” ขณะที่ BYD วางแผนเปิดตัว Denza ในไทย ช่วงปลายปีนี้ (2024)
นอกจากนี้ ในสัปดาห์เดียวกับที่เปิดตัว D9 ในสิงคโปร์ BYD ก็ได้ลงนามข้อตกลงการจัดจำหน่ายเพื่อนำ Denza มายังมาเลเซีย โดยจะเริ่มจำหน่ายอย่างช้าในปีหน้า” Liu กล่าว พร้อมๆ กับที่บริษัทยังตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูในอินโดนีเซียในปีหน้า (2025) อีกด้วย
สำหรับกัมพูชาเป็นตลาดอาเซียนแห่งแรกที่ Denza เข้าสู่ตลาด เนื่องจากใช้รถยนต์พวงมาลัยซ้ายเช่นเดียวกับในจีน ทำให้ BYD ต้องเปลี่ยนรุ่นของจีนให้พวงมาลัยอยู่ทางด้านขวาก่อนจะขายในประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์
การเร่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มรถยนต์ระดับหรูเกิดขึ้นในขณะที่คู่แข่งของ BYD จากจีนกำลังเผชิญความท้าทาย ในงานแสดงรถยนต์ประจำปีที่สิงคโปร์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอย่าง Xpeng และ Dongfeng ได้นำสินค้ามาจัดแสดงเป็นครั้งแรก ขณะที่ Neta ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอีกแห่งจากจีน ก็เตรียมเปิดตัวรถยนต์ของตนในสิงคโปร์ในช่วงปลายปีนี้
Economist Intelligence Unit ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยและวิเคราะห์ได้ตั้งข้อสังเกตในเดือนมกราคม (2024) ว่าผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ได้เริ่มการผลิตที่โรงงานรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในต่างประเทศในไทยแล้ว
ส่วนในเดือนกันยายน หน่วยงานวิจัยของ Malayan Banking ของมาเลเซียได้ตั้งข้อสังเกตว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมในอาเซียนพุ่งสูงขึ้นจากปัจจัยต่างๆ เช่น กฎระเบียบที่เอื้ออำนวยและการลงทุนอย่างหนักของผู้ผลิตรถยนต์จีน รายงานดังกล่าวยังเน้นย้ำว่ามูลค่าการขายรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน 6 ประเทศ (สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม) คาดว่าจะพุ่งสูงถึง 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2035 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 40 เท่าจากประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2021
“บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีน BYD ซึ่งบุกเบิกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างมีนัยสำคัญ มียอดขายพุ่งสูงขึ้น 83% ในสิงคโปร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 เมื่อเทียบกับยอดขายรวมในปี 2023” Maybank กล่าวในรายงาน “รถยนต์ของบริษัทยังคิดเป็น 40% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของไทยในปี 2023”
ตามสถิติของสำนักงานการขนส่งทางบกของสิงคโปร์จนถึงเดือนสิงหาคม (2024) BYD มีรถยนต์ไฟฟ้าใหม่จดทะเบียนใช้งานบนท้องถนนในสิงคโปร์มากที่สุดที่มากกว่า 3,000 คัน ขณะที่ Tesla ซึ่งเป็นคู่แข่งของสหรัฐฯ จดทะเบียนอยู่ประมาณ 1,500 คัน
BYD กำลังเดินหน้าเพื่อจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นอื่นๆ ภายใต้ชื่อ Denza ในอาเซียน โดยมีรถสเตชั่นแวกอนรุ่น Z9 GT ซึ่งเปิดตัวที่สิงคโปร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (10 ต.ค.) โดยมีคนดังในท้องถิ่นและผู้ทรงอิทธิพลในโซเชียลมีเดียมาร่วมงานด้วย
สำหรับ Denza เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกจากการร่วมทุนระหว่าง BYD และ Mercedes-Benz ของเยอรมนี โดยทั้งสองบริษัทถือหุ้นร้อยละ 50 ในปี 2010 ต่อมา BYD ค่อยๆ เพิ่มการถือหุ้นในบริษัท และเข้าซื้อกิจการทั้งหมดเมื่อต้นปีนี้ (2024) ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและยุโรปที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตามข้อมูลของ BYD ยอดสั่งซื้อ Denza ของบริษัทสะสมแล้วสูงถึง 250,000 คันทั่วโลก
IMCT News