ราคาทองเสี่ยงร่วง จับตา 2 ปัจจัยในสหรัฐฯ
36 0C
Thailand
Thailand
22/10/2024
"นักวิเคราะห์ Bloomberg เตือนราคาทองทำสถิติอาจสะดุด หากผลตอบแทนพันธบัตรพุ่ง-ผลเลือกตั้งสหรัฐฯ กดดัน"
ไมค์ แม็คโกลน นักยุทธศาสตร์อาวุโสด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก Bloomberg Intelligence เตือนว่า แม้ราคาทองคำจะทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่อาจเผชิญความเสี่ยงจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
"อัตราส่วนทองคำต่อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์อาจเสี่ยงต่อการปรับฐาน โดยเฉพาะหากรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสชนะการเลือกตั้งและพรรครีพับลิกันควบคุมสภาใดสภาหนึ่ง ซึ่งจะช่วยควบคุมการขาดดุลงบประมาณ" แม็คโกลนกล่าว
ประเด็นสำคัญที่นักวิเคราะห์ชี้ มีดังนี้:
1. อัตราส่วนทองคำต่อพันธบัตรแตะ 125 จุด ณ วันที่ 18 ตุลาคม สูงสุดนับจากฐาน 100 ในปี 1992 และทะลุจุดสูงสุดปี 2011
2. ความแตกต่างสำคัญคือ S&P 500 มีผลตอบแทนดีกว่าทองคำมาก
3. มีโอกาสเกิดการปรับฐานเหมือนปี 2015 ที่อัตราส่วนร่วงจาก 107 เหลือ 47
4. ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นการปรับฐาน
แม็คโกลนยังเตือนว่า หากมูลค่าตลาดต่อ GDP แตะระดับ 2 เท่า ซึ่งใกล้จุดสูงสุดในรอบ 100 ปี อาจเกิดการปรับฐานของราคาหุ้น ประกอบกับราคาน้ำมัน พลังงาน และธัญพืชที่ลดลง ส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านราคาต่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
นอกจากนี้ เขายังชี้ว่าความผันผวนต่ำของตลาดหุ้นและอัตราดอกเบี้ยสูงในปัจจุบัน คล้ายกับสถานการณ์ในปี 2006-2007 ก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งทำให้อัตราส่วน TLT/น้ำมันดิบพุ่งจาก 100 เป็น 1,000 ในปี 2020
"อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปีแตะระดับสูงสุด 5% ในเดือนเมษายน พร้อมกับราคาน้ำมัน WTI ที่ 87.67 ดอลลาร์" แม็คโกลนสรุป
ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลเลือกตั้งสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำในระยะถัดไป
IMCT NEWS
