ข้อตกลงก๊าซรัสเซีย-จีน เสี่ยงมาตรการคว่ำบาตร

ข้อตกลงก๊าซรัสเซีย-จีน เพิ่มความเสี่ยงจาก 'มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก'
17-9-2025
Asia Times รายงานว่า ดีลท่อส่งก๊าซปรับเปลี่ยนระเบียบพลังงานยูเรเชีย เมื่อปักกิ่งยอมประนีประนอมเส้นทางแลกกับก๊าซราคาถูก
ข้อตกลงล่าสุดในการสร้างท่อก๊าซ “Power of Siberia 2” ระหว่างจีน รัสเซีย และมองโกเลีย กำลังถูกจับตามองว่าจะเปลี่ยนโฉมภูมิรัฐศาสตร์พลังงานยูเรเชีย และเพิ่มความเสี่ยงต่อมาตรการคว่ำบาตรจากโลกตะวันตก
เมื่อวันที่ 2 กันยายน ทั้งสามประเทศได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่มีผลผูกพันทางกฎหมายเพื่อเดินหน้าสร้างท่อก๊าซธรรมชาติสายดังกล่าว ซึ่งจะส่งก๊าซ 50,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีจากรัสเซียไปยังจีนผ่านมองโกเลีย โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี 2031–2032 ทั้งนี้ ข้อตกลงสะท้อนการยอมรับของปักกิ่งต่อข้อเสนอให้ท่อผ่านมองโกเลีย แลกกับส่วนลดราคาก๊าซและค่าธรรมเนียมจากมอสโก
หลี่ หลี่ฟ่าน (Li Lifan) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่ Shanghai Academy of Social Sciences ระบุว่า “ประเด็นเส้นทางและราคาคืออุปสรรคหลักในการเจรจา แต่จีนยอมรับเส้นทางมองโกเลีย ขณะที่รัสเซียยินยอมลดราคาและค่าผ่านแดน” เขาชี้ว่าดีลนี้จะทำให้ปริมาณการค้าก๊าซจีน-รัสเซียรวมเพิ่มเป็น 106,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี หรือราวหนึ่งในห้าของความต้องการก๊าซปัจจุบันของจีน
นักวิเคราะห์มองว่าข้อตกลงมีผลดี 3 ด้านคือ ขยายความร่วมมือด้านพลังงานไปสู่ LNG และไฟฟ้า มอบรายได้มหาศาลและโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่แก่ประเทศมองโกเลีย และจัดวางรัสเซียให้เป็นซัพพลายเออร์หลักของจีนในทศวรรษหน้า
คอลัมนิสต์พลังงานจากเหอเป่ยระบุว่า จีนสามารถกดดันรัสเซียจนต้องให้ส่วนลดราคาครั้งใหญ่ เพราะมอสโกถูกบีบจากคว่ำบาตรตะวันตกและสงครามในยูเครน อีกทั้งเส้นทางผ่านมองโกเลียช่วยลดความเสี่ยงในการพึ่งพา LNG ที่ขนส่งทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งมักถูกมองว่าเปราะบางต่อความขัดแย้ง
ขณะเดียวกัน ข้อกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังมีอยู่ โดยมองโกเลียมีนโยบาย “เพื่อนบ้านที่สาม” (Third Neighbor) เพื่อสร้างสัมพันธ์กับชาติตะวันตก และอาจเป็นช่องโหว่ในความมั่นคงทางพลังงาน อย่างไรก็ตาม รัสเซียได้เสนอมาตรการสำรอง หากมองโกเลียเกิดปัญหา จีนจะสามารถรับก๊าซผ่านคาซัคสถานได้ และค่าใช้จ่ายส่วนเกินรัสเซียรับผิดชอบ ทำให้ปักกิ่งเชื่อมั่นเพียงพอที่จะบรรลุข้อตกลง
ปฏิกิริยาตะวันตก
นักวิเคราะห์ตะวันตกระบุว่าการที่ปักกิ่งยังไม่ยืนยันรายละเอียดอย่างเป็นทางการ อาจเป็นการเลี่ยงไม่ให้ตนเองตกเป็นเป้าการคว่ำบาตรและมาตรการภาษีเพิ่มจากสหรัฐและพันธมิตร ขณะที่ความจุของท่อก๊าซใหม่นี้ (50 bcm) เกือบเทียบเท่าท่อ Nord Stream 1 ที่เคยป้อนยุโรปกว่า 55 bcm ต่อปี ก่อนรัสเซียรุกรานยูเครน
การส่งก๊าซของรัสเซียไปยุโรปลดลงอย่างมากจาก 150 bcm ในปี 2021 เหลือเพียง 52 bcm ในปี 2023 หลังเยอรมนีระงับโครงการ Nord Stream 2 และสหภาพยุโรปเร่งลดพึ่งพาพลังงานรัสเซีย ทำให้มอสโกหันไปหาตลาดเอเชีย โดยเฉพาะจีน ถือเป็นการพลิกแนวทางด้านพลังงานระหว่างมหาอำนาจ
ด้านสหรัฐ ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ผลักดันการเจรจาหยุดยิงยูเครน-รัสเซีย พร้อมขึ้นภาษีนำเข้าน้ำมันรัสเซียจากอินเดีย แต่ยังคงเลี่ยงไม่เก็บภาษีจากจีน ขณะที่สองนักวิชาการจาก Atlantic Council เตือนว่าโครงการ Power of Siberia 2 อาจบั่นทอนความพยายามของตะวันตกในการจำกัดสงคราม โดยช่วยหนุนเศรษฐกิจรัสเซียและเสริมอำนาจการเมืองแก่ปูติน (Vladimir Putin)
พวกเขาเสนอให้สหรัฐและพันธมิตรยุโรปพิจารณาใช้ “มาตรการคว่ำบาตรทุติยภูมิ” เจาะจงไปยังบริษัทพลังงานรัสเซียหรือบริษัทจีนที่สนับสนุนสงคราม ขณะเดียวกัน สหรัฐยังส่งสัญญาณต่อประเทศกลุ่ม G7 ให้พิจารณาจัดเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันจากจีนและอินเดียในอัตรา 50–100% เพื่อบั่นทอนรายได้จากพลังงานที่ยังคงหล่อเลี้ยงการทำสงครามของมอสโก
---
IMCT NEWS
ที่มา https://asiatimes.com/2025/09/china-russia-gas-pact-heightens-western-sanctions-risks/
Photo: Gazprom