.

ทรัมป์จุดประเด็นความปลอดภัยของทองคำเยอรมนีในนิวยอร์ก
31-5-2025
ความปลอดภัยของทองคำสำรองของเยอรมนีที่เก็บไว้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่นิวยอร์ก ซึ่งก่อนหน้านี้มักเป็นหัวข้อถกเถียงเฉพาะในหมู่พรรคการเมืองขวาจัดของประเทศและกลุ่มผู้สะสมทองคำ กำลังกลายเป็นประเด็นถกเถียงในวงกว้างมากขึ้น หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ธนาคารกลางเยอรมนี หรือ Bundesbank ถือครองทองคำสำรองมากเป็นอันดับสองของโลก รวมทั้งสิ้น 3,352 ตัน โดยหนึ่งในสามของทองคำนั้นถูกเก็บไว้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve Bank of New York) สืบเนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคงในยุคสงครามเย็น และระบบการเงินที่ถูกสร้างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
การเก็บทองคำไว้ในต่างประเทศเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้างในอดีต และพรรคขวาจัดอย่างพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AfD) ก็ได้ผลักดันข้อเรียกร้องให้รัฐบาลนำทองคำกลับประเทศ ความขัดแย้งของประธานาธิบดีทรัมป์กับพันธมิตรดั้งเดิมของสหรัฐฯ ในประเด็นการค้าและความมั่นคง ตลอดจนการโจมตีธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ของเขา ทำให้ประเด็นนี้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีนักการเมืองกระแสหลักเข้าร่วมการอภิปรายมากขึ้น
สหพันธ์ผู้เสียภาษีแห่งเยอรมนี (Germany’s Taxpayers Federation) ได้ส่งจดหมายถึง Bundesbank และกระทรวงการคลัง เรียกร้องให้มีการส่งทองคำที่เก็บไว้ในสหรัฐฯ กลับประเทศ
“ทรัมป์ต้องการควบคุมธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งหมายความว่าเขาอาจควบคุมทองคำสำรองของเยอรมนีในสหรัฐฯ ด้วย” ไมเคิล แยเกอร์ รองประธานสหพันธ์ผู้เสียภาษีกล่าวกับรอยเตอร์ “นี่คือเงินของเรา ควรถูกนำกลับมา”
มาร์คุส แฟร์เบอร์ สมาชิกผู้ทรงอิทธิพลในรัฐสภายุโรปจากพรรคคริสเตียนเดโมแครตของเยอรมนี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล กล่าวว่า สหรัฐฯ “ไม่ใช่พันธมิตรที่ไว้วางใจได้เหมือนในอดีตอีกต่อไป”
“ทรัมป์เป็นคนที่คาดเดาไม่ได้ และเราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่เขาจะคิดหา ‘วิธีสร้างสรรค์’ ในการจัดการกับทองคำสำรองของประเทศอื่น” แฟร์เบอร์กล่าวกับรอยเตอร์ “นโยบายของ Bundesbank เกี่ยวกับทองคำสำรองควรสะท้อนถึงความเป็นจริงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนไป”
สถานีโทรทัศน์สาธารณะของเยอรมนีอย่าง ZDF และ ARD ก็เพิ่งเผยแพร่รายงานที่ตั้งคำถามว่า ทองคำของเยอรมนีที่เก็บไว้ในนิวยอร์กยังปลอดภัยอยู่หรือไม่ Bundesbank หรือธนาคารกลางของเยอรมนี ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ในนิวยอร์ก (New York Fed) ยังคงเป็น “สถานที่จัดเก็บที่สำคัญ” สำหรับทองคำของตน
“เราไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ว่า New York Fed เป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ในการเก็บรักษาทองคำของเรา” ธนาคารกลางเยอรมนีกล่าวในการตอบคำถามของสำนักข่าวรอยเตอร์
กระทรวงการคลังของเยอรมนีได้ส่งเรื่องกลับไปยัง Bundesbank เมื่อรอยเตอร์สอบถาม พร้อมเน้นย้ำถึงความเป็นอิสระของธนาคารกลาง อย่างไรก็ตาม เพียงแค่มีสัญญาณว่าเยอรมนีกำลังพิจารณานำทองคำกลับจากนิวยอร์ก ก็อาจกลายเป็นประเด็นที่อ่อนไหวทางการเมือง เพราะอาจถูกตีความว่าเป็นความไม่ไว้วางใจต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และความเป็นอิสระของหน่วยงานนั้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็เพิ่งเน้นย้ำถึงความไว้วางใจที่มีต่อ Fed ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม การที่ทรัมป์วิจารณ์นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed บ่อยครั้ง — โดยที่วาระการดำรงตำแหน่งของเขากำลังจะสิ้นสุดภายในหนึ่งปี — ได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของความเป็นอิสระของ Fed และความมุ่งมั่นระยะยาวขององค์กรต่อพันธมิตรต่างประเทศ
ปีเตอร์ แบร์ริงเงอร์ (Peter Boehringer) ผู้อยู่เบื้องหลังการรณรงค์เรียกร้องให้นำทองคำกลับประเทศเมื่อสิบปีก่อน และปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค AfD กล่าวว่า เขารู้สึกว่าได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ทฤษฎีสมคบคิดอย่างที่เคยถูกกล่าวหา
“ตอนที่ผมเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับทองคำ ผมถูกมองว่าเป็นพวกเชื่อทฤษฎีสมคบคิด” เขากล่าว “แต่วันนี้ หลังจากที่ทรัมป์กลับมา ความกังวลของผมก็กลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปยอมรับและพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง”
เยอรมนีสะสมทองคำส่วนใหญ่ในช่วงที่เศรษฐกิจรุ่งเรืองจากการส่งออกในช่วงทศวรรษ 1950–1960 เหตุผลสำคัญที่เก็บทองบางส่วนไว้ในนิวยอร์กในช่วงสงครามเย็นคือเพื่อให้ทองคำอยู่ห่างจากรัสเซียในกรณีที่เกิดการรุกราน
ทองคำยังถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยยึดโยงพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐฯ ซึ่งยังคงมีฐานทัพอยู่หลายแห่งในเยอรมนี รวมถึงฐานทัพที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปนานแล้ว Bundesbank ก็ได้ทยอยนำทองคำ 300 ตันกลับจากนิวยอร์กในช่วงปี 2014–2017 โดยระบุว่า เป็นการ “สร้างความเชื่อมั่นภายในประเทศ”
แต่การรุกรานยูเครนของรัสเซีย และภัยคุกคามโดยนัยที่เหตุการณ์นี้มีต่อยุโรปทั้งทวีป อาจทำให้สมการทางภูมิรัฐศาสตร์ของเยอรมนีซับซ้อนขึ้นอีกครั้ง
สำหรับมาร์คุส แฟร์เบอร์ (Ferber) เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการกระจายความเสี่ยงของทองคำสำรอง ไปยังหลายแห่ง และอาจรวมถึงสถานที่ใหม่ ๆ ด้วย ปัจจุบันทองคำสำรองของเยอรมนีถูกเก็บไว้ที่สำนักงานใหญ่ของ Bundesbank ในแฟรงก์เฟิร์ต ในนิวยอร์ก และที่ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (Bank of England) ในกรุงลอนดอน
“สำหรับทองคำสำรอง การกระจายความเสี่ยงคือสิ่งสำคัญ การเอาไข่ทั้งหมดใส่ไว้ในตะกร้าไม่กี่ใบไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ” แฟร์เบอร์กล่าว โดยไม่ได้ระบุว่าทองคำควรถูกย้ายไปที่ใด
ฟริตซ์ เกินซ์เลอร์ (Fritz Guentzler) โฆษกพรรคคริสเตียนเดโมแครตในรัฐสภาเยอรมนี กล่าวว่า เขาไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไว้วางใจ Fed แต่ Bundesbank ควร “ดำเนินการตรวจสอบทองคำสำรองอย่างสม่ำเสมอ”
Bundesbank ระบุว่า ได้ทำการตรวจสอบตัวอย่างทองคำอย่างต่อเนื่อง และได้ตรวจสอบทองคำราว 13% ที่เก็บไว้ในนิวยอร์กตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ที่มา รอยเตอร์