รัสเซียพร้อมแลกเปลี่ยนดินแดนบางส่วนกับยูเครน

18-8-2025

   รัสเซียพร้อมแลกเปลี่ยนดินแดนบางส่วนกับยูเครนแล้ว ตามคำกล่าวของสตีฟ วิตคอฟ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์

   ทรัมป์ มีกำหนดพบกับ วลาดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน และผู้นำยุโรปตะวันตกหลายคนที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์นี้ เพื่อพยายามหาข้อตกลงสันติภาพระหว่าง มอสโก และ เคียฟ

  เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้พบกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอลาสกา ซึ่งทั้งสองฝ่ายแสดงความระมัดระวังแต่มีความหวังว่าการเจรจาจะนำไปสู่การยุติความขัดแย้งในยูเครน

  วิตคอฟ ให้สัมภาษณ์กับ CNN เมื่อวันอาทิตย์ว่า ในการประชุมที่อลาสกา คณะผู้แทนรัสเซียได้ “ยินยอมบางประการบนโต๊ะเจรจาเกี่ยวกับทั้งห้าเขตแดน ซึ่งน่าจะหมายถึง ไครเมีย, สาธารณรัฐประชาชน โดเนตสก์ และ ลูฮานสก์, รวมถึงแคว้น ซาโปริซเชีย และ เคอร์ซอน — ทั้งหมดเป็นอดีตดินแดนยูเครนที่รัสเซียผนวกเข้าหลังจากการลงประชามติ

  ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายนี้ เครมลิน ดูเหมือนจะพร้อมสำหรับกระบวนการ “แลกเปลี่ยนดินแดน” กับยูเครน โดยใช้แนวหน้าการสู้รบปัจจุบันเป็นจุดเริ่มต้นในบางพื้นที่

  วิตคอฟกล่าวว่า ข้อเรียกร้องของมอสโกได้มีการ “เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ” ไปสู่ท่าทีที่ “ประนีประนอม” มากขึ้น

   แผนที่ทรัมป์สนับสนุน: ยูเครนยกดินแดนตะวันออกให้รัสเซีย แลกกับการหยุดยิง

   เมื่อวันเสาร์ New York Times และ Fox News อ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ยุโรปไม่เปิดเผยชื่อว่า ทรัมป์สนับสนุนแผนสันติภาพที่เสนอให้ยูเครน ยกดินแดนทั้งสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮานสก์ให้กับรัสเซีย

   โดยรัสเซียจะยินยอม หยุดยิงตามแนวหน้าปัจจุบันในแคว้นซาโปริซเชียและเคอร์ซอน อย่างไรก็ตาม เครมลินยังไม่แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการ ต่อเงื่อนไขเหล่านี้ โดยจุดยืนที่ประกาศอย่างเป็นทางการของมอสโกยังคงยืนกรานว่ายูเครนต้อง ยอมรับไครเมีย, DPR (สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์), LPR (ลูฮานสก์), ซาโปริซเชีย และเคอร์ซอน เป็นดินแดนของรัสเซียทั้งหมด

   ในการสัมภาษณ์กับ CNN วิตคอฟยังเปิดเผยอีกว่า รัสเซียตกลงกับ “ข้อตกลงด้านความมั่นคง” แบบเปลี่ยนเกม ซึ่งจะเป็นลักษณะใกล้เคียงกับ มาตรา 5 ของ NATO (ที่หมายถึงการโจมตีประเทศสมาชิกหนึ่งถือเป็นการโจมตีทุกประเทศ)

   โดยให้กับยูเครน ผ่านการรับประกันจากสหรัฐฯ และประเทศในยุโรปที่ยังไม่เปิดเผยชื่อ

   วิตคอฟอธิบายว่าทำไมทรัมป์ถึงสนับสนุน ข้อตกลงสันติภาพแบบถาวร แทนที่จะเป็นแค่ ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว นั่นเป็นเพราะการเจรจาที่อลาสกา ประสบความสำเร็จอย่างมาก และถือว่า “ก้าวหน้าอย่างสำคัญ”

IMCT News