ถึงเวลาที่ต้องเลิกเรียกบิตคอยน์ว่า 'ทองคำดิจิทัล'  หลังพิสูจน์แล้วว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยง ที่ผันผวนสูง

15-10-2025

   Money Metals รายงานเชิงวิเคราะห์ว่า การล่มสลายฉับพลันของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี (crypto flash crash) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีชนวนเหตุมาจากการประกาศเพิ่มภาษีศุลกากรต่อจีน (China) และการควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์โดย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยง (risk assets) ตั้งแต่ตลาดหุ้นไปจนถึงคริปโทเคอร์เรนซีเกิดการเทขายครั้งใหญ่

   เหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดการชำระบัญชี (mass liquidations) ครั้งมหาศาลของผู้ค้าที่ใช้เลเวอเรจ (highly leveraged traders) ซึ่งเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่ามีเพียง โลหะมีค่า (precious metals) เท่านั้นที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งพักพิงที่ปลอดภัย (safe haven asset) ได้อย่างแท้จริง และถึงเวลาแล้วที่ต้องยุติการเรียก Bitcoin (BTC) ว่า "ทองคำดิจิทัล (digital gold)" ตามที่ผู้สนับสนุนหลายรายกล่าวอ้าง

ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง Bitcoin และ Gold

การล่มสลายฉับพลันของตลาดคริปโทฯ (crypto flash crash) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการชำระบัญชีคิดเป็นมูลค่ารวมถึง 19.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าการขาดทุนที่เห็นในช่วงวิกฤต COVID-19 (ประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และเหตุการณ์ล่มสลายของ FTX (ประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) กว่า 10 เท่า

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) โดยรวมได้รับผลกระทบในวงกว้าง โดยดัชนี Global 30 Crypto Index ร่วงลงถึง 30% จากจุดสูงสุดในต้นเดือนตุลาคม ขณะที่ราคา Bitcoin ร่วงลงจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ 126,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สู่ระดับต่ำสุดที่ 107,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงที่เกิดการล่มสลายอย่างหนัก

จุดสำคัญของรายงานนี้คือความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างผลการดำเนินงานของ Bitcoin และ ทองคำ (Gold) ในช่วงที่สินทรัพย์เสี่ยงเผชิญวิกฤต ทองคำ (Gold) สามารถยืนหยัดและปรับตัวขึ้น ในขณะที่ Bitcoin กลับดิ่งลงอย่างรุนแรง

รูปแบบดังกล่าวได้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในวิกฤตภูมิรัฐศาสตร์หลายครั้ง ซึ่งรวมถึง:

เหตุการณ์ที่ อิสราเอล (Israel) โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของ อิหร่าน (Iran) ในเดือนมิถุนายนของปีนี้

การโจมตีอิสราเอล (Israel) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023

การโจมตีตอบโต้ของอิหร่าน (Iran) ต่ออิสราเอล (Israel) ในเดือนเมษายน 2024

การที่ Bitcoin ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์หลบภัยในช่วงเวลาแห่งความเครียดในตลาด (market stress) เช่นเดียวกับทองคำ ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าคำว่า "ทองคำดิจิทัล" เป็นเพียงการกล่าวอ้างที่ขาดความจริง

Bitcoin: การเดิมพันแบบมีเลเวอเรจในหุ้นเทคโนโลยี

ข้อกังวลหลักอีกประการหนึ่งคือ Bitcoin มีการซื้อขายคล้ายกับการเดิมพันแบบมีเลเวอเรจ (leveraged bet) กับดัชนีหุ้นเทคโนโลยี Nasdaq 100 ซึ่งปรากฏชัดในการเคลื่อนไหวของราคาวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทั้ง Bitcoin และ Nasdaq 100 ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในรูปแบบที่เกือบจะเหมือนกัน ซึ่งต่างจาก ทองคำ (Gold) ที่ปรับตัวขึ้น

จากการวิเคราะห์ข้อมูลรายสัปดาห์ตั้งแต่ปี 2019 พบว่ามี ความสัมพันธ์ที่สูงถึง 92% ระหว่าง Bitcoin และ Nasdaq 100 ความสัมพันธ์ที่สูงผิดปกตินี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนที่ถือครองทั้ง Bitcoin และหุ้นเทคโนโลยีควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากทำให้พอร์ตการลงทุนมีความหลากหลาย (diversified) น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

ผู้เขียนบทวิเคราะห์มีความกังวลว่า Nasdaq 100 และตลาดหุ้นสหรัฐฯ (US stock market) โดยรวมกำลังอยู่ในภาวะ ฟองสบู่ครั้งใหญ่ (massive bubble) โดยมีมูลค่าสูงเกินกว่าที่เคยเห็นในช่วงยุค ดอตคอม (dot-com era) ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ซึ่งฟองสบู่ในครั้งนั้นได้จบลงด้วยตลาดหมี (brutal bear market)

มาตรวัดมูลค่าหลายตัวยืนยันว่า Nasdaq 100 มีมูลค่าสูงเกินไปอย่างมาก โดยเฉพาะอัตราส่วน Nasdaq 100 ต่อปริมาณเงิน M2 (Nasdaq 100 to M2 money supply ratio) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าดัชนีได้แซงหน้าการเติบโตของปริมาณเงินอย่างมาก เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ก่อนวิกฤตดอตคอม (dot-com crash)

สรุปและมุมมองในอนาคต

การล่มสลายฉับพลันของ Bitcoin และคริปโทเคอร์เรนซีอื่น ๆ เมื่อวันศุกร์เป็นการตอกย้ำว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ไม่ใช่สินทรัพย์หลบภัยที่แท้จริงในหมวดหมู่เดียวกับ ทองคำ (Gold) และ เงิน (Silver)

การประเมินที่สมจริงและตรงไปตรงมามากขึ้นคือ Bitcoin มีพฤติกรรมเป็นสินทรัพย์เสี่ยงเชิงเก็งกำไร (speculative risk asset) คล้ายกับการเดิมพันแบบมีเลเวอเรจในหุ้นเทคโนโลยี

ผู้เขียนบทวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย และคาดหวังว่าการล่มสลายครั้งสุดท้าย (terminal crash) จะมาถึง ซึ่งจะถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ขับเคลื่อนเงินทุนจำนวนมากเข้าสู่ โลหะมีค่า (precious metals) ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เหล่านี้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/10/13/its-time-to-stop-calling-bitcoin-digital-gold-004405