ทรัมป์จะแซงชั่นประเทศที่ซื้อน้ำมันหรือเปโตรเคมีจากอิหร่าน

2-5-2025

   ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ประเทศที่ยังคงซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันหรือปิโตรเคมีจากอิหร่านจะต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรรอง  การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในขณะที่วอชิงตันและเตหะรานกำลังมีการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยมีรายงานว่าสาธารณรัฐอิสลามยินดีที่จะไม่พัฒนาโครงการให้เป็นการทหาร เพื่อแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร

“ผู้ใดที่พบว่ามีการค้าขายน้ำมันกับอิหร่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจกับสหรัฐอเมริกาในทุกรูปแบบ” ทรัมป์เขียนในโพสต์บน Truth Social เมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมเสริมว่า “การซื้อน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจากอิหร่านทั้งหมดต้องหยุดทันที!”

  มาตรการของทรัมป์ในการแซงชั่นประเทศใดที่ซื้อน้ำมันและเปโตรเคมีจากอิหร่าน เท่ากับว่าสหรัฐต้องการสกัดความร่วมมือในBRICS เพราะว่าอิหร่านเป็นสมาชิกของกลุ่มนี้ที่ต้องการสร้างวาระเศรษฐกิจและการเงินโลกใหม่

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรบริษัท 7 แห่งที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าขายน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของอิหร่านอย่างผิดกฎหมาย โดยรายชื่อดังกล่าวรวมถึงบริษัท 6 แห่งที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกทั้งยังมีบริษัทหนึ่งจากตุรกีและอีกหนึ่งบริษัทจากอิหร่าน

อิหร่านและสหรัฐฯ เปิดเผยผลการเจรจานิวเคลียร์

   ในแถลงการณ์ กระทรวงการต่างประเทศกล่าวหาเตหะรานว่าจุดชนวนความขัดแย้งในตะวันออกกลาง พัฒนาโครงการนิวเคลียร์ และให้การสนับสนุน “หุ้นส่วนและตัวแทนผู้ก่อการร้าย” ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ไม่ได้ให้ความเห็นต่อความเคลื่อนไหวล่าสุดหรือประกาศมาตรการจำกัดเพิ่มเติมใดๆ

   วอชิงตันยังคงกดดันเตหะรานให้เข้าสู่ข้อตกลงใหม่เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ โดยทรัมป์ได้ฉีกข้อตกลงที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติเมื่อปี 2015 ในระหว่างดำรงตำแหน่งสมัยแรก โดยกล่าวหาเตหะรานว่าละเมิดข้อตกลงอย่างลับๆ และได้นำมาตรการคว่ำบาตรกลับมาใช้อีกครั้ง โดยมีรายงานว่าอิหร่านได้ลดการปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว

   ในเดือนมีนาคม ทรัมป์ขู่จะทิ้งระเบิดใส่อิหร่าน “หากพวกเขาไม่ยอมทำข้อตกลง” ขณะที่เตหะรานตอบโต้โดยระบุว่าจะไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดัน ทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาเรื่องนี้มาแล้วสามรอบ โดยมีโอมานเป็นผู้ไกล่เกลี่ย

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ขู่จะจัดการอิหร่าน ท่ามกลางการโจมตีของกลุ่มฮูตี อย่างไรก็ตาม การเจรจารอบที่สี่ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจาก “เหตุผลทางด้านเทคนิคและการจัดการ” ตามที่รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน อับบาส อารักชี ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเขาเสริมว่า เตหะราน “มุ่งมั่นมากกว่าที่เคยในการบรรลุข้อตกลงที่ยุติธรรมและสมดุล”

สหรัฐฯ ยังกล่าวหาอิหร่านว่าให้การสนับสนุนและกำกับดูแลนักรบกลุ่มฮูตีในเยเมน โดยทรัมป์ได้เปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ต่อกลุ่มนักรบดังกล่าวในเดือนมีนาคม โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องการเดินเรือในทะเลแดง

เมื่อวันพฤหัสบดี รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีท เฮกเซธ ได้เตือนว่า อิหร่านจะต้องเผชิญกับผลจากการกระทำของตนใน “เวลาและสถานที่ที่สหรัฐฯ เลือกเอง” พร้อมกล่าวหาอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังการกระทำของกลุ่มฮูตี ซึ่งเตหะรานได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ที่มา อาร์ที

----------------------------
โอมาน'ประกาศเลื่อนการเจรจานิวเคลียร์รอบที่ 4 ระหว่างอิหร่าน-สหรัฐฯ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น

2-5-2025

    Esmaeil Baqaei (เอสมาอิล บาเกอี) โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกำหนดการเจรจาทางอ้อมรอบที่ 4 ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเดิมกำหนดไว้ในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม ณ กรุงโรม

   โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านอ้างถึงการประกาศของรัฐมนตรีต่างประเทศโอมาน โดยระบุว่าการเลื่อนการเจรจาครั้งนี้เป็นไปตามข้อเสนอของรัฐมนตรีต่างประเทศโอมาน และข้อมูลเกี่ยวกับวันเจรจาครั้งต่อไปจะมีการแจ้งให้ทราบในภายหลัง

   บาเกอีย้ำถึงความมุ่งมั่นของอิหร่านในการใช้ช่องทางการทูตเพื่อปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมและถูกกฎหมายของประชาชนอิหร่าน รวมทั้งยุติมาตรการคว่ำบาตรและการกดดันทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและความเป็นอยู่ของชาวอิหร่านทุกคน

   ด้านบาเดอร์ อัลบูไซดี รัฐมนตรีต่างประเทศโอมาน ซึ่งประเทศของเขาทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล X เมื่อวันพฤหัสบดีว่า "ด้วยเหตุผลด้านลอจิสติกส์ เราจึงต้องกำหนดตารางการประชุมระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านใหม่ ซึ่งเดิมวางแผนไว้ในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม" พร้อมเสริมว่าจะมีการประกาศวันใหม่เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้

การเจรจาดังกล่าวมีกำหนดจัดขึ้นที่กรุงโรม ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนี้ วาติกันกำลังจะเริ่มการประชุมคณะพระคาร์ดินัลเพื่อเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หลังจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสในวันพุธที่ผ่านมา

การเจรจารอบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน แลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจบางส่วนที่สหรัฐฯ บังคับใช้ต่อเตหะราน โดยมีอับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน และสตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง เป็นผู้นำในการเจรจา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ขู่หลายครั้งว่าจะสั่งโจมตีทางอากาศต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากแหล่งข่าวของสหรัฐฯ ที่คุ้นเคยกับการเจรจา เปิดเผยต่อสำนักข่าว AP และ Reuters ว่า สหรัฐฯ "ไม่เคยยืนยันการเข้าร่วม" การเจรจารอบที่ 4 ในกรุงโรม แต่คาดว่าการเจรจาจะเกิดขึ้น "ในอนาคตอันใกล้"

สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศยังคงดำเนินต่อไป โดยก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี อิหร่านได้กล่าวหาสหรัฐฯ ว่ามี "พฤติกรรมขัดแย้งและออกแถลงการณ์ยั่วยุ" หลังจากวอชิงตันได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมัน พร้อมเตือนเตหะรานถึงผลกระทบที่จะตามมาจากการสนับสนุนกลุ่มฮูตีในเยเมน

คำแถลงของอิหร่านมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรหน่วยงานที่ทำการค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของอิหร่าน นอกจากนี้ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังได้เตือนอิหร่านถึงผลที่จะตามมาจากการสนับสนุนกลุ่มฮูตี ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏที่เริ่มโจมตีเรือบริเวณทะเลแดงและอ่าวเอเดนในช่วงปลายปี 2566 เพื่อตอบโต้การปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.dw.com/en/oman-says-new-iran-us-nuclear-talks-postponed/a-72408775

https://en.irna.ir/news/85820184/Foreign-Ministry-spokesperson-announces-change-in-time-for-Fourth